บันเทิง

สาวป๊อปไต้หวัน"โจแอนนา หวัง"เยือนไทยโชว์เสียงหวาน

สาวป๊อปไต้หวัน"โจแอนนา หวัง"เยือนไทยโชว์เสียงหวาน

27 พ.ค. 2552

แฟนเพลงโฟล์กป๊อปโดยเฉพาะผู้ฟังคลื่น เวฟ เอฟเอ็ม 88 ก็ได้สมหวังกันไปแล้วกับโชว์เคสสุดพิเศษของนักร้องสาวเสียงดีชาวไต้หวัน โจแอนนา หวัง ที่มาเปิดการแสดงสดเล็กๆ พร้อมพูดคุยกับแฟนเพลงที่โรงละครอักษราในคิงพาวเวอร์คอมเพล็กซ์

เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา งานนี้ โจแอนนา ขนเพลงฮิตจากอัลบั้มล่าสุดไม่ว่าจะเป็นเพลง "Tikiville", "Adult Crap" และเพลงดังจากอัลบั้มแรกอย่าง "His Remedy", "Bada Bada" และ "For No Reason' ก่อนจบโชว์ โจแอนนา ยังแถมให้อีกสองเพลงคือคัฟเวอร์เวอร์ชั่นเพลง "Honey Pie" ของ เดอะ บีทเทิลส์ และ "Vincent" ของ ดอน แม็คลีน

 โจแอนนา ในวัย 20 เริ่มต้นอาชีพนักดนตรีจากอัลบั้มแรก "Start from Here" ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้วพร้อมกับเพลงฮิต "Lost In Paradise" ด้วยน้ำเสียงและสำเนียงการร้องที่ต่างจากนักร้องเอเชียทั่วไป พร้อมทั้งความสามารถในการแต่งเพลง ทำให้ โจแอนนา กลายเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่ถูกจับตามอง และคว้ารางวัลด้านดนตรีในเอเชียหลายรางวัล รวมทั้งรางวัลนักแต่งเพลงและการแสดงสดยอดเยี่ยมด้วย ปีนี้ โจแอนนา สานต่อความสำเร็จกับอัลบั้มชุดที่สอง "Joanna and Wang Ruo Lin" ที่ออกมาทั้งภาษาอังกฤษและจีน ส่งให้เธอกลายเป็นนักร้องจีนที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นในวงกว้าง

 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่นักร้องสาวจะเดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตในจีนต่อ "คม ชัด ลึก" มีโอกาสพูดคุยกับสาวมั่นมากความสามารถถึงความรู้สึกที่ได้มาเมืองไทย...

มาเมืองไทยครั้งแรกรู้สึกอย่างไร
ก็ดีค่ะ แปลกๆ ดี แต่ไม่ได้ไปไหนเพราะไม่มีเวลา มาถึงก็แสดงคอนเสิร์ตเลย แล้วก็ไปเมืองจีนต่อทันที

อิทธิพลทางดนตรีของคุณคืออะไร
ฉันฟังเยอะนะคะตอนเด็กๆ ก็เลยซึมซับเรื่องดนตรีไปมาก โดยเฉพาะพวกเพลงป๊อป ร็อกและคลาสสิกด้วย  อ้อ...แล้วก็พวกเพลงประกอบหนังด้วย ฉันชอบวงอย่าง เดอะ บีทเทิลส์, เบน โฟลด์ส ไฟฟ์, จามิโรไควร์, เพลงการ์ตูนและหนังดิสนีย์ ฉันไม่เคยคิดเลยนะคะว่าวันหนึ่งจะมาเป็นนักร้องออกเทป ถึงพ่อฉันจะเป็นโปรดิวเซอร์ก็เถอะ มันเป็นเรื่องของความบังเอิญมากกว่าที่มีโอกาสมาถึงและฉันก็ไม่อยากพลาดโอกาสไป

ตอนเด็กๆ อยากเป็นอะไร
อยากเล่นแซกโซโฟนค่ะ ตอนเด็กๆ เคยหัดเล่นแล้วก็ยอมแพ้ไป มาเล่นกีตาร์แทน

มารู้ตัวตอนไหนว่าเราแต่งเพลงได้
ตอนนั้นฉันเอากีตาร์มาดีดเล่น ใส่คอร์ดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แล้วเมโลดี้มันก็เริ่มเข้ามาในหัว นั่นแหละค่ะเพลงแรกที่ฉันแต่ง เพลงนั้นไม่มีเนื้อร้องนะคะ เป็นเพลงบรรเลง ส่วนเรื่องการเขียนเนื้อมาทีหลังค่ะ ส่วนใหญ่ฉันจะแต่งทำนองก่อนแล้วค่อยดูว่าเพลงนี้ควรมีเนื้อร้องแบบไหน หรือควรเป็นเพลงบรรเลงเฉยๆ ส่วนใหญ่ก็เอาเรื่องราวมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของฉันนี่แหละ แล้วก็เรื่องรอบๆ ตัว

คุณพ่อคงภูมิใจมากที่ลูกสาวได้เป็นศิลปิน
ค่ะ ตอนนั้นเราแต่งเพลงด้วยกัน แล้วก็อัดเดโมเทปกันสนุกๆ ยังไงไม่รู้เดโมนั้นก็ทำให้ฉันมาอยู่ตรงนี้

แล้วตอนนี้สนุกไหม
ไม่เลยค่ะ (หัวเราะ) ไม่เคยคิดเลยว่ามาเป็นนักร้องจริงๆ จะถูกจำกัดอิสระขนาดนี้ คือตอนแรกๆ ที่เข้าวงการก็พอจะรู้บ้างนะคะ ว่าภาคธุรกิจกับศิลปะมันคงจะไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ และเมื่อเราเซ็นสัญญาแล้วเราก็ต้องทำตามเงื่อนไขบางอย่างของค่ายด้วย ชีวิตส่วนตัวก็ยังไม่ต่างจากเดิมนะคะ ฉันก็ยังหมกตัวในห้องเขียนเพลงอย่างที่ฉันอยากเขียน แต่ชีวิตด้านการงานบอกเลยว่าไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่

แล้วอยากให้มันเป็นอย่างไร
ก็อยากมีอิสระในสิ่งที่ทำมากกว่านี้น่ะค่ะ ตอนเซ็นสัญญาฉันคาดหวังจะได้อิสระมากกว่านี้ มันก็อย่างนี้แหละค่ะ แม้แต่พ่อก็ไม่รู้ค่ะว่าการเป็นนักร้องเป็นยังไง เพราะพ่อเคยอยู่แต่เบื้องหลัง

แต่คุณก็มีอิสระมากขึ้นกับอัลบั้มชุดที่สองนี้
ค่ะ ชุดแรกเป็นอะไรที่ไม่ใช่ฉันเลย ชุดนี้ฉันแต่งเพลงเองมากขึ้น กำหนดทิศทางดนตรีเองมากขึ้น จริงๆ แล้วที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะเราอัดเพลงกันเองโดยไม่ผ่านค่าย คือเรามีงบอยู่นิดหน่อยที่พอจะทำกันเองได้ ก็เลยลงมือกันเลย สุดท้ายค่ายก็บอกว่าเพลงที่เราทำมันไม่น่าจะขายได้ เลยอัดกันใหม่เป็นอีกซีดีนี่แหละค่ะ

คุณทำเพลงทั้งภาษาอังกฤษและจีนด้วย
ใช่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันค่ะ มันเป็นอะไรที่กินเวลามากเลย บางทีอัดเพลงหนึ่งเสร็จแล้วก็ต้องมาทำซ้ำอีกเป็นอีกภาษาหนึ่ง เหนื่อยมากเลยค่ะ เหมือนงานไม่เสร็จสักที โดยเฉพาะตอนที่ไม่มีเวลามาก

เห็นว่าตอนนี้คุณวางแผนทำอัลบั้มที่สามแล้ว
ใช่ค่ะ คิดไว้แล้วในหัว ฉันเริ่มแต่งเพลงบ้างแล้ว ต้องเอามาเรียบเรียงอีกที เพลงส่วนใหญ่ก็น่าจะคล้ายๆ กับอัลบั้มนี้ค่ะ แต่ภาคดนตรีจะพิสดารกว่านี้หน่อย

เวลาว่างชอบทำอะไร
เล่นวิดีโอเกมค่ะ ฉันชอบมากเลยโดยเฉพาะ เวิลด์ ออฟ วอร์คราฟต์ ทู ถ้าว่างนานๆ ก็จะไปพักผ่อนที่อเมริกา เพราะเพื่อนๆ ส่วนใหญ่อยู่ที่นั่น
มองอนาคตตัวเองในอีก 5 ปีเป็นอย่างไร
ก็คงแก่กว่านี้ (หัวเราะ) อาจจะอ้วนขึ้นนิดหน่อย และหวังว่าคงจะยังทำดนตรีอย่างที่ชอบอยู่ค่ะ

เรื่อง: มันตา คลังบุญครอง