บันเทิง

Green Hornetความซุกซนของชายไม่ยอมโต

Green Hornetความซุกซนของชายไม่ยอมโต

05 ต.ค. 2555

Green Hornetความซุกซนของชายไม่ยอมโต : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม

          มีทีวีซีรีส์ระดับตำนานหลายๆ เรื่อง ที่ไม่เพียงได้รับความนิยมตลอดเวลาที่ออกอากาศมาต่อเนื่องยาวนานหลายปี แต่เมื่อถูกนำมารังสรรค์ใหม่ผ่านจอภาพยนตร์ ก็ยังประสบความสำเร็จด้วยดีไม่แพ้กัน อาทิ “Mission Impossible” “Planet of the Ape” “Star Trek” “Miami Vice” “A-Team” ฯลฯ และหนึ่งในนั้นก็มีเรื่อง ‘หน้ากากแตน’ หรือ “The Green Hornet” ซึ่งเรื่องนี้ออกอากาศครั้งแรกในรูปแบบละครวิทยุด้วยซ้ำ ก่อนจะนำมาขึ้นจอใหญ่สร้างติดต่อกันมาสองภาค จากนั้นก็ลงจอทีวีออกอากาศติดต่อกันสองปีซ้อน (ไม่นับรวมนำมารวมเล่มเป็นหนังสือการ์ตูน) หลังจากนั้นสองฮีโร่ภายใต้หน้ากากตั๊กแตน ก็ห่างหายจากหน้าไปนานหลายสิบปี ก่อนจะกลับมาอีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยเรื่องราวต้นฉบับดั้งเดิม หากแต่วิธีการเล่าที่เปลี่ยนไป มีความร่วมสมัยและสนุกเร้าใจยิ่งขึ้น
 
          The Green Hornet ปี 2011 ได้ มิเชล กอนดรี ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสมารับหน้าที่กุมบังเหียนหนัง มีนักแสดงหนุ่มใหญ่อย่าง เซธ โรแกน มารับบท ‘บริทท์ รีด’ เศรษฐีหนุ่มเจ้าสำราญตัวละคร สวมหน้ากากตั๊กแตนทำตัวเป็น ‘ฮีโร่’ ออกปราบเหล่าร้าย ขจัดคนพาล อภิบาลคนดี ซึ่งครั้งนี้คาแรกเตอร์ความเป็นคนอารมณ์ดีของ ‘เซธ’ ถูกนำมาปรับใช้ให้เข้ากับหนังทั้งนิสัยขี้เล่น รักสนุก ชอบผจญภัยโลดโผน จึงกลับกลายเป็นว่าภายใต้ความเป็นฮีโร่ แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นแค่ "รีด" อยากออกมาทำอะไรๆ สนุกเท่านั้น คนที่เป็น ‘ฮีโร่’ ตัวจริงน่าจะเป็น ‘คาโต’ คนรับใช้ที่ทั้งเก่งกาจในการต่อสู้และประดิษฐ์คิดค้นอาวุธใหม่ๆ มาใช้ปราบอันธพาล
 
          ผู้กำกับ ‘กอนดรี’ เป็นคนมีไอเดียเก๋ๆ ในพล็อตหนังของเขาอยู่แล้ว ตั้งแต่ “Eternal Sunshine of the Spotless Mind” “The Science of Sleep” “Bekind Rewind” ไม่นับรวมเทคนิคการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยชั้นเชิง หวือหวา ในฐานะผู้กำกับหนังโฆษณา และมิวสิกวิดีโอ (เข้าไปดูความ ‘ล้ำ’ ในเทคนิคการเล่าเรื่องของผู้กำกับคนนี้ได้ ใน MV. “Come Into My World” ของ Kylie Minogue หรือจะเป็นเพลง “Ma Maison” ของ Oui Oui)
 
          แน่นอนว่าผู้กำกับ ‘กอนดรี’ ฝากลายเซ็นของเขาไว้ในหนัง The Green Hornet เรื่องนี้เอาไว้ด้วย โดยเฉพาะฉากหัวหน้าแก๊งค้ายา สั่งลูกน้องให้ออกตามล่าคนชุดเขียว ที่ใช้เทคนิคแบ่งหน้าจอออกเป็นหลายๆ เฟรม ซึ่งภาพในแต่ละเฟรมจะติดตามตัวละครเหล่านั้นไปเรื่อยๆ เริ่มจาก 2 เป็น 4 เป็น 6 เป็น 8…
 
          ไม่เพียงลูกเล่นความ ‘ล้ำ’ เท่านั้น แต่ฉากโชว์ความหายนะที่หนังไล่ล่าทั้งหลายในฮอลลีวู้ดชอบทำ ผู้กำกับ ‘กอนดรี’ ก็โหมใส่แบบไม่บันยะบันยังอย่างสนุกมือ ทำให้ The Green Hornet ฉบับปี 2011 มีทั้งอารมณ์ขันแบบหนังตลก ฉากวินาศสันตะโรแบบหนังแอ็กชั่น ผสมผสานกับกลิ่นอายของหนังซูเปอร์ฮีโร่ยุค 70’s ได้อย่างลงตัว เป็นความสนุกแบบครบรสที่หนังเรื่องหนึ่งพึงมี
 
          ถ้า ‘เรน’ ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้ในฮอลลีวู้ด...ดูเหมือน ‘เจย์โจว’ น่าจะเป็นความหวังของดาราเอเชียรุ่นใหม่ ที่น่าจะเอาดีได้ในวงการหนัง สำหรับบทบาทของ ‘คาโต’ คู่หูของ ‘รีด’ วีรบุรุษหน้ากากแตน ที่ออกปราบเหล่าร้ายในยามค่ำคืน
 
          หนังเล่นสนุกอย่างเอาล่อเอาเถิด จนแทบจะไม่สนใจที่มาที่ไปของสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังด้วยซ้ำ ยกเว้นตัวละครหลักๆ เพราะการสร้างปมบางอย่าง ทำให้ตัวละครเกิดแรงขับลุกขึ้นมาทำอะไรบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จ ‘รีด’ และ ‘คาโต’ ก็เช่นกัน แต่สำหรับที่มาของคำว่า ‘Green Hornet’ หรือ ‘หน้ากากแตน’ มันช่างแสนชวนขัน เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นเพื่ออธิบายลักษณะหรือที่มาที่ไปของหน้ากากรูปลักษณ์ประหลาดนี้เลย ตรงข้ามชื่อนี้เกิดขึ้นเพราะความห่าม ชอบเอาแต่ใจของเศรษฐีหนุ่มใหญ่อย่าง ‘รีด’ ที่คิดมันขึ้นมาโดยไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลใดใด
 
          สรุปแล้ว The Green Hornet เป็นหนังเพื่อความบันเทิงโดยแท้ เหมาะสำหรับนั่ง-นอน เอกเขนกดูอย่างเพลิดเพลินในวันหยุดสัปดาห์นี้
.......................................
(หมายเหตุ Green Hornetความซุกซนของชายไม่ยอมโต : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม )