
ชายฟื้นวง'เดอะชาดก'เครื่องไทยผสมดนตรีฝรั่ง
ชายฟื้นวง'เดอะชาดก'เครื่องไทยผสมดนตรีฝรั่ง
ศิลปินแห่งชาติ "ชาย เมืองสิงห์” ดึงเสน่ห์เพลงลูกทุ่งคืนวงการฟื้น "เดอะชาดก” วงดนตรียุคแรกของตัวเองที่ใช้เครื่องดนตรีไทยผสมกับเครื่องดนตรีสากล ตั้งเป้ารับงานโชว์
หลังจากที่ได้เปิดตัวโชว์ที่งานศิลปาชีพ ประทีปไทย โอท็อป ก้าวไกลด้วยพระบารมี ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในช่วงการแสดงที่ชื่อว่า มรดกของแผ่นดิน ที่ดูแลการแสดงโดย เจนภพ จบกระบวนวรรณ ศิลปินแห่งชาติ ชาย เมืองสิงห์ เจ้าของฉายา "แมนซี้ตี้ไล้อ้อน” ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว คม ชัด ลึก ถึงการทำวงดนตรีไทยผสมกับเครื่องดนตรีสากลครั้งนี้ว่า
“เราก็รักทางนี้อยู่ เพลงที่ผมทำมามันก็ไม่ใช่ไทยเดิมทั้งดุ้น ลูกๆ เขาก็อยากทำ ถ้าแฟนเพลงของชาย เมืองสิงห์อาจจะจำได้ผมเล่นในสมัยหนุ่มๆ ถ้านำกลับมาตอนนี้มันก็จะแปลกดี ปู ดอกกระโดน ก็ตีระนาดได้เข้าขากับพ่อดี ถ้าเรามีเวลาซ้อมกันมากๆ มันก็จะสนุกและเพราะมาก ไปเล่นไว้ 2-3 งานมาแล้วคนเขาก็ชอบกันเยอะเขาบอกว่าไม่ค่อยเห็นแล้ว"
ด้าน นฤพนธ์ พานทอง กล่าวเสริมถึงวง "เดอะชาดก” ที่เขานำกลับมาเล่นอีกครั้งว่า
“ผมอาจจะใช้ชื่อเดิมของวงคือ "เดอะชาดก” วงลักษณะแบบนี้จะประกอบด้วยเครื่องไทย 8 ชิ้น ระนาด 3 ราง ขลุ่ย เปิงมาง ตะโพน กลองแขก ผสมกับเครื่องดนตรีสากลทำเป็นวงใหญ่ๆ ประมาณ 20 คนเล่นก็จะยิ่งเพราะมาก วงแบบนี้พ่อชายเล่น ในช่วงที่ทำเพลง "เมียพี่มีชู้” เราไม่ได้เล่นยากเหมือนกับที่วง "ฟองน้ำ” นำมาเล่นอันนั้นเขาเอาเพลงแจ๊สมาเป็นพื้นการเล่นแต่ของเราใช้เพลงไทยมาเป็นพื้น”
ผู้สื่อข่าวถามว่าความยากง่ายของวง "เดอะชาดก” กับวง "ฟองน้ำ” ต่างกันหรือไม่ ทายาทศิลปินแห่งชาติอธิบายว่า
“วงฟองน้ำเขาใช้เพลงแจ๊สเป็นพื้นริทึ่มของวงสากลมาเล่นแล้วใช้เครื่องดนตรีไทยตีประกอบแต่เขาจะออกลวดลายเสียงต่างๆ ของระนาดได้ไม่หมด เพราะถูกบังคับด้วยเมโลดี้สากล แต่วง "เดอะชาดก” ของเราจะเก็บรายละเอียดความเป็นไทยแท้ๆ ระนาดของเรามีความพิสดารในการเล่น มันจะได้ลูกเก่าๆ มาโชว์ได้มากเลย คือเราเอาเครื่องไทยเป็นพื้นหลักแล้วเอาสากลตามหลัง”
เมื่อถามว่าทำไมคิดทำวงลักษณะนี้ นักเรียบเรียงเสียงประสานฝีมือดี ตี๋ นฤพนธ์ บอกว่า
“มันฝั่งใจ เพลงลูกทุ่งเดิมๆ มีอะไรให้เล่นเยอะดีกว่าเอาฝรั่งมาเล่นแล้ว นำระนาดมาตีตามมันปล่อยได้ไม่เต็มที่ ถ้าเราเล่นแบบของเราลูกแปลกๆ ได้เต็มที่เอามาเป็นตัวโชว์ได้เลย ของผมใช้วงของพี่ ปู ดอกกระโดน ซึ่งพี่เขาเป็นทายาทของ ครูทองใบ เรืองนนท์ ศิลปินแห่งชาติ ที่ตีระนาดต้นฉบับเพลง “ดาวลูกไก่” ของ หลวงอา พร ภิรมย์ ส่วนเพลง ”เทพธิดาผ้าซิ่น” ของ เสรี รุ่งสว่าง คือเพลงลูกทุ่งที่ต้องใช้เสียงระนาดพี่ปูเขาจะเป็นคนตีทั้งหมด”
ส่วนจะใช้วงนี้รับงานทั่วไปใช่หรือไม่ ทายาทหล่นใต้ต้นของชาย เมืองสิงห์ บอกว่า
“ผมยังไม่ได้ทำเป็นธุรกิจมาก อยู่ที่ทางเจ้าภาพว่า ต้องการวงแบบนี้หรือไม่ ผมไปแสดงล่าสุดที่เมืองทองธานีก็ได้รับการตอนรับจากคนดูเยอะมาก เขาไม่ได้เห็นวงแบบนี้มานานทุกคน แม้อายุจะมากแต่ฝีมือยังไม่ตกน่าจะรับงานกันได้อีก เล่นเพื่อคลายเครียดด้วย”
สำหรับวงชาดก นอกจากมีปู ดอกกระโดนและคณะดนตรีไทยแล้ว ยังมี ตุ้ย เชิงชาย บัวบังศร มือแอคคอเดี้ยน ลูกชายครูชาญชัย บัวบังศร ศิลปินแห่งชาติ สุรัตน์ สีใส มือกลองฝีมือดีลูกชาย สังข์ทอง สีใส และนักดนตรีเอกอีกหลายคนมารวมกัน และในงานที่เมืองทองธานีที่ผ่านมา วงชาดก ยังได้มีนักร้องรับเชิญ คือ ชายธง ทรงพล เจ้าของเสียงเพลง”หน้าไม่ทันสมัย” “ผู้หญิงหน้าเงิน” “ปูไข่ไก่หลง” มาร่วมร้องเพลง และที่สร้างความประทับใจให้แฟนๆคือ เรไร ณ โคราช นักร้องที่เคยสังกัดวงดนตรีกับชาย เมืองสิงห์ตั้งแต่เธออายุ 12 ขวบ ได้ขึ้นเวทีร้องเพลงซึ่งนานครั้งจะได้เห็นเธอกัน โดยเรไรเป็นเสียงต้นฉบับเพลง”ชะทิงนองนอย” และร้องเพลงแก้กับชาย เมืองสิงห์หลายเพลง รวมทั้งเป็นต้นฉบับเพลงร้องแก้ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เสกศักดิ์ ภู่กันทอง และสายัณห์ สัญญา ด้วย ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับคนดูปรบมือกันเกรียวกราว