
สารพัด'สโนว์ไวท์+แม่มด'ในโลกของContemporary
สารพัด'สโนว์ไวท์+แม่มด'ในโลกของContemporary : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร twitter@nantakwang
ก่อนจะไปดู Snow White and The Huntsman แทนที่จะได้เจอ “คนแคระทั้งเจ็ด” ผมก็ได้เจอวัยรุ่น 5 คนในร้านหนังสือคิโนฯ ที่พารากอน และหลังจากดูจบ แทนที่จะได้เจอ “แม่มดกับกระจกวิเศษ” ผมก็ได้เจอหญิงเฒ่าขี้บ่นในร้านนิวไลท์ สยามสแควร์
ทั้งวัยรุ่นและหญิงชรานี้เกี่ยวข้องกับหนังสโนว์ไวท์นะครับ พวกวัยรุ่นบ่นว่า หนังพวกสไปเดอร์แมนกับซุปเปอร์แมนจะเอากลับมา “ทำซ้ำ” ทำไมบ่อยๆ ส่วนหญิงชราในโต๊ะข้างๆ ที่ร้านอาหาร ก็วิจารณ์ว่าเธอคงไม่ดู เพราะรู้เรื่องแล้วว่า นิทานสโนว์ไวท์เป็นอย่างไร
เราไม่ว่ากัน และผมก็ไม่ใช่ “หน้าม้า” เพียงแต่จะมาอธิบายว่า มีความเข้าใจผิดรุนแรงอย่างไร
หนัง snow white and the huntsman ที่เพิ่งกำลัง “ลงโรง” ตอนนี้ เขาเรียกว่าเป็น contemporary หรือเวอร์ชั่น ”ร่วมสมัย” แปลง่ายๆ ก็คือ ปรับเนื้อหาให้เข้ากับยุคสมัยเรา ปรับพฤติกรรม นิสัยของตัวละครให้สอดคล้องกับสังคมยุคใหม่ หมายความว่า สโนว์ไวท์ที่ “เคยแสนดี” ในเทพนิยายของ “พี่น้องตระกูลกริมม์” อาจจะมาร้ายในภาคนี้ก็ได้
หรือ แม่มดที่หมกมุ่นอยู่กับกระจกวิเศษหรือแรงริษยา อาจจะหันมาส่องใบหน้าใน iPad แทนกระจกวิเศษ เหมือนที่บางตอนของเทพนิยายนี้ “คนแคระทั้งเจ็ด” ก็กลายเป็นโจรไปซะ พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องอะไรที่มันเคยเดิมๆ มายาวนาน พอนำมาทำซ้ำ มันสนุกที่การปรับเปลี่ยนบางอย่าง เพื่อมีนัยยะหรือความหมายบางอย่าง (ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับการเมืองความรัก สังคม ฯลฯ)
การทำแบบนี้นี่เอง ที่เรารู้จักกันดีว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่ เป็น contemporary หรือ “ร่วมสมัย”
และเพราะหนัง ละคร วรรณกรรม สามารถปรับเปลี่ยนไปเป็น contemporary ได้ ความสนุกตื่นเต้นจึงเกิดขึ้นทุกครั้ง ตรงที่ เราไม่รู้ว่า หนังที่จะดูนี้ แม้ชื่อเดิม แม้คุ้นเคยมานาน (แบทแมน สไปเดอร์แมน แม่มด นางฟ้า คนแคระ สโนว์ไวท์) มันจะมีพฤติกรรม หรือนิสัยอย่างไร
ถ้าผมทำ “ซินเดอเรลล่า” เวอร์ชั่นใหม่ ผมจะไม่ให้เธอทิ้งรองเท้าคู่นั้นแบบในเทพนิยาย แต่ทิ้งไอโฟนแทน ถ้าผมทำหนูน้อยหมวกแดง ผมอาจจะให้เธอเป็นเด็กไม่ดี เสพยาบ้าและติดคลิปโป๊ !
เพียงแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอะไรก็ตาม เค้าโครงเดิม ทิศทางเดิม จะต้องรักษาไว้ ไม่ใช่เปลี่ยนโครงสร้างหมดสิ้น
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเอา Snow White ของ ”พี่น้องตระกูลกริมม์” ปี 1812 (สองคนนี้ไม่ได้แต่งเรื่องนี้ เขาเป็นผู้รวบรวมใหม่) มาดูเปรียบกับ The Mirror Mirror เมื่อต้นปี
และดูเปรียบกับเรื่องนี้ Snow White and The Huntsman ที่กำลังฉายตอนนี้
เราจะพบว่าทั้งสามเวอร์ชั่นนี้ ไม่เหมือนกันเลย อันหนึ่งสดใส เบาบาง อีกเรื่องเน้นคอสตูมเสื้อผ้าและอาการหลอนของกระจก แม้แต่ Snow White and The Huntsman ก็พาไปสู่โลกอีกโลกหนึ่ง มีแง่มุมของ gothic การถูกกระตุ้นความอยากรู้ของตัวละคร
และถ้าจะย้อนลงไปอีก ไกลกว่านั้น เทพนิยายสโนว์ไวท์ ก็มีมากมายหลายตอน ในฉบับแรกต้นทางอย่างน้อยๆ ก็อยู่ระหว่างศตวรรษที่ 11-14 ราวๆ 700 ถึง 900 ปีเชียว เพียงแต่ภาพตอนที่เราคุ้นก็คือ สโนว์ไวท์กับคนแคระ ที่พี่น้องตระกูลกริมม์ เน้นไปที่เลยว่า เป็นคาแรกเตอร์เด่นที่ตัวนี้
เพราะในบางเวอร์ชั่น “กระจกวิเศษ” ก็เด่นกว่าคนแคระ หรือคนแคระก็เด่นกว่าแม่มด มันแล้วแต่ว่า คนทำหนังหรือละคร ใครจะเอาอะไรมานำ มาลีด และตีความใหม่
อย่าลืมว่าการตีความทั้ง interpretation และ interpret นั้น คือเสน่ห์ของหนัง เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้เราสนุกกับมุมมองใหม่ของการดูเวอร์ชั่นนั้น เวอร์ชั่นนี้ คือ ชื่อเรื่องเดิมชื่อตัวละครเดิม แต่นิสัยใจคอ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของคนทำ
และผมก็สนุกกับ “สโนว์ไวท์” ทั้งแบบ the mirror และ Snow White and The Huntsman
ฉะนั้น ความข้องใจของวัยรุ่นทั้งห้า ในร้านหนังสือ กับอาการบ่นของหญิงชรา จึงไม่ต้องรอให้คนแคระทั้งเจ็ดกับแม่มด มาอธิบาย เพราะพวกเธอออกจากจอและหน้ากระดาษไม่ได้ ผมจึงอาสาเป็นเพื่อนมาเล่า
หลักๆ หรือตอนเดิม เราก็รู้อยู่ว่า มันคือเรื่องทำนอง ”กาลครั้งหนึ่ง” ในดินแดนสุดมหัศจรรย์ ยังมีองค์หญิงน้อยแสนงามผู้มีผมดำดุจไม้มะเกลือ ริมฝีปากแดงดั่งกุหลาบและมีผิวขาวผ่องดังหิมะ เธอคือสโนไวท์ผู้ที่รู้จักเธอล้วนรักเธอเว้นแต่ราชินีแม่เลี้ยงใจร้ายผู้ริษยาในความงามของเธอ สโนไวท์อาศัยอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ที่มีน้ำตกเจ็ดชั้นและภูเขาอัญมณีเจ็ดลูกที่ภายในมีอัญมณีเลอค่ามากมาย ภูเขาที่อยู่ห่างไกลที่สุดเป็นที่ตั้งของปราสาทที่สโนไวท์เติบโตมาภายใต้อำนาจของราชินี
แต่ถ้าผมเป็นผู้กำกับบ้าง ผมจะให้สโนว์ไวท์ “แบบของผม” สวมแหวนคำสาปหลับไปในชั้น 7 โฟร์ซีซั่น พอตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองต้องเป็นผู้นำประเทศ แทนพี่ชาย เธอเป็นสโนว์ไวท์ที่น่าสงสาร และสมเพช ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองสักอย่าง กลายเป็นหุ่นเชิดให้ชาวบ้านหัวเราะเยาะหยันแต่เธอไม่กลัว เพราะสโนว์ไวท์ที่ว่านี้ มีคนแคระทั้งเจ็ดเป็น “หมารับใช้” ที่พร้อมจะไปเมืองจีน ไปอินโด เพื่อให้นายเห็น สะสมแต้ม (อะไรแบบนั้น)
.............................
(หมายเหตุ สารพัด'สโนว์ไวท์+แม่มด'ในโลกของContemporary : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร twitter@nantakwang)