บันเทิง

พลอยอ่วมโดนคดีภาษี-อาญา

พลอยอ่วมโดนคดีภาษี-อาญา

31 ส.ค. 2555

สรรพากรเรียกนางเอกสาว "พลอย-เฌอมาลย์" และออแกไนเซอร์-เจ้าของบัตรประชาชน มาสอบเงื่อนงำภาษีฉาว ชี้พฤติกรรมส่อขัดม.37 จงใจเลี่ยงภาษีโทษคุก 7 ปี ปรับ 2 แสนบาท และเจอฟ้องแพ่งปรับอีกเท่าตัวด้วย พร้อมเปิดเวทีสัมมนาใหญ่ “ดารา-นักกีฬา-พิธีกร” ที่เป็นบุคคลสาธารณะทำ

          เรื่องราวยังคงบานปลาย กรณีที่ น.ส.ไลลา (เฌอมาลย์) บุญยศักดิ์ หรือ "พลอย" นางเอกสาวชื่อดัง ที่มีปัญหากับออแกไนเซอร์ จนลุกลามไปถึงเรื่องการหลบเลี่ยงภาษีนั้น ล่าสุด นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สรรพากรพื้นที่ที่รับผิดชอบได้ทำหนังสือเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งน.ส.เฌอมาลย์ บริษัทผู้ว่าจ้าง และผู้ที่ยื่นรับค่าจ้างแทนมาให้ปากคำต่อสรรพากรพื้นที่ เนื่องจากเห็นว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37
 
          “เราถือโอกาสนี้เอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียน โดยคนที่ทำความผิดเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือไม่ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพราะความผิดที่เกิดขึ้นในอดีตถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ยังไงก็ผิด ก็ต้องปล่อยให้มีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งเมื่อมีปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแล้วก็จะถือโอกาสทำความเข้าใจกับคนหมู่มากให้ดำเนินการทางด้านภาษีได้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป” นายทนุศักดิ์กล่าว
 
          สำหรับประมวลรัษฎากร มาตรา 37 ระบุว่า ผู้ใด (1) โดยรู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจแจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรตามลักษณะนี้ หรือ (2) โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรตามลักษณะนี้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท
 
          "นอกจากความผิดทางอาญาที่เกิดขึ้นตามมาตรา 37 ดังกล่าวแล้ว กรมสรรพากรจะต้องดำเนินการเอาผิดทางแพ่งด้วย โดยผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวจะต้องจ่ายเบี้ยปรับกรณีไม่ยื่นแสดงรายได้เป็นจำนวนเงิน 1 เท่าของอัตราภาษีที่ต้องชำระตามกฎหมายและชำระเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือนนับตั้งแต่มีการคำนวณภาษีเงินได้" นายทนุศักดิ์ระบุ
 
          รมช.คลัง กล่าวอีกว่า กรมสรรพากรได้ทำการตรวจสอบการเสียภาษีของกลุ่มอาชีพอิสระ โดยเฉพาะนักแสดงมาอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีการจัดตั้งคณะบุคคลขึ้นมา เพื่อกระจายรายได้ให้เสียภาษีต่ำกว่าความเป็นจริง จึงได้มีมาตรการออกมาป้องกันและเข้มงวดในการจัดตั้งคณะบุคคล เพื่อใช้ในการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีตามจริง เราจึงได้ดำเนินการจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้ด้านภาษีแก่บุคคลสาธารณะที่ไม่ได้มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำ หรือเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ อาทิ ดารานักแสดง พิธีกร นักกีฬา เป็นต้น มารับฟังแนวทางการเสียภาษีอย่างถูกต้อง
 
          สำหรับประมวลรัษฎากร มาตรา 40(8)ระบุ “นักแสดงสาธารณะ” หมายความว่า นักแสดงละคร ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์ นักร้อง นักดนตรี นักกีฬาอาชีพ หรือนักแสดงเพื่อความบันเทิงใดๆ ไม่ว่าจะแสดงเดี่ยว เป็นหมู่หรือคณะ หรือแข่งขันเป็นทีม เช่น นักแสดงละครเวที นักแสดงภาพยนตร์ นักแสดงละครวิทยุ นักแสดงละครโทรทัศน์ ผู้ดำเนินรายการทางโทรทัศน์ นักแสดงตลก นายแบบ นางแบบ นักพูดรายการทอล์กโชว์ นักมวยอาชีพ นักฟุตบอลอาชีพ เป็นต้น
 
          “บุคคลสาธารณะต่างๆ เหล่านี้บางครั้งรายได้ที่หัก ณ ที่จ่าย 5% บางครั้งเขาไม่รู้ว่าต้องยื่นแบบแสดงรายได้อีกครั้ง คิดว่าหักไปแล้วก็หักไปเลย จึงอยากทำความเข้าใจในวงกว้างสำหรับผู้เสียภาษีกลุ่มนี้ให้ดำเนินการทางด้านภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายจะได้ไม่มีปัญหาต่อไปในอนาคต” นายทนุศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย
 
          ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์สอบถามไปยัง น.ส.เฌอมาลย์ ถึงการตรวจสอบภาษีของสรรพากร แต่ก็ไม่สามารถต่อสายได้ จึงได้ติดต่อไปยังนางชลิดา นิลภิรมย์ หรือ "แหม่ม" มารดาของนักแสดงสาวชื่อดัง ได้รับการชี้แจงเพียงสั้นๆ ว่า ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัด และไม่อยากพูดถึงเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นอีก อีกทั้งยังไม่ทราบว่าการขุดคุ้ยเรื่องราวดังกล่าวต้องการจะให้บุตรสาวของตนย่อยยับหรืออย่างไร
 
          อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่นางเอกสาวชื่อดังได้ออกมากล่าวขอโทษแฟนคลับและประชาชนที่ใช้ถ้อยคำรุนแรง ไม่เหมาะสม พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย หรือต้องการหลบเลี่ยงภาษีแต่ประการใด ขณะเดียวกันสื่อได้มีการเสนอข่าว นายทวีศักดิ์ บุนนาค อายุ 77 ปี เจ้าของบัตรประชาชนที่นำมาให้หักภาษี ยอมรับว่า ตนเป็นพ่อของคนขับรถของ น.ส.เฌอมาลย์ และอีกฝ่ายเป็นคนมายืมบัตรประชาชนของตนไปใช้ในการรับค่าตัว ซึ่งตนไม่รู้ว่าผิดกฎหมายจึงยินดีให้ไป ส่งผลต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์นักแสดงสาวในอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียอย่างร้อนระอุ
 
          กระทั่งนายนาวิน เยาวพลกุล หรือ "นาวิน ต้าร์" หวานใจของนักแสดงสาว ได้โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษลงในอินสตาแกรม มีเนื้อหาเชิงจิกกัดว่า พวกที่อยู่หลังคีย์บอร์ดเป็นพวก “โง่”
 
          ข้อความที่นายนาวินโพสต์นั้น มีใจความว่า "On the internet you can be anything you want. It’s strange that so many people choose to be stupid” หรือแปลเป็นภาษาไทยคือ “บนโลกของอินเทอร์เน็ตนั้น คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้อย่างที่ต้องการ แต่มันก็น่าแปลกนะ ที่หลายๆ คนเลือกที่จะเป็น คนโง่”
 
          ยังมีอีกหนึ่งข้อความคือ “Hiding behind an alias does not give anyone the right to insult and offend others” หรือแปลเป็นภาษาไทยคือ “การซ่อนตัวอยู่ใต้นามแฝง ไม่ได้ให้สิทธิที่คุณจะสามารถพูดจาดูถูกดูแคลนคนอื่นหรือ ยั่วยุคนอื่นได้”
 
          นอกจากนั้น ยังมีข้อความที่เขียนกำกับเอาไว้ว่า “Identify yourself before criticizing someone! It’s not like we want to know you, it’s just because you won’t dare saying all those stupid things.” แปลว่า “ระบุตัวตนของคุณออกมา ก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น เราไม่ได้อยากรู้หรอกว่าคุณคือใคร เเต่เพราะว่า คุณคงไม่กล้าพูดเรื่องโง่ๆ ทั้งหมดออกมา ถ้าตัวตนของคุณถูกเปิดเผย”
 
          ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังนายนาวิน เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยผู้จัดการส่วนตัวบอกว่า นายนาวินไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ในตอนนี้