บันเทิง

Sex, Lies, and Video Tape

Sex, Lies, and Video Tape

03 ส.ค. 2555

Sex, Lies, and Video Tape : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม

          หากใครเคยติดตามผลงานของผู้กำกับ สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก ในยุค 10 ปีให้หลังมานี้ ลายเซ็นหรือเอกลักษณ์เฉพาะของคนทำหนังที่ฝากไว้ในผลงานแทบทุกเรื่องของเขาเสมอ คือการเล่าเรื่องหลากหลายตัวละคร ซึ่งบางเรื่องอาจดูไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันและกัน หากแต่พวกเขาล้วนมีความเชื่อมโยงถึงกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวละครในบางเรื่องก็ถูกเล่าคู่ขนานกันไปโดยไม่มีทางบรรจบเข้าหากันได้ แต่ก็ลงเอยในประเด็นเดียวกัน บางเรื่องมีตัวละครมากมายที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน แต่ก็สามารถเล่าได้โดยไม่สับสนและสนุกเหลือหลาย แต่ใครจะรู้บ้างว่าผลงานหนังที่แจ้งเกิดผู้กำกับคนนี้ กลับเป็นหนังที่มีตัวละครไม่เยอะ มีพล็อตไม่ใหญ่โต และไม่ได้แตะประเด็นใหญ่ๆ ในระดับโครงสร้างทางสังคมเหมือนหนังในยุคหลังหลายเรื่องของเขา (และมีหลายเรื่องอีกเช่นกันที่โซเดอร์เบิร์กทำหนังเข้ารกเข้าพง ไปไม่น้อย)

           เมื่อปี 1989 ผู้กำกับท่าทางเนิร์ดๆ คนนี้ พาเอาหนังของตัวเองเรื่อง “Sex, Lies, and Video Tape” ไปคว้าปาล์มทองคำ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งรางวัลขวัญใจมหาชนจากเทศกาลหนังซันแดนซ์ ในสหรัฐอเมริกา ปีเดียวกัน ไม่นับรางวัลน้อยใหญ่จากอีกหลายสถาบันและสมาคมนักวิจารณ์อีกหลายเวที นับแต่นั้นมาชื่อของ สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก ก็เป็นที่รู้จักในหมู่นักดูหนัง งานเข้ากลายเป็นผู้กำกับเนื้อหอม มีหนังให้ทำไม่ขาดมือ เรียกว่าทั้งสตูดิโอและโปรดิวเซอร์ แย่งกันป้อนหนังให้ทำแทบจะทุกปี มีหนังฮิตขนาดที่สร้างเป็นแฟรนไชส์ต่อๆ กันมาหลายภาค เริ่มจาก Ocean’s Eleven แล้วตามด้วย Twelve และ Thirteen มีหนังได้ทั้งเงินและกล่องในปีเดียวกันคือ Erin Brockovich กับ Traffic มีหนังที่นักวิจารณ์ชื่นชมอย่าง Che และ Contagion ขณะเดียวกันเขาก็ทำหนังที่ได้รับเสียงก่นด่าตามหลังทั้ง Solaris, The Girlfriend Experience, The Informant! และ Haywire ประสบการณ์การทำหนังอันโชกโชนจนอยู่มือ ทำให้ช่วงหนึ่งเขาออกมาประกาศจะเลิกทำหนัง ขอหันไปทุ่มเทกับการทำทีวีบ้าง และไม่ว่าโซเดอร์เบิร์กจะละวางจากวงการหนังไปหรือไม่ก็ตาม เราลองมาทำความรู้จักกับหนังที่สร้างชื่อให้เขาจนเป็นที่โจษจันและแจ้งเกิดในวงการดูบ้าง...
  
          “Sex, Lies, and Video Tape” บอกเล่าเรื่องราวของคนสี่คน เริ่มจากความสัมพันธ์แบบคบชู้ของคู่สามี-ภรรยา จอห์น(ปีเตอร์ กัลลาเกอร์) กับแอนน์(แอนดี้ แมคโดเวลล์) ที่น้องสาวของเธอ ซินเธีย (ลอร่า ซาน กิอาโคโม) แอบมามีความสัมพันธ์กับสามีของพี่สาว วันหนึ่งเพื่อนเก่าของจอห์นชื่อ เกรแฮม(เจมส์ สเปเดอร์) เดินทางมาเยี่ยม และขออาศัยค้างคืนด้วย ก่อนจะออกหาบ้านเช่าเป็นการส่วนตัว โดยจอห์น มอบหมายให้ภรรยาเป็นคนช่วยเหลือดูแล

          เรื่องสะกิดใจคนทั้งสี่เกิดขึ้นเมื่อแอนน์มาเยี่ยมห้องพักของเกรแฮม และพบวิดีโอส่วนตัวของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยบทสัมภาษณ์หญิงสาวถึงประสบการณ์ทางเพศ ก่อนที่เธอจะผละไปด้วยความสับสนและเขินอาย ในขณะที่ฝ่ายน้องสาว หลังได้รับทราบเรื่องราวของเกรแฮม ก็อยากจะทำความรู้จัก ก่อนจะดุ่มบุกมายังห้องพักของฝ่ายชาย

          หลังพูดคุยกันไม่นาน ด้วยความถูกอัธยาศัย ซินเธีย ก็ยอมให้เกรแฮม สัมภาษณ์เธอในเรื่องเพศและประสบการณ์ทางเพศพร้อมกลับไปเล่าให้พี่สาวฟัง รวมถึงจอห์น พี่เขยและชู้รักของเธอได้รับรู้ด้วย ในขณะที่แอนน์ก็จับได้ว่าน้องสาวของเธอแอบลักลอบเป็นชู้กับจอห์นผู้เป็นสามี เธอตัดสินใจไปหาเกรแฮม และให้เขาบันทึกคำสัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ทางเพศของเธอ ก่อนจะกลับมาขอหย่ากับจอห์น พร้อมกับเล่าเรื่องราวระหว่างเธอและเกรแฮมให้ฟัง ก่อนที่ฝ่ายสามีจะหุนหันพลันแล่นออกไปพบเกรแฮม และรับรู้ความจริงที่ถูกปกปิดซ่อนไว้ในใจของใครบางคนผ่านวิดีโอเทป

           “Sex, Lies, and Video Tape” เป็นหนังที่เปิดเปลื้องจิตใจมนุษย์ในอีกมิติได้อย่างน่าสนใจ เรื่องที่เรามักจะปกปิด หรือพูดปดเวลาเอ่ยถึงอยู่บ่อยครั้งอย่างเรื่องเพศ ก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการขุดเอาปมปัญหาที่ถูกฝังอยู่เบื้องลึกในใจออกมาผ่านอุปกรณ์อย่างกล้องวิดีโอและคาสเส็ตต์เทป ไม่ว่าจะเป็นความสุขในเพศรสที่แอนน์ไม่เคยได้รับจากสามีตลอดชีวิตการแต่งงาน การโป้ปดมดเท็จหลอกลวงของจอห์น ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าภรรยาหรือชู้รัก และแม้กระทั่งชีวิตหน้าที่การงานในอาชีพทนายความของเขา (รวมทั้งการที่จอห์นโกหกลูกความหลายครั้งเพื่อหลบไปหาซินเธีย) และสุดท้ายปมในใจเกรแฮม ที่ทำให้เขาต้องบำบัดและหาทางคลี่คลายด้วยการออกตระเวนสัมภาษณ์หญิงสาวถึงประสบการณ์ทางเพศของพวกเธอ

          ท่ามกลางหนังมากมายหลายสิบเรื่องของโซเดอร์เบิร์ก มากกว่าครึ่งเป็นหนังสเกลใหญ่ ถ้าไม่ใช่หนังแอ็กชั่น ก็จะหันมาจับหนังดราม่าที่เล่นกับคาแร็กเตอร์ตัวละครมากมาย ที่ล้วนมีความข้องเกี่ยวต่อกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรือไม่ก็โฟกัสไปที่ประเด็นใหญ่ๆ ตั้งแต่การต่อสู้ของปัจเจกกับเจ้าหน้าที่รัฐ(Erin Brockovich) หรือไม่ก็ปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบตั้งแต่สถาบันเล็กๆ อย่างครอบครัวไปจนถึงระดับโครงสร้างทางสังคม (Traffic, Che) บางเรื่องพูดถึงประเด็นใหญ่โตที่ส่งผลกระทบโยงใยในระดับโลกาภิวัตน์ (Contagion)

          โซเดอร์เบิร์กมีหนังที่ถือว่าเป็นระดับ ‘มหากาพย์’ อย่าง Che มีหนังทำเงินให้เก็บเกี่ยวผลกำไรได้เรื่อยๆอย่างหนังชุด Ocean’s 11, 12, 13 มีหนังแอ็กชั่นล้างผลาญที่ล้มคว่ำไม่เป็นท่าอย่าง Haywire ล่าสุดเขามีหนังเล็กๆ แต่กำลังสร้างปรากฏการณ์ในสหรัฐอเมริกาเรื่อง Magic Mike ขณะนี้

          สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก คือคนทำหนังที่น่าจะยังไม่รามือง่ายๆ ไปจากวงการ และทำให้เรายังรอดูผลงานของเขาต่อไปเรื่อยๆ
.......................................
(หมายเหตุ  Sex, Lies, and Video Tape : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)