มารยาริษยาเวอร์ชั่นแซบ

          นาทีนี้ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วสำหรับละครชีวิตข้นที่เชือดเฉือนกันจนจอร้อนฉ่า มารยาริษยา ทาง ช่อง 5 ถือเป็นการรีเมกละครตัวเองของค่ายเอ็กแซ็กท์ เวอร์ชั่นแรกฮือฮามากเมื่อจับ “นก” สินจัย เปล่งพานิช ปะทะกับ “ลูกเกด” เมทินี กิ่งโพยม ชนิดคนดูยังตราตรึง

          คราวนั้นกำกับฯ โดย “ปุ๊ย” ผอูน จันทรศิริ คราวนี้ก็ใช้ผู้กำกับฯ หญิง “บุ๋ม” รัญญา ศิยานนท์ การใช้ผู้กำกับหญิงนับว่ามาถูกทาง เมื่อเนื้อหาเป็นการชิงดีชิงเด่นของ 2 สาว ผู้หญิงจะเข้าใจอารมณ์ผู้หญิงด้วยกันได้ดี

          เมื่อของเก่าเป็นละครดังที่คนยังพูดถึง จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนเปรียบเทียบกับของเก่า ตอนคิดหยิบมาปัดฝุ่นเอ็กแซ็กท์คงทำใจยอมรับเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า ดังนั้นเสียงชมและเสียงติจากคนดู ผู้ผลิตคงต้องรับฟัง 

          การนำเสนอในมุมมองผู้กำกับฯ บุ๋ม ต่างจากของ ปุ๊ย พอสมควร เมื่อมารยาริษยาเวอร์ชั่นล่าสุดเน้นฉูดฉาด จัดจ้าน และโฉ่งฉ่าง แต่ต้นฉบับนั้นจะลุ่มลึกทางอารมณ์ตัวละครมากกว่า ละมุนละไมกว่า

          ไม่ได้บอกว่าใครดีกว่า คนดูจะตัดสินว่าชอบอันไหนมากกว่ากัน แต่ความต่างที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องดี เพราะถ้าของใหม่มาในรูปแบบเดิมก็ไม่มีอะไรน่าติดตาม ซึ่งยุคสมัยเป็นตัวกำหนดสำคัญ ถ้าไม่เข้ายุคจะโดนครหาว่าเชย ดังนั้นยุคที่ละครแข่งขันดุ หากมารยาริษยาของใหม่เน้นปูอารมณ์แบบของเก่าเพื่อให้ซึมซับอาจไม่ทันเรื่อง คนดูจะกดรีโมตหนี จึงต้องดำเนินเรื่องเร็วและแซบเว่อร์ให้มากที่สุดเพื่อตรึงคนดู แต่อาจขาดความประทับใจ เพียงแต่บทที่เน้นให้มีฉากตบตีทุกตอนเพื่อเอามันก็น่าห่วงหากผู้ปกครองจะให้ลูกหลานดูละครเรื่องนี้ 

          คนที่ถูกจับตามากที่สุดคือ ผู้รับบท เพียงดาว นางแบบอันดับ 1 ของวงการเจ้าอารมณ์ เถรตรง โดย “บี” น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ มารับบทเดิมของนางเอกค้างฟ้า “นก” สินจัย เป็นการบ้านหนักและกดดันไม่น้อยสำหรับสาวบีเมื่อต้องวัดฝีมือกับรุ่นพี่ขั้นเทพ ไม่แปลกที่เตียงติชมจากคนดูจะพูดว่า บารมีสาวบีนั้นยังเทียบเท่านกไม่ได้ มุมนี้ก็น่าเห็นใจเธอ แต่ถ้ามองการแสดงต้องบอกว่าเห็นความมุ่งมั่นและพยายามของเจ้าตัวที่จะทำบทนี้ออกมาให้ดีที่สุด แต่ที่ไม่น่าชอบใจสักเท่าใด เห็นจะเป็นบทสาวเจ้าอารมณ์ที่ถูกถ่ายทอดของเธอนั้นจะเหวี่ยงและและวีนมากเกินไปหน่อยจนบางครั้งดูร้ายกาจเกินไป

          อีกบทที่ถูกจับจ้องไม่แพ้กัน ดีนี่ สาวทะเยอทะยานที่พร้อมโค่นบัลลังก์นางพญาของเพียงดาว การเลือกสาวที่ข่าวส่วนตัวแรงดีไม่มีตก “พิงค์กี้” สาวิกา ไชยเดช มารับบทนี้จึงฮือฮาตั้งแต่แรก ซึ่งพิงค์กี้ถ่ายทอดบทนี้ได้ดีแบบคนดูหมั่นไส้ทั้งเมืองชนิดอยากฝากเปลือกทุเรียนไปให้เป็นทิวแถว แต่ก็อีก ความร้ายกาจของพิงค์กี้มาเร็วไปนิด ทำให้บทนี้ขาดความลึกและชั้นเชิงแบบที่ลูกเกดเคยแสดงไว้ได้เนียนกว่า ตอนนี้กว่าที่ลูกเกดจะเผยธาตุแท้ออกมาให้คนดูเห็นความร้ายจนอึ้งก็นานพอดู ไม่แปลกถ้าระยะยาวคนดูจะจำบทบาทของลูกเกดได้มากกว่าพิงค์กี้

          ในส่วนบทที่ตั้งใจเอามันให้คนดูร้องซี้ดซ้าด จึงขาดการปูแบล็กกราวด์ตัวละครสองสาว เพียงดาว และดีนี่ แม้มีอยู่บ้างเล็กน้อยว่าทำไมดีนี่ต้องทะเยอะทะยานในชีวิตเมื่อมีปมปัญหาครอบครัวเกี่ยวกับพ่อ หรือปูมหลังความรักของเพียงดาวที่เคยผิดหวังจนทำให้เจ้าตัวมีนิสัยและแง่มุมความรักจริงจังเกินไป เพราะถ้าหากเพิ่มรายละเอียดได้ดีกว่านี้จะทำให้ตัวละคร เพียงดาวและดีนี่ มีมิติและน่าสนใจกว่านี้อีกเยอะ

          ตัวละครอื่นๆ... พระเอกผู้เป็นชนวนรักให้สองสาวเปิดศึกแย่ง การใช้บริการ นาวิน ตาร์ ดูไม่เข้าตาคนดู เมื่อบทไม่เปิดโอกาสให้คนดูรักและสงสารมากแบบที่ทำให้ โอลิเวอร์ พูพาร์ท แจ้งเกิดกับบทนี้ ส่วนหน้าตาที่ดูแปลกไปของหนุ่มตาร์กลายเป็นประเด็นจับจ้องของคนดูมากกว่าฝีมือแสดง ส่วนบทน้องชายพระเอกที่รับบทโดย “กาย” รัชชานนท์ สุขประกอบ ก็เล่นแอ๊บเด็ก แอ๊บน่ารักจนขัดหูขัดตา แต่สีสันเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ธงธง ม๊กจก กับบท ผู้จัดการตัวแสบของดีนี่ เป็นสีสันเรื่องที่ถ้าขาดไปรับรองไม่แซบขนาดนี้ และได้เห็นมุมการแสดงที่แปลกไปของเจ้าตัว เพราะส่วนใหญ่จะเล่นบทตลกบ้าบอ แต่เรื่องนี้มีมุมการแสดงดราม่าที่ยอดเยี่ยมไม่น้อย

          ดำเนินเรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการชิงรักหักสวาท ชิงไหวชิงพริบของเพียงดาว และ ดีนี่ เห็นทีต้องจับตาดูตอนจบว่าจะให้บทสรุปแต่ละสาวเป็นเช่นไร เพราะตอนจบเวอร์ชั่นเก่านั้นสะเทือนใจคนดูไม่น้อย ของใหม่จะจบเหมือนของเดิมหรือไม่เห็นทีต้องลุ้น และเอ็กแซ็กท์คงต้องเน้นเป็นพิเศษกับตอนจบมารยาริษยาเวอร์ชั่นนี้ หลังเสียศูนย์กับตอนจบของ ดอกโศก ที่คนดูบ่นอุบ!
.......................................
(หมายเหตุ มารยาริษยาเวอร์ชั่นแซบ : คอลัมน์ มายาวิชั่น โดย... เทพิตา)