บันเทิง

Juvenile'แฟนฉัน'ในโลกอนาคต

Juvenile'แฟนฉัน'ในโลกอนาคต

12 ต.ค. 2555

Juvenile'แฟนฉัน'ในโลกอนาคต : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม

          ผมเป็นแฟนหนังเรื่อง “Always: Sunset On Third Street” ครับ ติดตามดูมาตั้งแต่ภาคแรก และก็ซื้อดีวีดีเก็บไว้ครบ 3 ภาค ระหว่างที่หยิบมาดูแต่ละครั้ง ก็พานนึกสงสัยว่า ทำไมคนทำหนังถึงรักษาอรรถรส ความซาบซึ้งประทับใจเอาไว้ได้ทุกครั้ง ไม่ตกหล่นหดหายไปในทุกภาคที่สร้างออกมา (ภาคสองฉายห่างจากภาคแรก 2 ปี ส่วนภาคที่สาม ห่างจากภาคสองนานถึง 5 ปี) แม้เนื้อหาจะว่าด้วยเรื่องเดิมๆ คือความรักความผูกพันของคนญี่ปุ่นในตรอกเล็กๆ กลางเมืองโตเกียวก็ตาม ทำให้อดไม่ได้ ที่ย้อนกลับไปติดตามหาหนังเก่าๆ ที่ผู้กำกับ ทาคาชิ มิยาซากิ เคยกำกับเอาไว้ มาไล่เรียงดูว่า ที่ผ่านๆ มา ผู้กำกับคนนี้ ฝากลายเซ็นเป็นอัตลักษณ์ของตนไว้ชัดเจนเหนียวแน่นตั้งแต่เมื่อไหร่

          หนังของผู้กำกับ ยามาซากิ ที่เคยเข้าฉายบ้านเรา นอกจาก “Always” ทั้งสามภาคแล้ว เมื่อสองปีที่ก่อนยังมีหนังเรื่อง “Space Battleship Yamato” เข้าฉายให้แฟนหนังบ้านเราได้ดูกันด้วย (หนังดัดแปลงมาจากทีวีซีรีส์อีกที) รวมถึงผลงานยุคแรกเริ่มในฐานะผู้กำกับของเขาคือเรื่อง “Juvenile” ปี 2000 และ “Returner” ปี 2002 ซึ่งทั้งสามเรื่องมาในแนว Sci-fi Fantasy (ทั้งนี้ ทาคาชิ ยามาซากิ เคยเป็นคนทำวิชวล เอฟเฟกท์มาก่อน) และเมื่อปีที่แล้ว ยามาซากิทำหนังแอนิเมชั่นเรื่อง “Friends Naki on Monster Island” ร่วมกับริวอิชิ ยากิ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีผู้จัดจำหน่ายบ้านเราซื้อมาฉาย รวมถึงหนังไลฟ์แอ็คชั่นอิงประวัติศาสตร์เรื่อง “Ballad” เมื่อปี 2009 ที่ไม่มีค่ายหนังรายไหนในบ้านเราสนใจซื้อมาฉายเช่นกัน

          “Returner” อาจจะเล่นกับเทคนิคหวือหวามากกว่าพล็อตเรื่อง ลายลักษณ์อักษรอันแสดงถึงทัศนคติและมุมมองของคนทำหนังในแบบ ‘Auteur’ จึงยังไม่ฉายชัดนัก แต่ถ้าถอยกลับไปดูหนังเรื่องแรกของ ยามาซากิ จะพบว่า ผู้กำกับคนนี้ เริ่มก่อร่างสร้างระเบียงแห่งความอบอุ่นขึ้นเป็นมุมเล็กๆ อยู่ในหัวใจผ่านหนังของเขาแล้ว...หนังเรื่องที่ว่านี้ชื่อ “Juvenile” ครับ...

          แม้พล็อตของ “อัศวินอนาคต เจาะมิติมหัศจรรย์” (ชื่อภาษาไทยของ Juvenile) จะดูล้าสมัย เก่าซ้ำซาก เพราะเล่าถึงหุ่นยนต์ตัวน้อยจากต่างมิติเกิดตกลงมาในโลกมนุษย์กลางป่า เด็กน้อย 4 คนที่อยู่ระหว่างเข้าค่ายบังเอิญไปเจอเข้า จึงเก็บแอบเอามาดูแลที่บ้าน ก่อนจะพบเรื่องราววุ่นวายตามมา เมื่อมีเหล่ามนุษย์ต่างดาวบุกโลกด้วยประสงค์ร้าย จึงไม่พ้นที่หุ่นยนต์ตัวน้อยและเหล่าเด็กๆ ต้องหาทางช่วยกันขัดขวางภารกิจของผู้มาเยือนในครั้งนี้ (แม้พล็อตหนังดูจะละม้ายคล้ายเคียงกับหนังคลาสสิกแห่งยุค 80’s อย่าง E.T. หรือ Close Encounters of the Third Kind แต่ผู้กำกับยามาซากิบอกว่า เขาได้แรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง “Star Wars” และ “Space Odyssey” มากกว่า)

          นอกจากเทคนิคพิเศษล้ำๆ (เมื่อ 12 ปีก่อน) จะพอทำให้ “Juvenile” เป็นที่น่าสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว การดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของผองเพื่อนก็ได้ทำให้หนังดูมีคุณค่ามากขึ้น โดยเฉพาะแง่มุมดราม่าที่ว่าด้วยความเข้มแข็ง กล้าหาญของคนคนหนึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยความรัก

          ตลอดเวลาที่พาคนดูไปผจญภัยร่วมกับเด็กๆ ระหว่างนั้นหนังก็แทรกความน่ารักกุ๊กกิ๊กในความรักแบบเด็กๆ เอาไว้ด้วย เพราะในกลุ่มเพื่อน 1 หญิง 3 ชาย เกิดมีรักสามเส้าแฝงเร้น เมื่อเจ้าหัวโจกพยายามแสดงความเข้มแข็งต่อหน้าเด็กหญิงที่ตนแอบชอบ แต่ในนาทีสุดท้ายเจ้าหนูที่ดูอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม กลับแสดงความกล้าหาญเพื่อพิสูจน์ว่า เขาเองก็เข้มแข็งพอที่จะลุกไปช่วยคนที่ตัวเองแอบรักได้เช่นกัน ขณะที่บทหนังก็พยายามสร้างแปลกใหม่ให้กับตัวเองบ้าง เป็นชั้นเชิงเล็กน้อยด้วยการหักมุม ขยายเรื่องราวตอนโตของเด็กๆ ใน 5 นาทีสุดท้ายเพื่ออธิบายปมบางอย่างในหนัง

          หากมองข้าม “Returner” ไป จะพบว่าหลังจากนั้น หนังของ ทาคาชิ ยามาซากิ ทุกเรื่อง ล้วนให้น้ำหนักหรือมุ่งประเด็นไปที่เรื่องของมิตรภาพของผู้คน ท่ามกลางซากปรักหักพังทางสังคม อาจเป็นเหมือนหนังชาตินิยมที่ปลุกให้คนญี่ปุ่นลุกขึ้นมาสร้างชาติ ปัดกวาดสังคมให้สะอาด น่าอยู่ เป็นสังคมในอุดมคติที่ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข (โดยเฉพาะหนังชุด Always) กลายเป็นลายเซ็นต์ประจำตัวที่ปรากฎอยู่ในหนังของเขาแทบทุกเรื่อง พร้อมๆ กับรางวัลอีกมากมายตามมา (Always ภาคแรก คว้า 12 รางวัล เจแปน อะคาเดมี ไพรซ์ ภาคสอง ได้จากสถาบันเดียวกันอีกสองรางวัล เท่ากับ Returner ส่วน Juvenile คว้ารางวัลหนังเด็กยอดเยี่ยม กริฟฟอน ทองคำ จากเทศกาลหนังกิฟโฟนี่  ที่อิตาลี)  และแน่นอนว่ารวมถึงแฟนหนังของยามาซากิ ที่รอติดตามผลงานของเขาอย่างเหนียวแน่น

          ปีหน้า ทาคาชิ ยามาซากิ กำลังจะมีหนังเรื่องใหม่ออกมาให้ดูกันชื่อ “The Eternal Zero” เป็นเรื่องราวของพี่น้องที่ค้นพบความจริงบางอย่างของปู่ ที่เสียชีวิตลงในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นความลับที่ถูกซ่อนเร้นปิดบังมานานกว่า 60 ปี โดยดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ นาโอโกะ ฮยากูตะ ที่ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 2006

          กลับมาที่ “Juvenile” อีกครั้งครับ...ดีวีดีเรื่องนี้ ถูกนำกลับมาขายลดราคาอีกครั้งในราคาไม่ถึง 50 บาท เป็นหนังที่คุณภาพเกินราคา และโดยเฉพาะใครที่เป็นแฟนผู้กำกับ ทาคาชิ ยามาซากิ ตอนนี้สามารถตามเก็บหนังของเขาได้เกือบทุกเรื่องในรูปแบบดีวีดี ที่ทำออกจำหน่ายในราคาพิเศษ ‘คำเตือน กรุณาเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้คอยซับน้ำตาระหว่างดูหนังของเขาด้วย’
.......................................
(หมายเหตุ Juvenile'แฟนฉัน'ในโลกอนาคต : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)