เอ... อย่าร้องไห้ | คมชัดลึก

          แม้ไม่ได้สนิทชิดเชื้อ แต่ทว่าได้ติดตามชีวิตของ 2 พี่น้อง "หัสดีวิจิตร" เอ-โย มาโดยตลอด
          ทั้งสองดำเนินชีวิตในแวดวงนางแบบและงานอีเวนท์ต่างๆ
          กระทั่งมีข่าวน่าตกใจว่า ผู้พี่ตั้งท้อง! แต่เธอปฏิเสธที่จะบอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก
          ตอนนั้นแม่ที่อุ้มลูกในท้องวัย 4 เดือนยังยิ้มแย้มแจ่มใส ราวกับว่าไม่มีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น 
 
          ภายใต้คำถามปริศนาถึงที่มาที่ไป "เอ" ก็ดูจะเป็นแม่ที่เข้มแข็งเอาการ เพราะเธอยืนยันว่าจะเลี้ยงดูลูกเอง จึงตกเป็นหน้าที่ของสื่อก็ต้องคุ้ยแคะแกะเกา จนกระทั่งเด็กลืมตาดูโลก
 
          เรื่องดูเหมือนจะผ่านไปอย่างเรียบร้อย หากไม่มีข่าวว่า ฝ่ายชายจะแต่งงาน แถมแต่งกับเพื่อนก๊วนเดียวกันอีกด้วย คราวนี้แหละต้องจับตาแบบช็อตต่อช็อต    
  
          เพราะไม่เพียงให้สัมภาษณ์ว่าช็อกกับข่าว แต่ก็เริ่มออกมาเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นพ่อให้แก่ลูก
          และแม้จะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของฝ่ายชาย แต่ก็อยากให้แสดงความรับผิดชอบ ในการเลี้ยงดูเด็กและรับรองบุตรให้ถูกต้อง 
          พร้อมๆ กัน เอ ยังแสดงท่าทีใน "เยื่อใย" ของวันวานที่หวานชื่นกับ "ผู้ชาย" คนนั้น
          อาการ "สะอื้น" วันแรก และวันต่อๆ มา กระทั่งถึงวันที่ต้องขอมือศาลให้ช่วยตัดสิน เป็นข่าวที่เผยแพร่ไปทั่ว
 
          ยิ่งวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดของลูกสาวที่จะครบ 2 ขวบพอดี ทั้งแม่และน้าสาวบอกว่าอยากจะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย เพื่อจะเป็นของขวัญให้เด็ก
 
          แต่ "ผู้ชาย" คนนั้นไม่มาตามนัด แถมยังส่งทนายมาปฏิเสธการไกล่เกลี่ยอีกด้วย
 
          ดิฉันไม่มั่นใจว่าเด็กจะรับรู้อะไร แค่ไหน และอย่างไร
 
          แต่ที่เห็นก็คือภาพของเอ อัญชลี ปล่อยโฮอย่างคนหัวใจสลาย และพร่ำบอกว่าไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากอยากให้ลูกรู้ว่าพ่อเด็กเป็นใคร 
 
          ดิฉันก็ไม่รู้ว่าทั้ง 2 ครอบครัวมีอะไรที่ลึกซึ้งซับซ้อน แต่ถึงตรงนี้อยากจะบอกคุณเอว่า... อย่าร้องไห้อีกเลย!
 
          ผู้ชายที่ไม่อยากแสดงตัวว่าเป็นพ่อ ไม่เคยมาหาเด็กเลยตลอด 2 ปีเต็ม เจอกันยังวิ่งหนี ทั้งยังไม่ยอมไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้น หนักที่สุดถึงขนาดศาลสั่งให้ตรวจดีเอ็นเอเด็กด้วย จะให้คิดยังไงได้อีก
 
          การถามหาความชอบธรรมเป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่ต้องทำอย่างเข้มแข็ง กล้าหาญและมีศักดิ์ศรี
 
          คุณเอมีน้องสาวที่พร้อมจะยืนเคียงข้างตลอดเวลา มีคนในครอบครัวที่รัก มีเพื่อนที่ไม่ทอดทิ้ง และมีอีกหลายๆคนที่จะปกป้องคุณและลูก
 
          แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเป็นซิงเกิ้ลมัม หรือแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่เมื่อมันต้องเป็นแล้วก็จงเป็นอย่างภาคภูมิ และเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ
 
          คนเรามีผิดมีพลาดกันได้ทุกคน อย่าให้อดีตกลับมาเฆี่ยนตีเราอีก
 
          และขอบอกว่าไม่เป็นไรเลย หากเด็กจะเติบโตมาโดยที่ไม่มีพ่อ เพราะถ้าเขามีความรักและความอบอุ่นจากแม่และคนรอบข้างอย่างเต็มที่แล้ว เขาคงไม่ต้องการใครไปมากกว่านี้
 
          คุณเอต้องเข้มแข็ง อยู่อย่างมีความสุข และหยุดร้องไห้...เพื่อลูก!   
.............................
(หมายเหตุ เอ... อย่าร้องไห้ : มองผ่านเลนส์คม โดย... นันทพร ไวศายะสุวรรณ์)