บันเทิง

นวทิศา

นวทิศา

14 ก.พ. 2555

นวทิศา:มองผ่านเลนส์คม โดย... จำลอง ฝั่งชลจิตร

          ตอนซื้อเข้าใจว่าเป็นนิยายเยอรมัน แปลโดย แก้ว พิกุล ชื่อนี้ชื่นชอบอยู่แล้ว
 
          พอเปิดดูหน้าเครดิต ผิดหวังเล็กน้อย ไม่ใช่นิยายอย่างเข้าใจ โทษตัวเองว่าไม่รอบคอบ จ่ายเงิน 250 บาท ควรพิถีพิถันเสียหน่อย
 
          ผมพบว่าเป็นหนังสือกึ่งๆ อัตชีวประวัติของ แฮร์มันน์ ริคเกอร์ ซึ่งเป็นใครก็ไม่ทราบ “ไม่มีคำว่าบังเอิญในพุทธศาสนา” ผู้แปลเขียนคำนำ สะดุดใจทันที
 
          วิศวกรหนุ่มวัย 23 ปีจากเมืองเอสเสน จากบ้านมาทำงานในโรงงานผลิตชิ้นส่วนกล้องถ่ายรูปที่สิงคโปร์ช่วงต้นทศวรรษ 2510 เขาเริ่มสัมผัสวิถีชีวิตของชาวตะวันออก จากคนงานใต้บังคับบัญชาและการออกไปกราบไหว้รูปเคารพอย่างเจ้าแม่กวนอิม การอ่านและฝึกนั่งสมาธิในที่พักอันสงบร่มรื่น มีปลาคาร์พเป็นเพื่อน หลังภรรยาผู้มีอาชีพเลขานุการทนใช้ชีวิตในดินแดนที่เงียบเหงาไม่ไหว
 
          เขาลาออกจากบริษัทเดิม ก่อตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้า ตัวต่อ รูบิค เขาเดินทางมาเมืองไทยและมีเพื่อนที่เป็นชาวจีน เพื่อนชักนำไปกราบไหว้พระภิกษุรูปหนึ่ง ภิกษุชราทำนายว่าในอนาคตเขาจะบวชเป็นผู้เผยแผ่ธรรมะ ถึงไม่อยากเชื่อ แต่ก็จดจำคำทำนายเอาไว้
 
          กลุ่มบริษัท แฮร์มันน์ แมนนูแฟคเชอริ่ง ในสิงคโปร์ เติบโตอย่างรวดเร็ว เขาไปตั้งโรงงานในอินโดนีเซียและละตินอเมริกา เขากลายเป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์สมบัติมากมาย
 
          จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเพียงเพราะเขาไม่ยอมเดินทางโดยเครื่องบิน แต่กลับขับรถจากัวร์ XJ6 คันหรูไปประชุมที่ปีนังด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำแหลกยับเยิน ตัวเขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ด้วยอุบัติเหตุขนาดนี้เขาควรจะตายไปแล้ว 
 
          เขาไม่มีสมาธิทำงานอีกต่อไป เขาลาหยุดงานเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ชีวิตไม่มีอะไรเลย สิ่งที่เขามีอยู่ก็ไม่ใช่หนทางนำพาไปพบความสุขที่แท้จริง เขาตัดสินใจละทิ้งทรัพย์สมบัติ โดยยกบริษัทให้เพื่อน 2 คน ที่ร่วมงานมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง และบริจาคทรัพย์สินก้อนใหญ่ให้วัดเจ้าแม่กวนอิมในสิงคโปร์ นำปลาคาร์พไปปล่อยในที่ปลอดภัย แล้วเดินทางมาหาเพื่อนในประเทศไทย เพื่อนซึ่งอาสาเป็นเจ้าภาพอุปสมบทให้เขา
 
          ผมอ่านเรื่องของแฮร์มันน์อย่างจดจ่อ วางไม่ลง ชีวิตจริงกับนิยายแตกต่างกันนิดเดียวเท่านั้น  นิยายดัดแปลงแต่งเติมจากชีวิตจริง ส่วนชีวิตจริงมีบางสิ่งบางอย่างลิขิต
 
          แฮร์มันน์ทบทวนถึงคำทำนายของพระภิกษุรูปนั้น เขาพบเพื่อน ได้ไปกราบไหว้พระในวัดพระแก้ว ไปไหว้พระที่วัดอรุณฯ ที่นั่นเขาได้พบพระภิกษุรูปหนึ่งเอ่ยชื่อเกาะดอนสวรรค์ในหนองหาร จ.สกลนคร  ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ เขารู้ว่าใช่...ที่นี่แหละ
 
          เขานั่งรถทัวร์ไปสกลนคร ไปจนถึงเกาะดอนสวรรค์ที่ร่ำลือกันว่าใครก็อยู่ไม่ได้ เขายืนยันกับตัวเองว่าที่นี่ใช่แน่ เขาเข้ากราบหลวงพ่อคง เจ้าอาวาสที่วัดประจำจังหวัด เพื่อขออุปสมบท หลวงพ่อยินดีและเป็นอุปัชฌาย์ให้ เขาแจ้งข่าวกับเพื่อนที่กรุงเทพฯ ให้นำผ้าไตรกับของใช้ต่างๆ มาที่สกลนครทันที
 
          อุปสมบทแล้วไปอยู่เกาะที่ไม่มีผู้คน 2 ปี เรียนรู้จากธรรมชาติ ปฏิบัติภาวนา มีชาวบ้านถ่อเรือไปรับมาบิณฑบาตในตัวเมือง ชาวบ้านมาใส่บาตรจนต้องแบ่งปันให้คนขี่สามล้อที่มาช่วยรับข้าวของ ชาวบ้านและคนถ่อเรือ  
 
          บนเกาะพระฝรั่งเรียนรู้และอยู่กับตัวเอง ไม่เคยอยู่ร่วมกับพระรูปอื่นๆ จึงตัดสินใจออกมาจำพรรษาในวัดป่า เรียนรู้จากพระและคำสอนของพระพุทธเจ้า วันหนึ่งมีสุภาพสตรีอาวุโสผู้หนึ่งมากราบไหว้  ท่านผู้นั้นปวารณาว่าจะมอบที่ดินผืนหนึ่งให้ทำประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ขอให้ไปดู ถ้าชอบก็จะยกให้
 
          พระฝรั่งพบว่าที่นั่นภูมิทัศน์ร่มรื่น สงบสวยงาม จึงตัดสินใจอยู่ปฏิบัติธรรม ค่อยๆ เก็บก้อนหิน เศษไม้ ปลูกต้นไม้ ตั้งชื่อว่า นวทิศา ปัจจุบันเป็นสำนักปฏิบัติธรรมสำหรับชาวยุโรปที่สกลนคร มีเรื่องราวน่าสนใจให้ท่านอ่านเองอีกมาก
 
          สำนักพิมพ์ พลอยแกมเพชร
...................
(หมายเหตุ นวทิศา:มองผ่านเลนส์คม โดย... จำลอง ฝั่งชลจิตร)