บันเทิง

ความเป็นไปได้ของทัวร์ตามรอยหนัง/ละครไทย

ความเป็นไปได้ของทัวร์ตามรอยหนัง/ละครไทย

09 พ.ย. 2555

ความเป็นไปได้ของทัวร์ตามรอยหนัง/ละครไทย : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม

          ขณะที่เขียนคอลัมน์นี้ ผมอยู่ที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ครับ บนยอดภูความสูง 1,768 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศ ณ เวลาสองทุ่มประมาณ 27 องศาเซลเซียส เรียกว่ากำลังเย็นสบายทีเดียว คนท้องถิ่นที่นี่บอกว่า ยอดภูทับเบิกสูงเป็นอันดับสองรองจากดอยอินทนนท์
 
          ระหว่างขับรถขึ้นมาบนภู รีสอร์ทบางแห่งปักป้ายโฆษณาเสียใหญ่โตว่า ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละคร “ธรณีนีนี้ใครครอง” มาแล้ว เข้าใจว่าเจ้าของรีสอร์ทคงพยายามหาจุดขายให้รีสอร์ทตัวเอง (แต่จะสามารถเรียกนักท่องเที่ยวได้มากแค่ไหนนั้น ก็เป็นอีกเรื่อง!)
 
          ผมกลับไปย้อนนึกว่า หลายปีมานี้ เราเสียดุลการค้าทางวัฒนธรรมให้เกาหลีใต้ไปพอสมควร เราเสียเงินซื้อทัวร์ไปเที่ยวตามรอยซีรีส์ดังมากมาย ใครไปเที่ยวเกาหลีต้องไม่พลาดเกาะนามิ สถานที่ถ่ายทำหนังและซีรีส์หลายเรื่อง แต่ถ้าหนังหรือละครไทย สามารถนำสถานที่ถ่ายทำ มาพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวบ้างก็คงจะดีไม่น้อย ทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คนไทยและต่างประเทศได้รู้จักและอยากมาเยือนบ้าง เผลอๆ อาจจะกลายเป็นธุรกิจท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้ประเทศได้ไม่น้อย ไม่แพ้ชาติเพื่อนบ้านอย่างเกาหลี
 
          หลายปีก่อน หนังไทยเรื่อง “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” ที่พระเอกหนุ่ม อนันดา เอเวอริ่งแฮม กวาดรางวัลนักแสดงนำชายไปเกือบทุกสถาบันในบ้านเรา ก็ช่วยปลุกกระแสให้ ‘ปางอุ๋ง’ ในจ.แม่ฮ่องสอน กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากคนที่ได้ดูหนังเห็นความงามของธรรมชาติที่นี่ จนต้องออกตามไปเยือนให้เห็นจริงๆ กับตาในที่สุด จะว่าไปหนังไทยหลายเรื่อง มีการถ่ายทำในสถานที่สวยงาม เห็นบรรยากาศบริสุทธิ์ของธรรมชาติมากมาย ทั้งภูเขา แม่น้ำ หาดทรายและท้องทะเล
 
          ไม่เพียงแค่ ‘ภูทับเบิก’ ในละครธรณีนี่นี้ใครครอง ‘ปางอุ๋ง’ ในหนังแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แต่ยังมี “รีสอร์ท เก๊าไม้ล้านนา ที่ลำพูน” ในหนัง Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ รวมทั้ง ปากช่อง เขาใหญ่ มวกเหล็ก วังน้ำเขียว ในละครชุด 4 หัวใจแห่งขุนเขา เมื่อละครฮิตและหนังเป็นที่พูดถึง เหตุใดสถานที่ถ่ายทำในหนังหรือละครเหล่านั้น จะไม่เป็นที่สนใจบ้างเล่า
 
          ตามเว็บบอร์ด หรือเว็บบล็อกหลายแห่ง มีแฟนหนังหรือละคร ออกท่องเที่ยวตามรอยสถานที่ถ่ายทำในหนังและละครดังๆ มากมาย โพสต์ภาพถ่ายสวยๆ ให้ดูเป็นที่ระลึก หากแต่ยังไม่มีใครคิดทำเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง หรือส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านหนังหรือละคร อย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียที
 
          ลองเมียงมองเงื่อนไขบางอย่างกันดูครับว่า ทำไมธุรกิจท่องเที่ยวตามรอยหนังหรือละครไทยจึงเกิดขึ้นได้ยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้ เริ่มจากละครโทรทัศน์ก่อน รู้กันว่าละครทีวีไม่ว่าจะหลังข่าวหรือก่อนข่าวนั้น อยู่ในช่วงขาขึ้น เรียกว่าแม้ละครบางเรื่องจะเพิ่งจบลงไป กระแสความนิยมยังไม่ทันจาง เรื่องใหม่ที่เพิ่งออกอากาศได้ไม่กี่วันก็เป็นที่พูดถึงทั่วบ้านทั่วเมือง กลายเป็นละครฮิตโด่งดังเพียงแค่ออกอากาศไม่กี่ตอน และเมื่อละครหลังข่าวได้รับความนิยมแทบจะเรื่องต่อเรื่อง ออกอากาศชนกันช่องต่อช่องเช่นนี้ คนดูยังไม่ทันได้หายคิดถึงเรื่องเก่า ละครเรื่องใหม่จะแทบจะดึงความสนใจไปในทันที


          ดังนั้นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นฉากหรือสถานที่ถ่ายทำ จึงถูกลดความสนใจลงไปโดยปริยาย นานๆ ครั้งพอมีคนหวนรำลึกนึกถึง ออกตามรอยเก็บภาพสวยๆ ในละครที่เคยอยู่ในความทรงจำมารำลึกนึกถึงกันอีกครั้ง จึงไม่มีพลังหรือศักยภาพพอที่จะขยับขยายให้เป็นธุรกิจได้ นอกจากการฉวยโอกาสในช่วงเวลาสั้นๆ โดยเจ้าของสถานที่ถ่ายทำนั้นเอง ที่ใช้เครดิตของละครมาช่วยเรียกความสนใจของนักท่องเที่ยว ไม่นับรวมธุรกิจตามรอยสถานที่ถ่ายทำของหนังซึ่งแทบไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะในช่วง 10 ปีให้หลังมานี้ แทบไม่มีหนังไทยเรื่องไหนประสบความสำเร็จในระดับปรากฏการณ์ จนสามารถสร้างกระแสความนิยมต่อเนื่องเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ส่วนอื่นๆ ตามมา สิ่งที่งอกเงยจากหนังฮิตส่วนใหญ่จึงตกไปอยู่ที่นักแสดง ดังที่เคยเกิดขึ้นกับหนัง “แฟนฉัน” “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” “กวนมึนโฮ” ฯ หรือกระแสความนิยมในดนตรีไทยอย่างระนาดจาก “โหมโรง” ความสนใจในเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์จาก “สุริโยไท” และ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ซึ่งเรื่องหลังนี้ เกือบจะทำสำเร็จมาแล้ว จากการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์โรงถ่ายภาพยนตร์ที่ จ.กาญจนบุรี หลังภาค 4 ออกฉาย มีผู้คนให้ความสนใจเข้าชมมากสมควร ก่อนที่กระแสความนิยมดังกล่าวจะเลือนหายในเวลาอันรวดเร็ว (ซึ่งน่าสนใจว่า ถ้าทีมผู้สร้าง จัดกิจกรรมหรือทำการตลาดเกี่ยวกับโรงถ่ายหนัง ‘นเรศวร’ อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นโมเดลธุรกิจเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นกับยูนิเวอร์แซล สตูดิโอก็เป็นได้


          ทุกวันนี้อย่าว่าแต่คิดต่อยอดธุรกิจหนังด้วยการจัดทัวร์สถานที่ถ่ายทำเลย แค่คิดว่าทำอย่างไรให้คนมาเข้าโรงดูหนังไทยยังเป็นเรื่องยากแสนยาก แต่อย่างน้อยก็ไม่ควรมองผ่านเลย เพราะละครทีวีไทยที่มักจะได้รับคำปรามาสว่า ‘น้ำเน่า’ นั้น ผู้จัดละครบางราย พบว่า แม้ละครจบไปแล้ว แต่คนดูยังไม่จบตาม หากแต่ยังรำลึกนึกถึงความรู้สึกดีๆ หรือคืนวันเก่าๆ รวมถึงสถานที่ที่ทำให้พวกเขาประทับใจจนอยากไปเยือนด้วยตัวเองจริงๆ ขาดก็แต่ใครจะมาทำให้ความฝันของคอละครมากมายได้เป็นจริงเป็นจังเสียที
.......................................
(หมายเหตุ ความเป็นไปได้ของทัวร์ตามรอยหนัง/ละครไทย : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม )