บันเทิง

contagionคอนเทเจี้ยนสัมผัสล้างโลก

contagionคอนเทเจี้ยนสัมผัสล้างโลก

16 มี.ค. 2555

contagionคอนเทเจี้ยนสัมผัสล้างโลก:เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม [email protected]

          อัตลักษณ์ของคนทำหนังชื่อ สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก นั้นชัดเจนมาก โดยเฉพาะฝีมือการเล่าเรื่อง ที่นอกจากแตะต้องประเด็นโลกาภิวัตน์ ที่ผู้คนในสังคมโลกทั่วทุกภูมิภาค แม้จะต่างเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม ล้วนเข้าใจได้ต้องตรงกันแล้ว กลวิธีการนำเสนอที่โดดเด่นอีกอย่างคือการบอกเล่าผ่านเรื่องย่อยหลายๆ เรื่อง โดยที่ตัวละครอาจจะมีหรือไม่มีความเกี่ยวข้องกันก็ตาม แต่ท้ายที่สุดทิศทางของหนังก็ตรงเป้าเข้าประเด็นได้ทุกทีโดยไม่ตกหล่นหรือเฉไฉออกนอกลู่นอกทาง...“contagion” ก็เช่นกัน ประเด็นโลกาภิวัตน์ของหนังเรื่องนี้คือ การแพร่ระบาดของโรคร้ายที่คุกคามประชากรโลกซึ่งมาจากทุกทิศทาง และการกระจายตัวของเชื้อไวรัส ที่อาจไม่ได้มาจากแค่ความบกพร่องของระบบสาธารณสุขพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังมีที่มาจากนโยบายทางการเมือง, ขบวนการก่อการร้าย, การปกปิดข้อเท็จจริงของภาครัฐ ฯ เท่านั้นไม่พอ หนังยังแตะประเด็นความสัมพันธ์ของครอบครัว ตั้งแต่ความรักพื้นฐานนั่นคือการพยายามปกป้องคนที่รัก การใช้พื้นที่สาธารณะบนโซเชียลมีเดียเพื่อรายงานข้อมูลข่าวสารสำคัญ ฯลฯ ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็พยายามสื่อว่า เราไม่อาจหลีกเลี่ยงโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่เราสามารถระมัดระวังป้องกันตัวเองได้ (ในระดับหนึ่ง)
 
          “contagion” ไม่ได้เป็นแค่หนังออกมารณรงค์หรือตักเตือนเรื่องสุขภาพ หากแต่เต็มไปด้วยอรรถรสหลากหลายและชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่หาตัวจับยากในฐานะคนทำหนังฝีมือดีคนหนึ่งในโลกภาพยนตร์ โดยเล่าเรื่องตั้งแต่ระดับปัจเจก ผ่านความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวหนึ่ง ไปจนถึงสังคมเล็กๆ ผ่านหน่วยงานระดับประเทศ และองค์กรใหญ่ที่โยงใยและมีสัมพันธ์เครือข่ายไปทั่วโลก เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อนักธุรกิจสาว เบ็ธ เอ็มฮอฟฟ์ (กวินเน็ธ พัลโทรว์) เดินทางกลับสู่เมืองมินนีแอโพลิส หลังเจรจาธุรกิจที่ฮ่องกงเสร็จสิ้น อาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ที่ติดมา เธอคิดว่าเป็นเพราะอาการเจ็ตแล็กที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ แต่อีกสองวันถัดมาเธอเสียชีวิตลงในห้องฉุกเฉิน แพทย์กล่าวว่าเธอเกิดอาการช็อก ด้าน สามีผู้โศกเศร้า (แมตต์ เดมอน) ก็ไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร
 
          หลังจากนั้นไม่นาน มีผู้ป่วยด้วยอาการลึกลับเดียวแบบเดียวกัน นั่นคือ การไออย่างรุนแรง มีไข้ ตามมาด้วยอาการลมชัก เลือดคั่งในสมอง…และเสียชีวิตลงในท้ายที่สุด โดยเริ่มจากที่มินนีแอโพลิส ชิคาโก ก่อนจะพบในลอนดอน ปารีส โตเกียว และฮ่องกง อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 1 รายกลายเป็น 4 ราย 16 ราย 100 ราย 1,000 ราย เมื่อวงกว้างของโรคติดต่อที่แพร่กระจายด้วยการสัมผัสขยายขอบเขตไปทั่ว มีการกระตุ้นการแพร่กระจายด้วยปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์จำนวนมากที่เกิดขึ้นในช่วงแต่ละวันจนแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างฉับพลัน
 
          ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในประเทศอเมริกา เหล่านักวิจัยต่างระดมกำลังกันทำลายรหัสทางชีววิทยาของเชื้อโรคชนิดพิเศษที่ยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง รองผู้อำนวยการชีเวอร์ (ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น) พยายามลดความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้น แม้แต่ความกังวลของตัวเองก็ตาม และต้องส่งตัว แพทย์สาวผู้กล้าหาญ (เคท วินสเล็ต) เข้าสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย ในขณะเดียวกันท่ามกลางกระแสความสงสัยที่เพิ่มทวีคูณ เกี่ยวกับการค้นหาวัคซีนที่มีผล และผู้ที่ได้มันไปก่อนคือ ดร.ลีโอโนรา โอแรนเทส (มารีออง โกติยาร์) แห่งองค์การอนามัยโลกที่ปฏิบัติหน้าที่ผ่านการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์ก ซึ่งนั่นสามารถสืบสาวกลับไปยังต้นกำเนิดของสิ่งที่พวกเขากำลังจัดการอยู่ เมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น ผู้คนพยายามปกป้องตัวเองกับคนที่พวกเขารักท่ามกลางสังคมที่มีความแตกแยก ผู้สร้างบล็อกคนหนึ่ง (จู๊ด ลอว์) อ้างว่ารัฐบาลไม่ได้บอกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนสร้างความหวาดระแวงและความกลัวที่ลามกระจายไปทั่วอย่างรวดเร็วเหมือนไวรัส
 
          “contagion” ออกฉายไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และถูกนำออกจำหน่ายในรูปแบบดีวีดีช่วงต้นปีนี้เอง ทั้งบลูเรย์, ดีวีดีโซน 1 (import จากต่างประเทศ ตอนนี้สินค้าหมดสต็อกแล้ว) ดีวีดีโซน 3 ทั้งแบบ se และวนิลลาเวอร์ชั่น (พากย์ไทยเท่านั้น ซึ่งราคาจะถูกกว่าครึ่งหนึ่ง) รายละเอียดทางเทคนิคของดีวีดี se และบลูเรย์ค่อนข้างครบถ้วน ทั้งความคมชัดและอัตราส่วนของภาพ, ระบบเสียง 5.1 ch. ทั้งออริจินัลภาษาอังกฤษ, พากย์ไทย, โปรตุเกส, เกาหลี, จีน (ในบลูเรย์เพิ่มภาษาสเปนและฝรั่งเศส พร้อมให้เลือกระบบเสียงสเตอริโอ 2 ch.) รวมถึงซับไตเติ้ลที่ใช้ภาษาเดียวกัน
 
          ความน่าสนใจของดีวีดี “contagion” คือสเปเชียล ฟีเจอร์ เนื้อหาที่เพิ่มเติมมาเป็น สกู๊ปพิเศษ contagion: how a virus changes the world ที่นอกจากเล่าถึงที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลังของหนังแล้ว ยังอธิบายความถึงมหันตภัยของเชื้อไวรัส ที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ด้วย
 
          นี่คืองานดีๆ อีกหนึ่งเรื่องของผู้กำกับ สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก ที่แฟนหนังของเขาไม่ควรพลาดที่จะหาเก็บสะสมไว้ ก่อนที่หนังเรื่องต่อมา “haywire” เราจะพบว่า ฝีมือผู้กำกับคนนี้ตกลงไปมาก จนน่าใจหาย

ชื่อเรื่อง : contagion คอนเทเจี้ยน สัมผัสล้างโลก
ความยาว : 106 นาที   
เรทติ้ง : น. 13+ ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ชมอายุ 13 ปีขึ้นไป 
ประเภท : ดราม่า, เขย่าขวัญ
.............................
(หมายเหตุ contagionคอนเทเจี้ยนสัมผัสล้างโลก:เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม [email protected] <mailto:[email protected]>)