บันเทิง

 Sensationว้าว !

Sensationว้าว !

07 ส.ค. 2555

Sensationว้าว ! : คอลัมน์ Eat Play Life โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร

          คงจะเรียบง่ายเกินไป ถ้าใครจะสรุปงาน Sensation : The Ocean of White ว่าเป็นแค่ dance party ในเวลา 8 ชั่วโมง แต่มันน่าจะเหมาะสมกว่า หากเราจะบอกว่านี่คืออีกหนึ่งปรากฏการณ์ของวัฒนธรรมป๊อป ที่ทาง “ไฮเนเก้น” นำมาสานต่อในบ้านเรา ถึงขนาดที่ว่าบัตรไม่ได้มีราคาถูก แต่มันกลับหมดเกลี้ยงหลังจากขายไม่นานนัก
 
          ผมว่า sensation ถ้าเป็นฟุตบอล สาวกของพวกเขาไม่ใช่แค่ suporter แต่เป็น diehard f-cking fan หรือหากพวกคนที่ไปเป็นเด็กแวมไพร์ พวกเขาก็ไม่ใช่พวก trampire แต่เป็น Twihard ที่หมายถึงพวกแฟนพันธุ์แท้ ระดับหมกมุ่น
 
          บางท่านอาจจะงงว่า แล้ว sensation คืออะไร มันคือประสบการณ์ดนตรีชั้นนำระดับโลกอันไร้ขีดจำกัด ที่อัดแน่นทุกประสาทสัมผัสทั้งแสง สี เสียง พร้อมโชว์สุดอลังการ ที่พาคุณดำดิ่งท่ามกลางมหาสมุทรสีขาวที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน (เพราะทุกคนต้องใส่ชุดปฏบัติธรรม เอ๊ย ใส่ชุดสีขาวไปร่วมงาน) งานนี้เป็นมิวสิกแคมเปญของไฮเนเก้นที่จับมือกับบริษัทผู้สร้างสรรค์ปรากฏการณ์ทางดนตรีจากเนเธอร์แลนด์ ID&T นำสุดยอดปรากฏการณ์ดนตรีระดับโลก มาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก ตามข้อมูลของงานเขาบอกว่า มันคือปรากฏการณ์ดนตรีระดับโลกจากเนเธอร์แลนด์ ที่จะพาผู้เข้าร่วมงานดำดิ่งสู่ความรู้สึกอันเหนือคำบรรยายในท้องมหาสมุทรสีขาวด้วยการเนรมิตพื้นที่อิมแพ็ค เพราะเขาจะทำให้เป็น “มิวสิกฟลอร์” ที่สามารถจุคนได้มากกว่า 10,000 คน
 
          Sensation The Ocean of White, ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2008 ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นหนึ่งในโชว์ที่มีโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Sensation โดยมีการวางเวทีแนวความยาวสนามฟุตบอลกว่า 160 เมตร
 
          ธีมหลักของงาน The Ocean of  White จะเปลี่ยนสถานที่จัดงานให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกใต้น้ำ พร้อมรางที่ส่งน้ำไปบนระดับบนเวทีถึงยังน้ำพุกว่า 48 ตัวที่จะมีการแสดงปล่อยน้ำพุออกมาตามจังหวะของเสียงเพลงในงาน Sensation ครั้งแรกจัดขึ้นที่อัมสเตอร์ดัมอารีน่าซึ่งเป็นสนามฟุตบอลของทีมอาแจ็กซ์โดยมีผู้เข้า ร่วมงาน 20,000 คน ในปีต่อมา Sensation ในแบบที่เรารู้จักจึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อดันแคน สตัทเทอร์ไฮม์ เขาเป็นประธานจัดงาน Sensation ขอให้ผู้ร่วมงานแต่งกายใน “ชุดสีขาว” เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่น้องชาย ของเขาที่ชื่อไมลส์ ที่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยเป็นสีที่ผู้ร่วมพิธีศพสวมในงานศพ
 
          แต่แม้จะมีการเดินทางไปตามที่ต่างๆ นั้น ธีมในการจัดงานแต่ละปีก็ไม่เหมือนกัน เช่น ‘The Oak of Love’ ปี 2007, ‘The Ocean of White’ ปี 2008, ‘Wicked Wonderland’ ปี 2009, ‘Celebrate Life’ ปี 2010, ‘Innerspace’ ปี 2011โ ดยที่การแสดงของงานแต่ละธีมจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และทุกๆ “ธีมใหม่” ของแต่ละปีจะเปิดตัวที่งานใน “อัมสเตอร์ดัม” ก่อนที่จะจัดงานในที่อื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบัน Sensation ถือเป็นงานที่ดึงดูดผู้คนนับหมื่นนับพันคนเข้าร่วมงานทุก ครั้งที่ในการจัดงานทั้ง 20 ประเทศทั่วโลก ทำให้ Sensation คือเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีอย่างหนึ่ง
 
          ตอนนี้หลายๆ แบรนด์ หลายค่ายๆ กระตือรืนร้นด้วยการทำ corporate ad อาทิ แบงก์, ประกัน และ “รถรักโลก” แต่อีกด้านหนึ่ง แม้สินค้าเครื่องดื่มอย่าง “ไฮเนเก้น” และ “สิงห์” จะไม่สามารถโฆษณาได้ว่า มาดื่มเหล้ากันเถอะ (ซึ่งก็ไม่ควร เพราะสังคมไทยปากไม่ว่าง เนื่องจากมือถือสาก ปากถือศีล)แต่การเคลื่อนผ่านของยุคสมัย ก็มีงานดีๆ หลายอย่างที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอีเวนท์ของดนตรีหรือฟุตบอล กีฬ่าหรือเทรนด์ “ไลฟ์สไตล์” ต่างๆ ที่เล่นกับคนร่วมสมัย
 
          Message หนึ่งที่ถูกสะท้อนหรือพูดออกมาจากสองค่ายนี้ก็คือ การทำกิจกรรมต่างๆ จะคิดแบบเก่าไม่ได้แล้ว จะมายึดสูตร ทำตามกรอบเดิมๆ คงไม่ต่างอะไรจากไดโนเสาร์ (จะเห็นได้ว่า สิงห์ฯ คุยกับคนยุคใหม่ผ่าน social media และสิงห์ก็พยายามจะเอาอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เข้ามาเล่น)พีอาร์งานนี้บอกว่า ผมต้องใส่ชุดสีขาวไปร่วมงาน เพราะเป็นคอนเซ็ปต์งาน ผมลังเลระหว่างใส่เสื้อมาดริด, สเปอร์ หรือ ทีมชาติอังกฤษ (ที่ตกรอบตลอดเวลา) ดี เอาน่ามันก็ “ขาว” เหมือนกัน แต่เป็นขาวไว้อาลัยให้กับรัฐบาลชุดนี้ ว่าแต่ในงาน อย่าลืมเปิดเพลง “Bitch” Over Trouble Water เอ๊ย Bride Over Trouble Water ด้วยนะ
รับรอง ผมเต้นท่า “เอาอยู่”
 
          หมายเหตุ : เวลาออกเสียงว้าว ! (wow) ตามชื่อบทความ พยายามใส่เสียงสูง จะได้ตรงจริตของโฆษณาหลายตัว ที่ตอนนี้กำลังว้าวๆๆ กันอยู่ (ฮา)
.......................................
(หมายเหตุ  Sensationว้าว ! : คอลัมน์ Eat Play Life โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)