บันเทิง

เพลงรักสไตล์ร็อกแบบ'พัดชา'

เพลงรักสไตล์ร็อกแบบ'พัดชา'

16 ก.ย. 2555

'ทนไม่พอ รอไม่ไหว' เพลงรักสไตล์ร็อกแบบ 'พัดชา'

                           เขาว่าโจทย์เพลงรักเป็นโจทย์ที่ง่ายที่สุดสำหรับการสื่อสารมาให้คนฟังได้รู้สึกและอินตามไปได้ ซึ่งนักร้องสาวเสียงดี พัดชา เอนกอายุวัฒน์ ก็มองโจทย์นี้ไม่ต่างจากคนอื่น เพียงแค่เพลงรักของเธอเป็นเพลงรักที่สะท้อนความรู้สึกและตัวตนของเธอเท่านั้น อย่างเพลงล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมาไม่นานแต่เรียกกระแสความนิยมจากคนฟังได้อย่างมากมายกับเพลง "ทนไม่พอ รอไม่ไหว" เพลงรักสไตล์ร็อกที่บอกเล่าเรื่องราวความเข้มแข็งของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อดทนมานาน จนวันหนึ่งความอดทนนั้นหมดลง ทำให้เธอต้องทิ้งความรักที่เธอฝันไว้ แล้วเดินจากมา

                           ซึ่ง "คม ชัด ลึก" ได้มีโอกาสพูดคุยกับ พัดชา ในเรื่องของเพลงๆ นี้ นักร้องสาวได้เล่าถึงการทำงานให้ฟังก่อนว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เธอได้มีโอกาสร่วมงานกับทีมทำเพลงทีมใหม่ที่เธอไม่เคยร่วมงานด้วยมาก่อนเลย ทำให้มีการพูดคุยและเรียนรู้กันอยู่พักใหญ่ และในช่วงที่ได้พูดคุยกันกับทีมงานเพลงใหม่ เธอเองไม่เคยจำเพาะเจาะจงไปว่าอยากได้งานเพลงแบบไหน

                           "เพลงนี้บอกได้เลยว่าถูกใจมากเลย จริงๆ ต้องเรียกว่าแทงใจมากกว่า พัดรู้สึกว่ามันเป็นความสนุกไปอีกแบบ ที่เราได้เปลี่ยนทีมทำเพลงใหม่ ทำให้เราได้เห็นมุมมองอะไรที่แตกต่างจากเดิม อย่างเช่นเพลง "ทนไม่พอ รอไม่ไหว" พัดว่ามันเกิดจากการที่พัดเล่าให้พี่ๆ เขาฟังในเรื่องของวิธีการคบกันของคนสมัยนี้ ที่คนสมัยนี้คบกัน แต่มีตัวเลือกเยอะเหลือเกิน คนนี้คบคนนั้นอยู่ แต่มีอีกคนเข้ามาขอเป็นตัวเลือก ซึ่งตัวพัดเองรู้สึกไม่ชอบความสัมพันธ์ในแบบนี้ ที่ก่ำๆ กึ่งๆ อะไรแบบนี้ แล้วสำหรับพัดเองก็มีตัวเลือกเหมือนกัน คือถ้าคุณมีตัวเลือกมากมาย ฉันก็ขอเลือกตัวเลือกที่ว่าขออยู่กับตัวเองดีกว่า ไม่เลือกใครเลย เพราะพัดคิดว่าทำไมเราต้องมารอให้คนอื่นเขามาเลือกเรา ถ้ามันลำบากมากนัก ก็ไม่เป็นไร" พัดชาบอกสไตล์ผู้หญิงเข้มแข็ง

                           ก่อนจะหลังจากที่ได้เพลงมาและต้องเข้าห้องอัดว่า ตอนที่ได้เพลงนี้มามีเนื้อร้องทำนองทุกอย่างครบ และมีคนร้องไกด์ไว้ให้แล้ว แต่เมื่อเธอเอามาฟังและร้องเอง เธอก็เปลี่ยนทำนองใหม่หมด โดยก่อนหน้านี้คนที่ร้องไกด์มาให้ร้องในสไตล์อาร์แอนด์บี ซึ่งเธอเข้าใจว่านักร้องสาวคนดังกล่าว อาจร้องในลักษณะที่เป็นสไตล์ของเขาเอง แต่ไม่ใช่สไตล์ของเธอ เธอจะได้เปลี่ยนเพลงใหม่ทั้งหมด โดยได้มีการนำเพลงนี้มาร้อง ในหลายๆ แบบ ก่อนที่จะมีการประชุมและเลือกแบบที่ดีที่สุด จนได้มาเป็นสไตล์ป็อบร็อก

                           "พัดรู้สึกว่า ถ้าเป็นตัวพัดเอง เพลงนี้น่าจะร้องออกมาในแนวที่หนักแน่นและแข็งมากกว่านี้ ในแบบแรกที่คนร้องไกด์ร้องมาให้นั้นมันดูเบาไป พัดเองไม่อยากที่ให้ใครมองว่าพัดต้องร้องแบบที่เป็นดีว่าส์ใช้พลังเสียงเยอะๆ เพราะสำหรับพัดแล้ว การเป็นดีว่าส์คือการร้องเพลงและให้ความอารมณ์ความรู้สึกของเราผ่านบทเพลงไปถึงคนฟัง แล้วให้ความรู้สึกเหมือนกัน ซึ่งสำหรับเพลงนี้ พัดรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ" พัดชา เผย

                           มาถามถึงเรื่องเอ็มวี ที่ได้รับการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการดึง "ปุ๊กลุก" ฝนทิพย์ วัชรตระกูล ที่มีประสบการณ์คล้ายๆ กับในเพลงมาสื่ออารมณ์กับเพลงนี้ ซึ่งในตอนแรกเอ็มวีที่ถูกยิงทีเซอร์มาให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างแรง จนถูกมองว่าไปกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่สามมากเกินไป ทำให้พัดชาและทีมงาน ทรูแฟนเทีย ต้องมีการปรับเปลี่ยนเอ็มวีให้ดูเบาลง เพื่อไม่อยากที่จะพาดพิงถึงคนอื่น พัดชายอมรับว่าการแสดงของปุ๊กลุก เป็นการสื่ออารมณ์ออกมาเป็นอย่างดี และเธอเองก็รู้สึกชื่นชอบและชื่นชมในการแสดงที่ดูเปิดเผยของนางเอกสาววิกหมอชิตคนนี้

                           "เรื่องของการปรับเปลี่ยนเอ็มวีนั้น มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ที่เราไม่ได้อยากไปพาดพิงถึงใคร เพราะฉะนั้นเพื่อความสบายใจ เราเลยมีการปรับให้มันสบายใจกับทุกฝ่าย โดยเรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามแต่อย่างใด เป็นเรื่องราวที่เราหยิบยกมาเพื่อถ่ายทอดถึงอารมณ์เพลงนี้เท่านั้น" พัดชา กล่าวสรุป