
Braveเราต่างต้องเอาชนะ'หมีดำ'
Braveเราต่างต้องเอาชนะ'หมีดำ' : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร
ความแตกต่างประการหนึ่ง ระหว่างการ์ตูนของค่าย “จิบลิ” ของญี่ปุ่น กับสำนัก “พิกซาร์” ของ “ดิสนีย์” ก็คือ ขณะที่ชื่อแรกให้ความสำคัญกับแนวทาง road movie มีลักษณะของหนังเดินทางไปพบตัวตนของตัวละคร ฝ่ายจากฮอลลีวู้ด มักจะเน้นไปที่สถานการณ์(situation) เพื่อขับเคลื่อนเรื่องราว
Brave เรื่องหลังสุดของพิกซาร์ แต่เป็นเรื่องแรกที่ตัวละครลีดเป็นเพศหญิง คือตัวอย่างที่ชัดเจนมากในขนบแบบแผนของพวกเขา สิ่งที่มันไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คก็คือ เมื่อตัวละคร “ผ่านพ้น” จุดสุ่มเสี่ยงของพล็อตไปแล้ว คนดูที่เป็นแฟนๆ ของพวกเขา ก็รู้สึกได้ด้วยว่า พวกเขาคล้ายๆ ได้ร่วมประสบการณ์ไปด้วยในเวลาเดียวกัน
นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมคนดูถึงไม่เคยลืม Toy Story, จดจำความผูกพันของปลา Nemo และนึกถึงเหล่ามดแมลงใน A Bug’s Life ทีไร ก็เป็นหัวเราะกับหลายฉากทุกที (จริงๆ A Bug’s Life มีอิทธิพลของหนังคลาสสิกอย่าง “เจ็ดเซียนซามูไร” อยู่สูงมาก)
เมื่อมาถึง Brave ซึ่งก่อนหน้าหนังลงโรง 2 เดือน ก็เป็นข่าวครึกโครมทำนองว่า นี่จะเป็นการ “รื้อถอน” ไม่ใช่ “รื้อโค่น” แนวทางของพิกซาร์ที่ทำมาเกือบ 20 ปี
และดูเหมือนมันจะเวิร์กเสียด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของการใช้สัญญะ(หรือสัญลักษณ์) คอยบอกนัยยะของอะไรบางอย่าง (เช่นในหนัง “ชัมบาลา” ที่แม้ผมไม่ชอบ ก็มีสัญลักษณ์หลายอย่างที่ชัดเจนก็คือ “แว่นตา” แน่นอนแหละว่า “แว่นตา” ของ “ทินกับวุฒิ” ตัดคนละร้านกับแว่นตาของ “สาวเต๋อ” ใน “เราสองสามคน” ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2010
เพราะขณะที่แว่นของ ยิปโซ ในเรื่องนั้น ถูกเล่นกับความจริงบ้าง ความลวงบ้าง แต่แว่นของพี่น้องในชัมบาลา ถูกนำมาใช้เชิง “สัญญะ” เกี่ยวกับตัวตน
แว่นตาของ “วุฒิ” อธิบายถึงความเป็นคนหนุ่มที่ทันสมัย มองโลกในแง่ดี แถมยังมีความหวังกับชีวิต มันต่างกันกับแว่นตาเรย์แบนด์ของ “ทิน” ที่เจตนาปกปิดดวงตา ดูห่างไกลและไม่ใช่มนุษย์ที่เข้าถึงง่าย แน่นอนล่ะ บุคลิกส่วนนี้ถูก “ปกปิดอีกชั้น” จากคาแรกเตอร์ที่ “ตลกรับประทาน” กวนและเอาสาระไม่ได้
ใน Brave นั้น เล่าเรื่องของ “เมริด้า” ธิดาหัวรั้นของกษัตริย์และราชินีแห่งป่าลึกในสก็อตแลนด์ เรื่องมันง่ายๆ ที่ว่าโดยขนบธรรมเนียมนั้น เมื่อเติบโตเป็นสาว ธิดาก็ต้องอภิเษกสมรสกับใครสักคน ไปตามแนวทางของธรรมเนียมที่เคยเป็นมา การเลือกคู่ก็เย้ยหยันเอาจากวิธีแบบโบราณคือ ให้แต่ละแคว้นมาพิสูจน์ความสามารถกัน
แต่ “เมริด้า” ไม่ใช่หญิงสาวหรือเจ้าหญิงที่มีชีวิตอยู่เพื่อเป็นแม่พันธุ์ เธอแย้งกับพระบิดาและราชินีว่า เธอไม่อยากแต่งงานกับใครและไม่คิดเรื่องนี้ ระหว่างที่กำลังหาทางออกกับการไม่แต่งงาน เมริด้า ไปขอพรจาแม่มดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ
จากพรที่จะขอ กลายเป็นได้คำสาปมา และที่เลวร้ายก็คือ แม่ของเธอกลายเป็น “หมี” หน้าตาหน้าเกลียด
ที่เหลือในหนังก็คล้ายมาสเตอร์พีซอย่าง Spirited Away ที่เด็กสาว จะต้องหาทางต่อสู้เอาชนะ เพื่อได้ชื่อของตัวเองและพ่อแม่ตัวเองคืนมา
แม้จะเป็นแค่การ์ตูน แต่พิกซาร์พิสูจน์อีกครั้งว่า การ์ตูนนั้นผู้ใหญ่ก็สนุกกับมันได้ เพราะสามารถซ่อนชั้นเชิงและวิธีการเล่าเรื่องที่คมคาย เหมือนเอาเพลงคลาสสิกไปเจอร็อกในงานออร์เคสตร้า หรือเอาสวนสนุกไปทำให้ extreme มากขึ้นเพื่อให้ผู้ใหญ่เล่น
ใน Brave ซึ่งเป็นหนังที่ “ดีเหลือเกิน” แบ่งส่วนต่างๆ ของหนังออกมาเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นภาคที่สว่างสดใส ส่วนที่สองเมื่อเข้าสู่ความเลวร้าย หนังทำออกมาเป็น neo-noir โดยใช้ความมืดสลัวในหนัง สะท้อนความสกปรกของจิตใจคน ก่อนที่จะมาถึงส่วนสุดท้าย ที่เหล่าตัวละครได้ “ผ่านพ้น” เรื่องเลวร้ายต่างๆ นานา และผ่านจุดเสี่ยงไปแล้ว หนังก็กลับมาสว่างสดใสอีกครั้ง
แต่สว่างอย่างมีสีสันมากกว่าเดิม
มีสัญลักษณ์หลายอย่างที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้นะครับ เช่นเส้นผมสีแดงของ เมริด้า ที่บอกโดยนัยว่า เธอไม่ใช่เด็กสาวที่จะยอมอะไรตามแบบแผนนิยม หรือฉากหลังในหนังที่มีลักษณะของการจัดฉากแบบเส้นฉาก เส้นตรง เพื่อแสดงให้เห็นว่า เมริด้า เหมือนถูกคุมขัง
แต่ที่สุดยอดก็คือ แม้จะมีหมีในหนังมากกว่า 1 ตัว แต่หมีที่โดดเด่นในหนัง คือหมีดำร้าย หน้าตาหน้ากลัว และมีความเหี้ยมโหด มันพยายามจะขย้ำกินเมริด้า และเด็กน้อนก็ต้องต่อสู้กับมัน“หมีดำหน้าตาดุร้าย” ตัวนี้ ไม่ใช่สัตว์ป่าที่เราเข้าใจโดยพื้นๆ แต่มันคือ สัญลักษณ์อย่างหนึ่ง หมีร้ายตัวดำใหญ่โตที่ว่านี้ ก็คือ ขนบธรรมเนียม ครรลอง และกรอบคร่ำครึที่ฝังแน่น และตีกรอบแน่นหนามาในสังคม ที่ “เมริด้า” โตมา ฉะนั้นถ้ามองในมุมนี้ การที่เธอต้องต่อสู้กับหมีดำอยู่เรื่อยๆ นั้น
“หมีดำ” จึงเป็นความหมายของความคิดแบบอนุรักษ์นิยม และทัศนคติที่ฝังแน่นของคนรุ่นก่อน อันมาส่งผลต่อโลกยุคใหม่ ผ่านตัวของเมริด้า
นี่ยังไม่นับว่า ถ้าจะคิดมากว่า Brave เวลาอ่านออกเสียงเร็วๆ มันก็คือ Rape การถูกขืนใจของเมริด้า โดยแบบแผนนิยม
ผมดู Brave ด้วยความสนุกตลอดทั้งเรื่อง และเมื่อออกมาจากลิโด้ ก็พบว่ามีนักวิจารณ์หลายคน ชื่นชมหนังเรื่องนี้
เพราะต่างรู้ดีว่า เราจะต้องมี “หมีตัวดำ” ให้คอยฝ่าฟันอีกมาก
หมีที่ว่านี้ ไม่กวนแบบ Ted และไม่น่ากอดแบบ “กังฟูแพนด้า” เสียด้วย
.......................................
(หมายเหตุ Braveเราต่างต้องเอาชนะ'หมีดำ' : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)