
'เจสัน ยัง'ชีวิตติดปีกเพราะธรรมะจัดสรร
'เจสัน ยัง' ชีวิตติดปีกเพราะธรรมะจัดสรร:สกู๊ปบันเทิง โดย... เรื่อง เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล ภาพ.. ศูนย์ภาพเนชั่น
ถ้าพูดถึงตัวละครที่ทำให้คนดูอินจัด เรียกบทบาทเกย์โรคจิตอย่าง "เจนจบ" ในละครเรื่อง "มุกเหลี่ยมเพชร" นักแสดงที่สวมบทบาทนั้น ได้อย่างแนบเนียนอย่าง เจสัน ยัง อดีตนักร้องวัยรุ่นที่ดังมากในอดีต ก่อนจะเรียนต่อทางด้านการแสดง และกลับมาเป็นนักแสดงเต็มตัว ล่าสุดเขากำลังจะมีข่าวดีกับสาวลูกครึ่งนอกวงการ "น้องดา" ดาริกา จาโกต้า ครูสอนนักเรียนอนุบาลโรงเรียนอินเตอร์เนชั่นแนลชื่อดัง ย่านสุขุมวิท วันนี้บันเทิง คม ชัด ลึก ขอคว้าตัวหนุ่มมากความสามารถ มาอัพเดท เรื่องราวชีวิตส่วนตัวและการแสดงที่เขารัก
บทบาทเพศที่สาม
000กระแสตอบรับของ "เจนจบ" ในละครเรื่อง "มุกเหลี่ยมเพชร ที่เพิ่งจบไป
กระแสตอบรับดีมาก ตัวละคร เจนจบ เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยม เพราะแฟนๆ ให้ความสนใจมาก ซึ่งครั้งแรกที่ถูกทาบทามจากอาตู่ (นพพล โกมารชุน) เรารู้สึกว่าเป็นบทบาทที่ยากมาก แต่ผมไม่ได้คาดหวังความสำเร็จ เพราะก่อนที่ผมจะรับเล่นละครเรื่องนี้ ช่วงนั้นผมกำลังจะบวช และได้รับการติดต่อจากอาตู่พอดี บอกว่ามีบทที่ดีมากอยากให้ผมเล่น เล่นได้มั้ย ผมบอกว่าโอเค
000ตอนนั้นรู้ไหมว่าต้องเล่นเป็น "เกย์"
คืออาตู่บอกว่าให้ผมเล่นเป็นเพื่อนพระเอก เป็นตัวบงการทุกอย่าง แต่ที่ทำทั้งหมดเพราะว่า "รักพระเอก" ผมก็เริ่มเอะใจ เลยถามอาตู่ว่า รักพระเอกแบบไหน อาตู่บอกผมว่า รักแบบชายรักชาย ผมรู้สึก ว้าว!! ตกใจมาก (หัวเราะ) แต่ใช้เวลาในการตัดสินใจไม่นาน ผมรับเล่นเลย เพราะคิดว่าต้องเป็นโอกาสทองของเราแน่นอน ถ้าเราทำได้ดีน่าจะประสบความสำเร็จ ตรงกันข้ามอาจจะเป็น "หลุมดำ" ถ้าเราเล่นแล้วไม่สามารถเข้าถึง และอนาคตทางการแสดงจะมีปัญหา แต่เรามองในแง่บวกว่า จะทำให้ที่สุดเพราะผมรักอาชีพนี้ คิดว่าต้องทำให้ดี และทำให้ได้ เมื่อโอกาสที่ดีมาถึง เราต้องคว้าไว้ก่อน
000กลัวไหมว่าคนจะติดภาพ
ไม่กลัวนะ ผมว่าคนดูแยกแยะออก เพราะกระแสตอบรับที่เกิดขึ้น คือคนดูชื่นชมในผลงาน โดยที่เขาไม่ได้รู้สึกสงสัยเราเลยว่า เราจะเป็นมั้ย ผมไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลย เพราะคิดว่าเราจะทำงานให้ดีที่สุด ให้คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะสิ่งสำคัญที่ทำให้ละครประสบความสำเร็จ อยู่ที่องค์ประกอบ 3 อย่าง คือ บทละคร นักแสดง และ ผู้กำกับ ซึ่งผมคิดว่าทั้ง 3 สิ่งนี้ ในละครเรื่อง "มุกเหลี่ยมเพชร" มีครบถ้วน ทุกคนตั้งใจทำงาน และมีฝีมือมากๆ
000มีเสียงชื่นชมว่าเล่นดีจนน่าจะได้รางวัล
การทำงาน ผมไม่ได้คาดหวังรางวัล ตรงนั้นเหมือนการรับประทานอาหาร รสชาติจะอร่อยหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งสำคัญ เมื่อเราทำงานเสร็จ เราอิ่ม เราพอแล้ว ส่วนผลที่จะตามมา เป็นสิ่งที่เสริมเข้ามาเท่านั้น แค่ผมทำงานแล้วคนดูมีความสุข ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ส่วนเรื่องรางวัลถ้าจะเกิดขึ้น ผมถือว่าเป็นอาหารที่ตามมามากกว่า
000ถือว่าละครเป็นผลงานที่ดีที่สุดไหม
ผมถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ ถามว่ากดดันในการทำงานชิ้นต่อไปหรือไม่ ผมว่าทุกอย่างไม่แน่นอน เรามีหน้าที่รักษามาตรฐานของตัวเองให้ดี ไม่ว่าจะรับบทอะไรก็ตาม ผมอยากจะให้คนดูหรือแฟนๆ เข้าใจ ในหน้าที่ของนักแสดงด้วย
000มีคนพูดถึงตัวละคร เจนจบ ในเรื่องของการแย่งซีน
ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลย (น้ำเสียงจริงจัง) ผมไม่รู้ว่า ที่คนพูดถึงในลักษณะนี้ มันดีหรือไม่ดี เวลาที่แสดงละครผมอินและรู้สึกกับบทบาทในการแสดง และคิดว่าถ้าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี เราสามารถจะสร้างสรรค์ผลงานภายใต้กรอบของเรา แต่ถ้าออกมาในลักษณะที่คนใดคนหนึ่ง คิดว่าฉันจะต้องแย่งซีน อันนี้เป็นอันตราย ผมเป็นห่วงน้องๆ นักแสดงรุ่นใหม่ ถ้าเขามีความคิดว่าจะต้องแย่งซีนและแข่งขันกัน วงการเราจะไม่พัฒนา เพราะเวลาที่เรากำลังแสดงไม่ได้เป็นไปตามความต้องการของตัวละคร แต่กำลังเป็นไปตามความต้องการของตัวเราเอง ผมเรียนการแสดงกับหม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) จะถูกสอนมาว่า เวลาที่เราเล่น อย่าไปสนใจว่าเล่นแล้วต้องได้รางวัล ให้อยู่กับตัวละคร พอมีเสียงพูดเรื่องของการแย่งซีนขึ้นมา ทำให้ผมรู้สึกว่าเราผิดพลาดอะไรหรือเปล่า
000คิดคาแร็กเตอร์เองไหม
อาตู่เป็น ผกก. ที่ให้โอกาสนักแสดง จะไม่บอกว่าต้องเล่นยังไง แต่จะบอกให้นักแสดง ได้แสดงศักยภาพออกมาก่อน แล้วจะมาตบให้มันเข้าที่ สวยงาม นักแสดงทุกคนถ้ามีอะไรสามารถปรึกษาอาตู่ได้ เพราะถ้าเรากล้าเล่นจะสนุกกับการทำงาน อาตู่จะให้อิสระ ที่สำคัญเราต้องวางใจซึ่งกันและกัน เป็นนักแสดงต้องไว้ใจผกก.
000มีเสียงบอกว่าการแสดงของ เจสัน คล้ายกับ "ตู่" นพพล
อาตู่เป็นนักแสดงที่มีคุณภาพมาก และผมถือว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์อาตู่คนหนึ่ง ทุกอาชีพต้องมีครูบาอาจารย์ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องผิดที่ลูกศิษย์อาจจะได้รับอิทธิพลมาบ้าง แต่เราคงไม่ได้มีเจตนาที่จะเล่นตามหรือเลียนแบบ ไม่ใช่ว่าอาตู่มาเล่นให้ผมดู แล้วผมเล่นตาม ไม่ใช่แบบนั้น เพราะอย่างที่บอกว่า อาตู่ให้อิสระนักแสดงในการคิด ผมรู้สึกว่าการทำงานเหมือนการทำอาหารจานหนึ่ง มีส่วนประกอบเยอะมาก นักแสดงก็เป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่ง เหมือนการทำราดหน้าหนึ่งจาน ผมอาจจะเป็นแค่ผัก แต่กว่าจะเป็นราดหน้าได้ต้องอาศัยส่วนประกอบอื่นๆ มาปรุง ผมคิดว่าหน้าที่ของนักแสดงคือ ทำตัวเองให้เหมือนเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศ สำหรับนำไปปรุงอาหาร เพราะเมื่อนำทุกอย่างที่ดีมาใส่รวมกัน อาหารจะออกมามีรสอร่อย
ธรรมะจัดสรร
000ได้ข่าวว่าเจสัน ชอบปฏิบัติธรรม
ผมมีโอกาสเรียนหลักสูตร "ครูสมาธิ" 6 เดือน เป็นเวลาเดียวกับที่ถ่ายละครไปด้วย และเรียนจบพร้อมกับละครถ่ายเสร็จ เหมือนการทำสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับตัวเอง ธรรมะจัดสรรให้ผมได้เรียนรู้ ยิ่งสมัยนี้เป็นยุคโลกาภิวัตน์ทุกอย่างรวดเร็วไปหมด เราต้องทำสมาธิ เพื่อทำให้เราใจเย็นขึ้น รู้จักให้อภัย ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ในทุกอาชีพ ยิ่งอาชีพนักแสดงเราต้องใช้อารมณ์ในการทำงาน และอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้น จะเป็นอารมณ์ในด้านลบ ถ้าเรามีสติและมีสมาธิ จะเหมือนการเอาน้ำดีไปไล่น้ำเสีย มีสมาธิโดยการที่เราตัดความกลัวและความกังวลออกไป พอสั่งคัตก็สามารถตัดทุกอย่างโดยที่ปล่อยวางคาแร็กเตอร์ตัวละคร เหมือนมีสวิตช์ปิดเปิดอัตโนมัติ คอยกลั่นกรองอารมณ์ มีสติซึ่งตรงนี้มีประโยชน์มากในการใช้ชีวิตปัจจุบัน
000ผลงานชิ้นต่อๆ ไป จะมีอะไรให้แฟนๆ ได้ติดตามบ้าง
ตอนนี้มีละครเรื่อง "แก้วกลางดง" ผมรับบทเป็น "หมวดอั๋น" เป็นหนุ่มเจ้าชู้อารมณ์ดี มีเสน่ห์ รู้สึกว่าเป็นการท้าทายความสามารถอีกอย่างหนึ่ง การทำงานสนุกดี เพราะทุกครั้งที่ทำงาน เราจะมีการพัฒนาที่แตกต่างกันออกไป และแฟนๆ จะได้เห็นพัฒนาการของเรา ส่วนงานหนัง ยังไม่มีติดต่อเข้ามา แต่ผมชอบอยู่แล้ว ถ้ามีคนติดต่อเข้ามาก็ยินดีรับเล่น
000มีเกณฑ์ในการรับงานอย่างไร
ถ้าติดต่อมาผมรับหมด (หัวเราะ) ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่นักแสดงที่ฮอตขนาดนั้น คงไม่ได้เลือกงานเยอะมากมาย เมื่อผู้ใหญ่เอ็นดูและคิดถึงผม เขาคงพิจารณาแล้วว่าคงเหมาะสมกับเรา แค่ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
อนาคตในวงการ
000วางอนาคตในวงการบันเทิงเอาไว้อย่างไรบ้าง
ผมรักการแสดง เราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อจะได้มีงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องการทำธุรกิจ ตอนนี้พยายามมองและดูไว้เพื่อความมั่นคงต่อไป มีหลายอย่างที่อยากทำ แต่จริงๆ อาชีพนักแสดงผมคิดว่าสามารถทำให้มั่นคงได้ แต่คนส่วนใหญ่จะมองว่าไม่มั่นคง ผมคิดว่าถ้าเราทุ่มเทกับตรงนี้ แต่มันยังไม่มั่นคง สรุปมันคืออะไร ผมไม่รู้ชะตาชีวิตของตัวเองว่าจะเป็นอย่างไร แต่จะพยายามรักษาคุณภาพและสร้างมาตรฐานให้ดี เพราะผมอยากอยู่ในวงการให้ยาวนานที่สุด ไม่ใช่มาแค่ฉาบฉวย เพราะการทำงานในวงการนี้ เราไม่ได้เป็นผู้เลือก แต่เราเป็นผู้ถูกเลือก สิ่งที่ทำได้คือทำงานให้ดีที่สุด มีวินัย นิสัยดี ตรงนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้
000คิดจะผันตัวเองไปอยู่เบื้องหลังเหมือนนักแสดงคนอื่นๆ หรือไม่
ต้องค่อยๆ ชิมลางไป ที่ผ่านมาผมเคย กำกับหนังดังสุดสัปดาห์เรื่อง "เณรแก้วจอมแก่น" แต่ยังไง ก็รักการแสดงมากกว่า เพราะการเป็นผู้กำกับ กับนักแสดงมันต่างกันมาก เพราะหน้าที่ของผกก. ทุกอณูของเรื่องราว จะต้องเป็นผู้ควบคุมและกำหนดทิศทาง ตามความต้องการที่อยากนำเสนอ ในหัวต้องมีทุกอย่าง ได้โอกาสลองทำก็รู้สึกดี รู้สึกเข้าใจในการทำงาน แต่ผมยังชอบการแสดงมากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่เราทำได้ดีและมีความสุข
หัวใจสีชมพูของว่าที่เจ้าบ่าว
000ความรักกับ "น้องดา" ดาริกา
ผมคบกับน้องดามา 2 ปีกว่า อายุห่างกันประมาณ 6 ปี ถามว่าอะไรที่ทำให้ผมมั่นใจ ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเขา ความจริงเรามั่นใจมานานแล้ว เพียงแต่รอจังหวะที่ลงตัว ซึ่งเราได้ฤกษ์มาพอดี และที่สำคัญน้องเขาเป็นคนดีมาก ตอนที่คุณแม่ผมยังมีชีวิอยู่ ตอนนั้นท่านรักมาก ได้พบปะพูดคุยกัน คุณแม่เอ็นดูน้องดามาก ตั้งแต่ตอนที่ท่านยังแข็งแรง จนกระทั่งช่วงที่คุณแม่ป่วยหนักๆ เป็นหลายโรค ทั้งเบาหวาน โรคไต และอัมพฤกษ์ ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง น้องดามีโอกาสได้เข้ามาดูแลท่านในช่วงสุดท้าย ก่อนที่จะเสียชีวิต อีกอย่างหนึ่ง คือเขาเป็นคนสนับสนุนให้ผมเข้าสู่ทางธรรม ไปปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เพราะครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่ดี ผมคิดว่าที่ผมได้มาเจอเขาเพราะธรรมะจัดสรรทุกอย่าง ผมโชคดีที่เขารักผม และครอบครัวเขาต้อนรับและเอ็นดูผม
000ทำงานในวงการน้องดาเข้าใจไหม
เขาเข้าใจตั้งแต่แรก ไม่มีปัญหาอะไร เขาเข้าใจชีวิตของผมที่อยู่ในวงการบันเทิง และผมว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป แฟนๆ ละครก็ไม่ได้มองตรงจุดนี้แล้ว เขาสนับสนุนด้วยซ้ำ ถ้าคุณมีความรักที่ดี เขาก็สนับสนุน ไม่ได้มองว่าแต่งงานแล้วเรตติ้งตก ผมถึงบอกว่าทัศนคติ และมุมมอง แฟนๆ เปลี่ยนไป จนบางอย่างเกือบจะเท่าทันโลกตะวันตก ที่ไม่ได้เอาชีวิตส่วนตัวมาเป็นอิทธิพล เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่อยากจะทำ ใครทำดีคงไม่มีใครกีดกัน และผมไม่ได้ทำตัวไปเบียดเบียนใคร แต่ถ้าเราทำตัวแย่ ตรงนี้ต่างหากที่ทำให้ ไม่มีใครยอมรับ
000จะหมั้นก่อนบวช
ผมจะหมั้นกับน้องดา ในวันที่ วันที่ 25 มีนาคม รายละเอียดอยากอุบไว้ก่อน เอาไว้พูดทีเดียวดีกว่า จากนั้นจะบวชในวันที่ 1 เมษายน ที่วัดธรรมมงคล เป็นเวลา 1 เดือน และจะย้ายไปปฏิบัติธรรมที่ จ.เชียงใหม่ วัดป่าห้วยส้มสุก และจะแต่งงานช่วงปลายปี ตอนนี้ได้ฤกษ์แล้ว แล้วจะบอกทีเดียว
...................
(หมายเหตุ 'เจสัน ยัง' ชีวิตติดปีกเพราะธรรมะจัดสรร:สกู๊ปบันเทิงวันเสาร์ โดย... เรื่อง เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล ภาพ.. ศูนย์ภาพเนชั่น)