บันเทิง

ดวงเดือนบนหลังเกวียน

ดวงเดือนบนหลังเกวียน

08 พ.ย. 2555

ดวงเดือนบนหลังเกวียน : โดย... นกไร้เงา

          ผมเพิ่งหายจากอาการป่วย จริงๆ แล้ว ผมมักคิดถึงความตายทุกครั้งเมื่อไม่สบายมากๆ หรือเมื่อร่างกายผิดปกติจนไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้ ใครบ้างที่อยากเจ็บไข้ได้ป่วย ใครบ้างไม่อยากมีชีวิตยืนยาวไร้โรคภัย ลาภอันประเสริฐบางครั้งก็อยู่กับเราชั่วครู่ชั่วคราวแล้วก็จากไป

          ผมเปิดดูรายการ The Voice Thailand ย้อนหลังทางยูทูป เข้าไปเจอคุณ ปุ้ย ดวงพร พงศ์ผาสุก ที่นำเพลงลาวดวงเดือนมาใช้ร้องในการแข่งขัน ผมไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนักกับกระแสที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำอย่างทุกวันนี้ เหมือนกับว่าคลื่นลูกไหนอะไรหลายอย่างก็ตามมักจะมีอายุที่สั้นเหลือเกิน คือ มันสว่างวาบเหมือนก้อนอุกกาบาตก่อนกลายร่างเป็นดาวตก แล้วจากนั้นก็ทิ้งให้ท้องฟ้ามืดมิด
 
          โดยส่วนตัวผมชอบเพลงนี้มาตั้งแต่ตอนเรียนชั้นประถมแล้ว ตอนนั้นผมเพิ่งได้เริ่มหัดเล่นระนาดทุ้มเป็นครั้งแรก โดยพ่อครูดนตรีประจำหมู่บ้านมาสอนให้พวกเราที่โรงเรียน ผมเริ่มหัดเพลงลาวเสี่ยงเทียนเป็นเพลงแรก จากนั้นผมก็ขยับตำแหน่งไปเล่นระนาดเอก พอมาถึงตำแหน่งสุดท้ายที่ผมจะเล่นมันจนไปจบชั้นประถมนี้เอง พวกเราก็ได้เล่นเพลงลาวดวงเดือน
 
          พ่อครูดนตรีสอนให้พวกเราหัดร้องเพลงนี้กันก่อน “โอ้ละหนอ ดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง” หลังจากนั้นผมก็ได้ตำแหน่งคนเป่าปี่แน ซึ่งเวลานั้นเด็กชายอีกคนที่ฝึกอยู่เป่าไม่ได้สักที เขาตัวโตร่างใหญ่ค่อนไปทางเจ้าเนื้อนิดๆ ดูแล้วเหมาะสำหรับจะเล่นเครื่องดนตรีที่ใช้ลมเยอะอย่างปี่แนได้สบาย แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สามารถเล่นเป็นเพลงได้ วิบากกรรมตกมาถึงเด็กชายตัวเล็กๆ ผอมแห้งแรงน้อยอย่างผม และก็เหมือนมันจะลิขิตให้ผมต้องขายหน้าในงานศพงานหนึ่งหลังจากนั้น

          เมื่อเป่าไปนานๆ แรงลมที่มีอยู่ของผมก็หมด เสียงปี่แนขาดหายไปจากการบรรเลงของวง ผมจำได้ว่าตัวเองอายจนร้องไห้ จนเรียนจบชั้นประถมแล้วเข้ามาใช้ชีวิตในมหานคร ผมก็ไม่เคยได้สัมผัสกลิ่นใบตาลจากลิ้นของปี่แนอีกเลย เช่นเดียวกับที่ผมไม่เคยรู้ว่า เจ้าสาวคำดวงในเพลงลาวดวงเดือนนั้นหมายถึงใคร ผมได้ยินเพลงลาวดวงเดือนอีกหลายครั้ง แตกต่างไปหลากเวอร์ชั่น ทั้งมีคำร้องและบรรเลงเพียงดนตรีอย่างเดียว แต่มีไม่บ่อยนักที่ผมจะฟังแล้วรู้สึกว่าไพเราะ เข้าถึงอารมณ์ แต่สิ่งที่ผมตัดสินอาจต่างกันไปกับผู้อื่น ที่เมื่อฟังเวอร์ชั่นนี้แล้วอาจบอกว่านี่ไพเราะสุดยอด

          แน่นอน บทเพลงที่ดีย่อมมีความไพเราะในท่วงทำนองที่เป็นอมตะอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว อยู่ที่ผู้ที่นำมาขับร้องหรือบรรเลงจะสามารถดึงความอารมณ์ความรู้สึกของบทเพลงออกมาได้หรือเปล่า เพลงลาวดวงเดือนนั้น เป็นเพลงที่แต่งขึ้นบนหลังเกวียนขณะที่ เจ้าชายเพ็ญพัฒนพงศ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จทรงงานในมณฑลอีสาน ด้วยความรักที่ไม่สมหวังกับเจ้าหญิงล้านนา

          พระนามว่า ชื่นชม ธิดาองค์โตของเจ้าราชสัมพันธวงศ์และเจ้าหญิงคำย่น ณ ลำพูน เบื้องหลังรักที่รันทด ทำให้เจ้าชายหนุ่มผู้โศกเศร้า แต่งเพลงนี้ขึ้นและทรงเพลงนี้บ่อยครั้งเมื่อคิดถึงเจ้าหญิงชื่นชม ไม่นานก็ทรงจากโลกนี้ไปด้วยพระชันษาเพียง 28 ปีจากการทรงงานหนัก

          ไม่มีใครบอกได้ว่า พระองค์มีความทุกข์ตรอมใจเหมือนเจ้าน้อยศุขเกษม เมื่อคราวต้องไปส่งสาวแม่ค้ากลับพม่านามว่า มะเมี้ยะทั้งน้ำตาหรือเปล่า แต่สิ่งหนึ่งที่ทรงทิ้งไว้คือบทเพลงรักที่ไม่มีวันตายจากไปตามกาลเวลา คงเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า พระองค์อาลัยรักเจ้าหญิงชื่นชมจากล้านนาเพียงใด

          ในวรรณกรรมอมตะของโลกหลายเรื่องมักจบลงด้วยความรักที่ไม่สมหวัง ความตาย การพลัดพราก การจำยอมอย่างขมขื่น ราวกับว่าความขมของชีวิตคู่รัก เป็นตัวช่วยให้มันอยู่ยงคงกระพันเสียอย่างนั้น แน่นอน เท่าที่เห็นและบ่อยครั้งเสียด้วยซ้ำที่เรามักจะได้เสพงานจากความขื่นนั้น

          มันเป็นอนุสาวรีย์แห่งความทรงจำ ที่ไม่ต้องใช้อิฐหรือหินใดเลยสักก้อน บทเพลงที่ดีก็เหมือนกันมันย่อมไม่ตกอยู่ในเงื่อนไขของกาลเวลา สำหรับผมเพลงที่ดีนั้นไม่กลัวความตาย ไม่กลัวกระแส หากไม่มีคนฟังมันแค่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้น รอเวลาที่ใครสักคนผ่านทางมา

          เพลงที่ดีไม่ต้องมีเนื้อร้องก็ได้ แค่เพียงท่วงทำนองก็กินใจแล้ว...

          ผมไม่กล้ายืนยันหรอกว่า เพลงที่ดีนั้นจะไม่ตาย บอกได้เพียงว่า มันไม่กลัวความตายเท่านั้น มันอาจป่วยได้ เมื่อคนที่นำไปร้องหรือหรือบรรเลงทำได้ไม่ถึงอารมณ์หรือเข้าไม่ถึงจิตวิญญาณของเพลงๆ นั้น แต่มันจะไม่ตายจากไปง่ายๆ แน่นอน

          การจะถ่ายทอดอารมณ์ของบทเพลงนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ร้องได้ดีเล่นได้ดีหรือน้ำหนักเบาของไดนามิกครบถ้วนเท่านั้น สิ่งสำคัญคือความเข้าใจและรู้สึกร่วมไปกับสิ่งที่ผู้แต่งเพลงๆ นั้นเคยรู้สึก อย่างเช่น เพลงลาวดวงเดือนนั้นไม่ได้ผลิตมาจากเครื่องจักรโรงงาน แต่เขียนออกมาจากหัวใจรักของชายหนุ่มคนหนึ่ง มันเป็นหนึ่งในบทเพลที่ไม่กลัวความตาย เวลาคุณจะร้องหรือบรรเลงเพลงนี้ อย่าลืมนึกถึงดวงเดือนบนหลังเกวียนด้วยนะครับ         
.......................................
(หมายเหตุ ดวงเดือนบนหลังเกวียน : โดย... นกไร้เงา)