
รักต่างวัยแต่ใจเดียวกัน
เขยฝรั่ง สะใภ้อินเตอร์ : รักต่างวัยแต่ใจเดียวกัน โดย...เสาวลักษ์ คงภัคพูน // สุรศักดิ์ เครือคำ
แม้ชีวิตคนเราเลือกออกแบบไม่ได้ แต่ทุกคนก็อยากพบความสุข ความงดงามในชีวิต ทำให้ต่างต้องดิ้นรนต่อสู้ให้ก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคมายืนบนเส้นทางที่มีความอบอุ่น มั่นคง โลกใบนี้ให้โอกาสกับคนที่สู้เสมอ เหมือนดังกับชีวิตของ "สุนิสา จันทร์บุญ" หรือ "นา" อยู่บ้านเลขที่ 235 หมู่ 8 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู แม้ว่าเธอเพิ่งจะมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น แต่โลกใบนี้ก็ได้หยิบยื่นบทเรียนให้แก่เธอ ให้ได้รู้จักตัวตนและสังคมมนุษย์ในการที่จะปรับตัวและต่อสู้ชีวิตต่อไปในวันข้างหน้าเป็นอย่างดี
หญิงสาววัยแรกเริ่มย้อนเล่าเรื่องราวชีวิตบทเรียนแรกบนโลกกว้างให้ฟังว่า ขณะที่เธอกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กามเทพได้แผลงศรรักปักใจ ปฏิญาณแห่งรักแรกที่เกิดขึ้น ทำให้เธอก้าวหนีจากรั้วสถานศึกษาทั้งที่ใกล้จะสำเร็จการศึกษาภาคบังคับแล้ว เธอตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตคู่กับแฟนหนุ่ม ที่ทำหน้าที่อาสารักษาดินแดน อยู่ จ.หนองคาย จนมีพยานรักสองคน คือน้องแพร ปัจจุบันอายุ 3 ขวบ และน้องฟ้า อายุ 4 ขวบ
แต่แล้วสิ่งที่เธอไม่คาดคิด ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แฟนได้ขี่รถจักรยานยนต์เดินทางไปเข้าเวรตามปกติเหมือนทุกวันได้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำให้ชีวิตเธอที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะฝากผีฝากไข้กันไปจนแก่เฒ่านั้น กลับมืดมิดลงทันที
ผู้หญิงตัวเล็กๆ กับลูกเล็กๆ อีกสองคน แทบจะหาหนทางก้าวเดินไม่ได้ สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจกลับบ้าน นำลูกน้อยเข้าสู่ไออุ่นของพ่อแม่ เหมือนกับครั้งวัยเด็กอีกครั้งหนึ่ง
ชีวิตที่บ้านแม้จะได้รับการช่วยเหลือจากพ่อแม่ แต่ด้วยภาระต่างๆ ที่วันนี้ไม่ใช่เด็กน้อยเหมือนก่อน ที่จะให้พ่อแม่อุ้มชูในทุกเรื่อง อีกทั้งยังมีลูกอีกสองชีวิตที่จะต้องมีอนาคต ต้องกินต้องใช้อยู่ทุกวัน ลำพังเธอคนเดียวนับว่าเป็นความลำบากไม่ใช่น้อย ทางเลือกของชีวิตหลายเส้นทางเกิดขึ้นในความคิด ว่าเลือกที่จะเดินอย่างไร สุดท้ายจึงตัดสินใจที่จะหาใครสักคนมาเป็นเพื่อนคิด ช่วยดูแลลูกๆ ทั้งที่ในใจคราบน้ำตาและความซึมเศร้ายังไม่ได้จางหายจากการสูญเสียคู่ชีวิตไป
แต่ด้วยเหตุผลและความจำเป็นจึงทำให้เธอต้องเลือกทางเดินชีวิตคู่อีกครั้งหนึ่งทั้งที่ยังไม่อยากเดิน สุดท้ายจึงตัดสินใจจะหาคู่ชาวต่างชาติ แต่ก็ติดตรงที่ภาษาแห่งการสื่อสารยังเป็นปัญหาสำหรับตัวเธอ จึงขอให้เพื่อนช่วยติดต่อให้ การติดต่อสื่อสารเพื่อหาใครสักคนมาเป็นเพื่อนเดินบนถนนชีวิต คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะด่วนตัดสินใจ กาลเวลายังเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จะพิสูจน์ใครคนนั้น
ผ่านไปประมาณ 5 เดือน "นา" ได้พบกับหนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษ ที่ชื่อว่า "เคน โค้ท" วัย 56 ปี ซึ่งเขาเองก็ปรารถนาที่จะมีหญิงไทยเป็นคู่ชีวิตเช่นกัน
"เคน" บอกความรู้สึกรักแรกพบว่า พอเห็นภาพถ่ายน้องนาก็รู้สึกถูกใจ สะดุดที่รอยยิ้มอันอ่อนหวานและใสซื่อ เมื่อได้พูดคุยกันแล้วยิ่งเกิดภาพประทับใจยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีเพื่อนคอยเป็นล่ามแปลภาษา สื่อสารให้แล้วก็ยิ่งหลงใหล การติดต่อพูดคุยกันผ่านทางออนไลน์ได้ประมาณ 1 เดือน เขาก็ตัดสินใจเดินทางมาหาที่เมืองไทย มาพบพ่อแม่ของน้องนา เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงานตามประเพณีของไทยเรา
พิธีแต่งงานระหว่างคู่รักต่างวัย ต่างชาติต่างภาษาก็เกิดขึ้น ในวันที่ 9 สิงหาคม 2553 โดยมีค่าสินสอดทองหมั้นตามแบบธรรมเนียมประเพณีไทย
"เคน" เล่าว่า หลังการแต่งงาน เขาก็ได้มาใช้ชีวิตกับน้องนาที่เมืองไทยทันที เพราะชีวิตเขาเองตอนนี้ได้เกษียณออกจากงานที่เคยทำแล้ว เมื่อก่อนหน้านี้เขามีธุรกิจเกี่ยวกับการให้เช่ารถแท็กซี่ซึ่งเป็นธุรกิจทำร่วมกับครอบครัว ตอนนี้ก็เป็นญาติๆ ที่อยู่ประเทศอังกฤษเป็นผู้สานต่อธุรกิจ ส่วนตัวเองนั้นไม่ชอบเมืองใหญ่ๆ ที่มีคนพลุกพล่าน เมื่อแต่งงานแล้วจึงเลือกที่จะมาอยู่เมืองไทยกับภรรยา นาน ๆ ถึงจะกลับไปอังกฤษสักครั้ง
น้องนาเล่าว่า สามีใจดีมาก เมื่อแต่งงานแล้วก็ได้สร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่หนึ่งหลัง ตอนนี้ทั้งสองยังอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับพ่อแม่ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้กำลังจะสร้างบ้านของตัวเองอีกหลัง ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในครอบครัว รวมทั้งค่าเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองของเธอ เขาก็จะเป็นผู้จัดการดูแลเป็นธุระให้หมด เขาเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนทั่วไป มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ ชอบแบ่งปัน พูดคุยสนุกสนาน และรักเด็กๆ มาก
ในแต่ละวันจะมีลูกมีหลานมาเล่นสนุกสนานกับเขาทุกวัน ตัวเขาเองก็มีความสุขเมื่อได้อยู่กับเด็กๆ และใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับครอบครัว นานๆ ถึงจะออกไปสังสรรค์เฮฮากับเพื่อนชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่กับภรรยาคนไทยในตัวเมืองเป็นบางครั้ง
น้องนาบอกว่า การแต่งงานครั้งนี้ตัวเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ขอแค่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ได้ดูแลซึ่งกันและกันก็พอแล้ว เพราะนอกจากเขาจะดูแลเราแล้ว ยังช่วยดูแลพ่อแม่ของเราด้วย เราเองก็จะดูแลเขาเรื่องความเป็นอยู่ ทำอาหารการกินให้ โชคดีที่เขาเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย เลยไม่มีปัญหาให้ต้องกังวลเรื่องนี้
ขณะที่ "เคน" เองก็พูดชมภรรยาสาวว่า น้องนาเป็นคนทำกับข้าวเก่ง ดูแลเอาใจก็เก่ง เขารักที่น้องนาเป็นแม่บ้านแม่เรือน ทำให้น้องนาเองอดยิ้มไม่ได้กับคำชมของสามี
แต่อย่างไรก็ตามชีวิตคู่เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันไม่รู้จบ น้องนายังบอกอีกว่า ด้วยวัยที่แตกต่างกันมาก ทั้งยังต่างชาติต่างภาษาและวัฒนธรรม และการใช้ชีวิตคู่ของเราไม่ได้เกิดจากความคุ้นเคยสนิทสนมแต่แรก เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วจึงต้องพยายามเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหากัน พยายามเข้าใจความต้องการของกันและกันให้มาก จะได้มีความเห็นขัดแย้งกันน้อยที่สุด และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขให้มากที่สุด
เมื่อถึงวันนี้ตัวเองก็คิดว่า ครอบครัวมีความสุขแล้วที่มีคนมาช่วยดูแลชีวิต ณ วันนี้ความรู้สึกหนึ่ง เมื่อเธอก้าวหนีรั้วการศึกษาออกมา ก็ยังทำให้เธอหวนหาอยากไปต่อยอดความรู้อีกครั้งหนึ่ง รอเพียงว่า เมื่อลูกๆ โตกว่านี้อีกหน่อย ตัวเองก็อยากจะไปเรียนรู้ศึกษาเพิ่มเติม จะได้มีวุฒิการศึกษา เพื่อจะได้มีความรู้ด้านภาษาและคอมพิวเตอร์ จะได้สื่อสารกันรู้เรื่องมากขึ้น
และนี่คือความฝันของเธอที่จะก้าวเดินไปในวันข้างหน้า
.................................
(เขยฝรั่ง สะใภ้อินเตอร์ : รักต่างวัยแต่ใจเดียวกัน โดย...เสาวลักษ์ คงภัคพูน // สุรศักดิ์ เครือคำ)