บันเทิง

The Amazing Spider-Man: เขาทำอะไรเพื่อเรา

The Amazing Spider-Man: เขาทำอะไรเพื่อเรา

13 ก.ค. 2555

The Amazing Spider-Man: เขาทำอะไรเพื่อเรา : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย... องอาจ สิงห์ลำพอง

          ผลงานการกำกับของ มาร์ค เว็บบ์ โดยเรื่องราวของไอ้แมงมุมฉบับใหม่ เริ่มตั้งแต่สมัยปีเตอร์ พาร์คเกอร์ (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) ยังเป็นเด็กน้อย พ่อแม่ของปีเตอร์ได้ฝากเขาไว้กับลุงเบน และป้าเมย์ ช่วยเลี้ยงดู จนเมื่อโตปีเตอร์ต้องมาเกี่ยวพันกับ ดร.เคิร์ท และได้รู้จักกับเกวนหญิงสาวร่วมห้องผู้เป็นดวงใจของเขา ผมรู้สึกแปลกใจกับวิธีคิดของทีมผู้สร้างสไปเดอร์แมนภาคนี้อย่างมาก กำเนิดต่างๆ ของสไปเดอร์แมนมันแตกต่างจากภาคเดิมไปหลายประเด็น (แต่น่าจะมาจากต้นฉบับที่เป็นการ์ตูน) เลยไม่สามารถเล่าต่อความจริงของสไปเดอร์แมนได้ว่าเป็นอย่างไร เหมือนประวัติศาสตร์มีสองฉบับซึ่งก็อยู่ที่ว่าเราเชื่อฉบับไหนมากกว่า  แต่สุดท้ายก็คงเป็นเรื่องของความรู้ที่โยงไปถึงอำนาจ  ในกรอบความรู้ของเราเกี่ยวกับสไปเดอร์แมนต่อไป ก็จะขึ้นอยู่กับว่าช่วงนี้ใครมีอำนาจในการสื่อสารต่อผู้ชมจนกลายเป็นสิ่งที่เราๆ รับรู้ และผมเชื่อมั่นว่าต่อไปนี้ ปีเตอร์ นั้นถูกแมงมุมกัดที่ต้นคอ ไม่ใช่ที่มืออย่างที่เคยเข้าใจกันมา
 
          การนำเสนอใหม่เกี่ยวกับการเปิดเผยใบหน้าที่เคยอยู่ภายใต้หน้ากากของสไปเดอร์แมน ฉากการเปิดเผยตัวเองต่อเกวนแฟนสาว การถอดหน้ากากช่วยเด็กในรถ หรือการที่พ่อของเกวนเห็นหน้าที่แท้จริงของสไปเดอร์แมนว่าเป็นใคร เหล่านี้เป็นการสะท้อนความคิดแบบหลังนวสมัยของภาพยนตร์ปี 2012 ว่าก้าวหน้าทางความคิดไปแค่ไหนกันแล้ว เราไม่สนใจหรอกว่า ใครคือสไปเดอร์แมน? (Who is Spider-Man?) แต่สนใจกันที่ สไปเดอร์แมนทำอะไรมากกว่า? (What does Spider-Man do?) การรู้ว่าเขาเป็นใครจะมีประโยชน์หรือความหมายใด ถ้าหากเขาไม่ทำอะไรเลย เราจึงเกิดคำถามในใจกันว่า เขาจะทำอะไรให้แก่เราหรือแก่โลก จึงเป็นการหาคำตอบที่น่าสนุกกว่า แล้วสไปเดอร์แมนภาคนี้ก็ตอบคำถามเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี เขาดูเป็นคนธรรมดาอย่างเราๆ มากกว่าทุกภาคแต่เขาก็ยังคงทุ่มเทความสามารถที่มีเหนือมนุษย์ทั่วไปเพื่อช่วยปกป้องโลกเอาไว้
 
          ภาพยนตร์เรื่องนี้โดยรวมสนุก เร้าใจ มีหลายอารมณ์ให้ได้สัมผัส ผมว่าแอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เป็นนักแสดงที่มีความสามารถในการแสดงแนวดราม่า ทุกฉากที่มีการแสดงส่งถึงอารมณ์ตัวละครเขาจะทำได้ดีเสมอ แล้วเมื่อถึงฉากไคลแม็กซ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เล่นเอาผู้ชมน้ำตาเอ่อได้แบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว เมื่อฮีโร่ของเราบาดเจ็บจากการถูกยิง แต่ต้องรีบไต่ตึกไปให้ถึงตึกเป้าหมายให้ทัน ชายคนงานคุมก่อสร้างที่ลูกชายของเขา่ได้รับการช่วยชีวิตจากสไปเดอร์แมน พร้อมผองเพื่อนร่วมอาชีพรวมใจกันต่อทางด่วนพิเศษจากเครนก่อสร้างยักษ์เพื่อให้สไปเดอร์แมนประกอบภารกิจครั้งนี้ได้สำเร็จ พลังใจจากทุกคนที่ช่วยกันส่งทะลุออกมานอกจอยิ่งกว่าดูแบบ 3D เสียอีก และแล้ว Americanization ก็ทำสำเร็จอีกครั้ง ดูฉากนี้แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองติดกับดักอีกจนได้ แต่เมื่อผมง้างกับดักนั้นออกมา สิ่งที่ผมได้กลับมามันคุ้มค่ากว่าเชิงที่เสียไปมากนัก ผมเรียนรู้ว่าพลังของการร่วมมือร่วมใจกันเพื่อจะทำสิ่งใดให้สำเร็จได้นั้น มันขึ้นอยู่กับแค่ตัวเราเป็นสำคัญ เมื่อเราคิดดีแล้วลงมือกระทำขึ้นมา จากนั้นมันก็จะถักทอต่อกันไปเป็นใยร่างแหแห่งความสามัคคีได้ต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ฮีโร่คนใดมาช่วย หรือสร้างฮีโร่ขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวใจให้เรากล้า  เพราะว่าเราทุกคนก็เป็นฮีโร่ได้เช่นกัน…ขึ้นอยู่แค่ว่า  “เราทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง?” เท่านั้นเอง
.......................................
(หมายเหตุ The Amazing Spider-Man: เขาทำอะไรเพื่อเรา : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย... องอาจ สิงห์ลำพอง)