บันเทิง

ชีวิตรักและดนตรีของ 'แอมมี่'

ชีวิตรักและดนตรีของ 'แอมมี่'

24 มิ.ย. 2555

ชีวิตรักและดนตรีของ 'แอมมี่ เดอะ บ็อททอม บลูส์'

                       เมื่อช่วงหลายเดือนที่แล้ว ศิลปินหนุ่มนักร้องนำวง "เดอะ บอททอม บลูส์" อย่าง "แอมมี่" ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ กลายเป็นที่สนใจของใครๆ หลายคน กับชีวิตของเขาที่ทำให้ใครหลายคนตกตะลึง กับการประกาศแต่งงานฟ้าผ่า โดยที่ในวันแต่งงานเจ้าสาว "ไอด้า" ไอรดา ตั้งท้องได้ 5 เดือน เรียกว่าเป็นเซอร์ไพรส์ ถึงจะมีเสียงวิจารณ์มากแค่ไหน แต่หนุ่มคนนี้ ก็ยังยืนหยัดที่จะทำในสิ่งที่เขาเชื่อมั่น ทั้งในเรื่องของความรัก และเรื่องของดนตรี ซึ่งเรื่องของความรักทุกคนคงรู้ดีไปแล้ว แต่สิ่งที่อยากให้ทุกคนรู้จักผู้ชายคนนี้ในเรื่องของดนตรีกันดูบ้าง

                       แอมมี่ได้บอกเล่าถึงการทำงานเพลงว่าในตอนนี้เขาถือเป็นศิลปินในสังกัดสนามหลวง ค่ายแรกที่เขาส่งเดโมมา แต่เพราะมีเรื่องในระบบปฏิบัติงานทำให้พวกเขาถูกย้ายไปอยู่ที่ดั๊กบาร์ และได้ออกอัลบั้มแรกกับค่ายนั้น ส่วนสาเหตุที่ต้องย้ายกลับมาค่ายสนามหลวงใหม่ เป็นเพราะว่าช่วงก่อนหน้านี้ดั๊กบาร์กำลังจะปิด เขาจึงต้องหาที่อยู่ใหม่ และลงมติกันในวงว่าอยากย้ายไปอยู่สนามหลวง ทำให้พวกเขากลับมาอยู่ที่สนามหลวง

                       ในเรื่องที่วงมีการเปลี่ยนสมาชิกหลายต่อหลายครั้ง แอมมี่บอกว่ามันเป็นเรื่องที่โชคดี เพราะในการทำงาน ไม่ว่าพวกเขาจะปล่อยเพลงอะไรมาก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนสมาชิก มาจากเรื่องของระเบียบวินัยในการทำงานของพวกเขาเอง เพราะพวกเขาแต่ละคน ต่างมีหน้าที่ส่วนตัวกันอยู่แล้ว  ทำให้การที่จะซ้อมดนตรีมีน้อย ต่างคนต่างไม่ค่อยดูแลตัวเอง เวลาไปขึ้นคอนเสิร์ตจึงไม่ค่อยดี ทาง "สนามหลวง" เองอยากให้พวกเขาพัฒนาขึ้น

                       "ผู้ใหญ่เรียกไปคุยว่าให้มีการกระตือรือร้น และมีการพัฒนามากกว่านี้ จึงมีการปรับกันคล้ายๆ อยู่ในค่ายทหาร ด้วยความที่พวกเราเป็นผู้ชายระเบียบวินัยจึงต้องรุนแรง จึงทำให้บางคนเขาทนไม่ไหว ขอแยกตัวออกไป แต่เป็นจากกันไปด้วยความรัก สมาชิกในวงมีปรับเปลี่ยนกันไปเรื่อย จนกระทั่งได้สมาชิกเข้ามาใหม่ 2 คนที่มาจากการประกาศรับสมัคร คือ ดัช (เอกชัย วรแสน) เข้ามาเล่นกีตาร์ และยีนส์ (วสันต์ เทียมเงิน)เข้ามาตีกลอง ย้อนความไปถึงตอนที่เต้ย (อธิคม เปรมกมล) มือกีตาร์คนเก่าออกไป เรามีการคุยกันกับสมาชิกที่เหลือว่าต่อไปนี้ถ้ามีใครออกไปอีกเราจะต้องยุบวง จะไม่ใช้ชื่อเดอะ บ็อททอม บลูส์อีก จนในที่สุดพี่ตี้ (จักรกฤษณ์ เลิศธารากุล) มือกลองขอออกไป แต่เขาบอกว่าให้อยู่ต่อ ไม่ต้องยุบวง แต่เราไม่พร้อมแล้วเหลือสมาชิก 2 คน จะแบกรับต่อไปกันอย่างไร ถ้าทำออกมาแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จ มันก็แสดงว่าเราไม่เจียมตัวกัน เพราะขนาดคนในวงยังไม่มีที่ยึดเหนี่ยวเลย" แอมมี่ บอก

                       นอกจากนี้แอมมี่ ยังเล่าให้ฟังอีกว่าเขาได้เดินไปบอกกับทาง ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ผู้บริหารค่าย "สนามหลวง" ว่าขออนุญาตยุบวง แต่ทางฟ้าใหม่ ได้เรียกพวกเขาเข้าไปคุย และให้พวกเขาคิดทบทวนว่าหากพวกเขาไม่เล่นดนตรี แล้วไปเริ่มทำอย่างอื่น มันก็เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่อยู่ดี ต้องไปพิสูจน์อะไรใหม่ๆ อยู่ดี สู้พิสูจน์ในสิ่งที่ตัวเองรักและทำมันมาได้ไกลแล้วไม่ดีกว่า และเมื่อเขาทบทวนในสิ่งที่ฟ้าใหม่บอก เขาได้กลับไปนั่งคิดทั้งกลัวและกดดันด้วย เพราะอัลบั้มแรก ที่ทำไว้ค่อนข้างประสบความสำเร็จ เขากับเบนซ์ (ธนภาส อัศวศิริโรจน์) มือเบส จึงตัดสินใจทำต่อ โดยได้สมาชิกเข้ามาอีก 2 คน แต่ก็มีการคุยกันว่า ถ้าชุดนี้ไม่ได้รับการตอบรับดีเท่าที่ควร พวกเขาจะยุบวง ซึ่งการเข้ามาใหม่ของสมาชิก 2 คน ไม่ได้มีผลกับแนวดนตรีของพวกเขาเลย ทั้งนี้ยังคงเป็นป๊อป ร็อกแอนด์โรลล์ มีแจ๊ส มีบลูส์ผสม

                       "ในอัลบั้มชุดใหม่นี้ อารมณ์ผมให้เต็มที่เลย ผมคัดเพลง แต่งเพลงอย่างเต็มที่ โดยมีการร่วมแต่งเพลงกับนักแต่งเพลงคนอื่นด้วย คือทำกันเต็มที่ แต่พอได้ปล่อยเพลงแรก Baby I love you ออกมาปลายปีที่แล้วก็ร้องไห้เลย เพราะมาพร้อมกับน้ำเลย กระทบกับงานจังๆ ตอนนั้นท้อมาก เหมือนมรสุมเข้ามารุมไปหมด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ฉะนั้นพอปล่อยเพลงที่ 2 ออกมาเมื่อเดือนเมษายน คือ เพลงไม่รู้ตัว กลายเป็นโรคจิตไปเลย ไม่ฟังวิทยุ ไม่ดูทีวี เพราะเรากดดันมาก รอไปลุ้นทีเดียวบนเวทีคอนเสิร์ตว่าคนจะร้องตามเรากันได้ไหม ถ้าคนร้องตามกันได้เมื่อไหร่แสดงว่าเพลงมันมาแล้ว ปรากฏว่า กระแสตอบรับออกมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะในยูทูบมีคนบอกว่า ยอดคนดูค่อนข้างจะขึ้นไว ในเรื่องของอัลบั้มเต็มจะมีมาแน่นอน" แอมมี่ กล่าว

                       พร้อมบอกถึงหลายคนที่มองว่าวง "เดอะ บอททอม บลูส์" เป็นวงที่ขายหน้าตา เขาบอกได้เลยว่าพวกเขาไม่ได้ขายหน้าตา แต่เขาขายศรัทธาในการทำงานเพลงที่เขารักมากกว่า