
เอ๋ พจนา สุดเศร้า อ.กิ่ง กรกฎ ลาโลก
...นึกถึงวัน ฉุดเธอขึ้นมาจากดินไม่มีราคา พอทาบฟ้าแล้วนี่ ลอยเด่นสกาว พราวแสงยามราตรี
จะพูดขอบคุณไม่มี จะหาสิ่งใดแน่นอน
ไม่ขออะไรมากไปกว่านั้น ขอช่อไม้จันทน์ ยามฉันนอนกองฟอน
แม้สิ้นลม สมหวังดั่งใจแน่นอน
สิ่งเดียวแค่นี้ที่วอน ขอเป็นรางวัลตอบแทน”
เพลง "ฝากดินด้วยฟ้า" ที่ เอ๋ พจนา เคยร้องเป็นเพลงเปิดตัวสมัยทำวงดนตรี แต่งโดยกิ่ง กรกฎ นักจัดรายการวิทยุที่ปั้นเขาขึ้นมาเป็นนักร้องลูกทุ่งอีสานยอดนิยม ซึ่งเชื่อว่า ผู้แต่งเพลงนี้ ตั้งใจซ่อนบางสิ่งไว้ในบทเพลงปริศนาเพลงนี้
กิ่ง กรกฎ เคยฝากผลงานด้านการแต่งเพลงไว้อีกพอสมควร อาทิ เพลง "นํ้าตาอีสาน" (สายัณห์ สัญญา) "รักขมที่สันทราย" (ยอดรัก สลักใจ) ซึ่งขณะนี้ กิ่ง กรกฎ ได้กลายเป็นตำนานไปอีกคน เพราะสิ้นลมอย่างสงบด้วยวัยเพียง 54 ปี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ปวีณา ลานุสัจ วัย 27 ปี บุตรสาวให้สัมภาษณ์ถึงการเสียชีวิตของพ่อแก่ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" ว่า
"พ่อเข้าโรงพยาบาลเมื่อคืนวันที่ 4 พฤษภาคม ตอนสี่ทุ่ม เพราะมีอาการหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก หนูเลยพาพ่อไปโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น พ่อก็ยังคุยดีอยู่ แล้วพ่อก็หลับไป พอไปถึงโรงพยาบาลหมอก็ใช้เครื่องช่วยหายใจ หัวใจพ่อหยุดเต้น หมอเลยปั๊มขึ้นมา แต่แกก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ อีก หนูเลยย้ายพ่อมาที่โรงพยาบาลวชิระ หมอเขาเอกซเรย์สมองแล้วเจอก้อนเนื้อใหญ่ หมอเลยบอกว่าทำให้เกิดภาวะสมองตาย ก่อนที่ความดันของพ่อจะตกลงเรื่อยๆ พอวันที่ 7 พฤษภาคม ตอน 4 ทุ่ม 15 นาที พอก็จากไป พ่อมีโรคหลายโรค ความดัน หัวใจ เบาหวาน"
ด้าน เอ๋ พจนา ลูกทุ่งหมอลำ กล่าวด้วยเสียเศร้าสร้อยต่อการจากไปของครูเพลงที่เป็นผู้ชักนำเขาเข้าสู่อาชีพนักร้องว่า
"ผมเครียดเลย พอลูกสาวอาจารย์โทรมาบอกว่าแกป่วย ผมติดต่อกับอาจารย์กิ่งอยู่ตลอด 1 อาทิตย์ก่อนที่แกจะเข้าโรงพยาบาล ผมเพิ่งกลับมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผมซื้อเครื่องเล่นเอ็มดีมาฝาก เพราะแกเพิ่งเปิดวิทยุชุมชน กะว่าจะให้แกเอาไปใช้ ก็คุยกันว่า ผมจะทำเพลงชุดใหม่ขอเพลงอาจารย์สัก 1-2 เพลงนะครับ แกยังรับปากเลยว่าได้เลยเดี๋ยวจะแต่งให้ บอกให้แกดูแลเรื่องสุขภาพด้วยเพราะอายุมากแล้ว”
สำหรับประวัติย่อๆ กิ่ง กรกฎ มีชื่อจริงว่า ปฐมทรรศน์ ลานุสัจ เป็นชาว จ.ยโสธร เข้ามาฝากตัวเป็นศิษย์ "ทิดโส สุดสะแน" หรือ สุรินทร์ ภาคศิริ ที่สถานีวิทยุ ร.ด. ครูสุรินทร์ จึงพาไปอยู่กับวัฒนะ อารี หรือ ขุนทวน นักจัดรายการวิทยุและมีห้องบันทึกเสียงอยู่แถวย่านมักกะสัน และ ชวนชัย ฉิมพะวงศ์ เป็นผู้ตั้งชื่อ ให้ว่า "กิ่ง กรกฎ" ซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเสียง
จนกระทั่งมีความชำนาญ จึงย้ายไปอยู่กับ โอภาส บุนนาค, ปรีชา ประภาชื่น, อำนวย อัมวงศ์ ซึ่งทำห้องบันทึกเสียงอยู่แถวย่านบางลำพู และผลิตจำหน่ายแผ่นเสียงในนามตรา "สามโฆษก" ช่วงนั้นทั้งสามคนกำลังทำเพลงให้แก่สายัณห์ สัญญา กิ่ง กรกฎ จึงได้แต่งเพลง "นํ้าตาอีสาน" แต่ภาษายังไม่ดีนัก อาจารย์ ชลธี ธารทอง จึงนำไปเกลาเนื้อให้
จนกระทั่งได้แต่งเพลงอีกครั้งเมื่อได้มาอยู่กับ เริง รัตนะ ที่ห้องบันทึกเสียงย่านประตูนํ้า ทำให้ได้รู้จักกับห้างแผ่นเสียง "โฟร์คิงส์" ที่เพิ่งเปิดขึ้นใหม่และกำลังจะทำเพลงให้แก่ยอดรัก สลักใจ กิ่งจึงได้แสดงฝีมือแต่งเพลง "รักขมที่สันทราย" ให้ยอดรักร้องเพลงนี้ ทำให้ชื่อเสียงของกิ่ง เป็นที่รู้จักในฐานะคนเขียนเพลงมากยิ่งขึ้น
จากนั้น กิ่งได้รับการชี้แนะจากครูสุรินทร์ ภาคศิริ ให้มาเป็นนักจัดรายการวิทยุ ด้วยความที่ครูเห็นว่าการแต่งเพลงไม่แน่นอน เท่ากับอาชีพนักจัดรายการวิทยุ กิ่งจึงได้ไปช่วยงานที่ "ชมรมโฆษกวิทยุอีสาน" ที่ครูสุรินทร์เป็นประธานอยู่ และได้จัดรายการครั้งแรกที่ สถานีวิทยุยานเกราะ เอเอ็ม 1305 วันละครึ่งชั่วโมง โดยใช้ชื่อในการจัดรายการอีกชื่อหนึ่งว่า "เซียง คะนิง" ซึ่งจะใช้ชื่อนี้ตอนจัดรายการเพลงหมอลำ หลังจากนั้นได้สร้างนักร้องคนแรกคือ เอ๋ พจนา โดยแต่งเพลง "เราหรือคือทางผ่าน" ให้จนโด่งดัง
“อ.กิ่ง เป็นคนให้โอกาสผมได้มาเป็นนักร้อง ตอนนั้นแกจัดรายการวิทยุอยู่ที่สถานีวิทยุยานเกราะ บางกระบือ ผมฟังรายการแกอยู่ เลยโทรหาแกว่า ผมอยากเป็นนักร้อง แล้วเอาเสียงร้องที่ผมบันทึกไว้มาให้แกฟัง ก็อยู่กับอาจารย์กิ่งมาประมาณ 4-5 ปีถึงได้อัดเพลงชุดแรกเป็นแนวหมอลำชื่อชุด " สงครามรัก" ตอนนั้นผมยังใช้ชื่อ "อัมพร พจนา" อยู่ พอชุดต่อมาแกไม่มีทุนจะทำเลยฝากผมมาอยู่กับพ่อคำเกิ่ง ทองจันทร์" เอ๋ พจนา ย้อนเล่าถึงอาจารย์ที่สร้างชีวิตใหม่ให้
ก่อนเสียชีวิต ได้ลงทุนทำสถานีวิทยุชุมชน ที่ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร และมีความเครียดเกี่ยวกับการทำงานสถานีวิทยุที่ตนเองทุ่มเททั้งกายและใจ
สำหรับการสวดพระอภิธรรม กิ่ง กรกฎ เบื้องต้นทางญาติจะทำการสวดพระอภิธรรม 3 วัน ในวันที่ 9-11 พฤษภาคมนี้ ที่วัดบางพูดนอก อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี