
ทนาย เทพย์-สิทธานี กวีวณิพก
ทนาย เทพย์-สิทธานี กวีวณิพก:ศิลป์แห่งแผ่นดิน โดย... ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
ผมไม่เคยฟังเพลงขอทานจากต้นตำรับตัวจริง ที่ร้องเพลงขอทานในชีวิตจริง เคยแต่ได้ฟัง “ผู้สืบทอด” อย่างครูประทีป สุขโสภา หรือครูประทีป หนองปลาหมอ ที่ควงกรับขับร้องเพลงวณิพก ไปทั่วเมืองไทย แถมมีโอกาสไปสำแดงถึงเมืองนอกเมืองนา
นอกจากครูประทีป (น้องชายของ เทพศิริ สุขโสภา) แล้ว มีคนอื่นอีกกี่คนผมไม่ทราบ แต่ที่ทราบคือ ยังมีทนายนักเขียน ผู้พิสมัยศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน หันมาศึกษาร่ำเรียนจนสามารถสำแดงเดชได้อย่างมีอิทธิฤทธิ์พอตัว นอกจากฝีมือในด้านการเขียนเรื่องสั้นแล้ว ยังเล่นดนตรีไทยได้ โดยเฉพาะฆ้องวง ระนาดเอก ฝีมืออยู่ในขั้นไหนผมไม่สามารถประเมิน เอาเป็นว่า เมื่อได้ฟังแล้วรู้สึกเพลิดเพลินจำเริญโสตประสาทก็แล้วกัน
ครั้งล่าสุด ผมได้ฟังเขาบรรเลงระนาด เล่าและเล่นเพลงขอทานในงานค่ายวรรณกรรมสัญจรของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่มีอาจารย์ธัญญา สังขพันธานนท์ หรือไพฑูรย์ ธัญญา ผู้ก่อกองทราย เป็นผู้ก่อร่างสร้างฝัน
ย่าของเขาเป็นแม่เพลงฉ่อย แถมมี “วิชาประทับทรง ทำตาบอด” เขาเรียนรู้จากย่าตั้งแต่อายุ 3 ขวบ อยู่กับย่าที่บ้านคลองขวาง ต.แสลง อ.เมือง ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นบ้านป่า เติบโตมาในบรรยากาศของเพลงพื้นบ้าน
เคยสมัครเป็นศิษย์ครูแจ้ง เรียนเสภา เคยเล่นลำตัดกับคณะหวังเต๊ะ ขึ้นเวทีกับแม่ศรีนวล และกับศิษย์หวังเต๊ะบางรุ่น เคยเรียนกับครูประทีป ต่อเพลงขอทานแบบครูพักลักจำ ฝึกขยับกรับแบบดนตรีไทย ขับเสภาแบบลูกผสมพันทาง ไทยประสมมอญ ออกตระเวนตะลอนแสดงตามโรงเรียน หรือตามกลุ่มเป้าหมายที่สนใจศิลปะเพลงพื้นบ้าน สั่งสมประสบการณ์มานับสิบปี สองสามปีหลังนี้ เสมือนวณิพกพเนจรรอนแรมไปเผยแพร่หวังแค่ให้เด็กเยาวชน คนรุ่นหลังได้ฟังได้ดูได้ชมได้เรียนรู้ได้รื่นรมย์เพื่อต่อลมหายใจให้ศิลปะ
ก่อนหน้านี้ เขาเป็นมือเรื่องสั้นที่ผ่านสนาม “ช่อการะเกด”
เรื่อง “ครูสันต์” เป็นเรื่องชีวิตครูดนตรีสากล ที่หันมาสนใจดนตรีไทย เรื่องเด่นของเขาคือ “ทารกโตโต้” เรื่องสั้นที่เขาชอบที่สุดคือ “เรื่องประชาธิปไตยในกำมือ” ซึ่งเป็นเรื่องสั้นที่ถูก บก. “ตีกลับ” เขามีผลงานเรื่องสั้นจำนวน 30 เรื่อง เรื่องสุดท้ายที่ได้ลงตีพิมพ์ คือ เรื่อง “ครับป้า” ในสกุลไทย ปัจจุบันยังเขียนเรื่องสั้นสม่ำเสมอ แต่ห่างเหินจากสนามจริง
ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ที่สวนสมรม มียางพาราเป็นหลัก มีผลไม้หลายชนิดเช่น ลองกอง มังคุด ใช้เวลาบางจังหวะจะโคนออก “ขอทาน” โดยใช้ศิลปะเพลงพื้นบ้าน “วิชาตาบอด” เป็นสิ่งตอบแทน
“ทนายเทพย์-สิทธานี กวีวณิพกตกทอดวิชาตาบอด” คือสโลแกนของ “ศิลปินเดี่ยว” คือไม่มีลูกวงครับ ร้องเองเล่นเอง ชงเองกินเอง
ผมมีโอกาสได้พบและพูดคุยกับเขาเมื่อได้ไปเยือนจันทบุรี 22 กุมภาพันธ์ จึงนำมาเล่าต่อเผื่อใครได้พบเจอ “ทนายเทพ” ก็ขอจงให้กำลังใจเขาสักนิด เขาก็พอใจแล้ว
เขาเป็นศิษย์รุ่นแรกของครูชง่อน หงส์ทอง ซึ่งท่านเป็นศิษย์รุ่นท้ายๆ ของหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) นับว่าเขาเป็นศิษย์มีครู ไม่ใช่อยู่ๆ จะมีฤทธิ์มีเดชขึ้นมา ส่วนหนทางข้างหน้า มีแต่เขาเท่านั้นที่ต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง
...................
(หมายเหตุ ทนาย เทพย์-สิทธานี กวีวณิพก:ศิลป์แห่งแผ่นดิน โดย... ศักดิ์สิริ มีสมสืบ)