บันเทิง

'พิจิกา'

'พิจิกา'

09 ก.พ. 2555

'พิจิกา':กวนเพลงให้น้ำใส โดย... อนันต์ ลือประดิษฐ์

          ด้วยสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไปในวงการเพลงวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ค่ายเพลงยุคนี้จะปล่อยผลงานเป็นอัลบั้มเต็มออกมา หลายครั้งหลายครา เราจึงได้เห็นแค่ซิงเกิ้ลหรืองานรวมศิลปินที่หยิบเอาเพลงนั้นเพลงนี้ มา “ถม” ให้เต็มอัลบั้มเสียมากกว่า
 
          แม้วิธีการนี้จะลดความเสี่ยง และตอบสนองคนฟังหมู่มากก็จริง แต่ไม่ได้ตอบสนองคนฟังเพลงคุณภาพ ที่สนใจเนื้องานในแบบภาพรวมเท่าใดนัก
 
          แต่สำหรับ ลูกหว้า พิจิกา จิตตะปุตตะ ต้องถือเป็นกรณีพิเศษ
 
          อัลบั้ม Pijika ของเธอ ภายใต้สังกัด “สนามหลวง” สะท้อนถึงแนวคิดที่เตรียมการมาพอสมควร ผ่านการทำการบ้านมาอย่างดี และเชื่อว่าน่าจะได้เสียงตอบรับในทางบวกจากมิตรรักแฟนเพลงที่ต้องการสัมผัส “ตัวตน” ของศิลปิน มากกว่าแค่การฟังเพลงแบบผ่านๆ
 
          นี่คืออัลบั้มแรกของนักร้องสาวที่โดยความจริงแล้ว เธอก้าวย่างอยู่ในวงการเพลงมานานพอสมควร
 
          หากไม่นับ “ซียูแบนด์” ที่เธอร่วมงานสมัยเป็นนิสิตจุฬาฯ ไหนจะเป็น “ดูบาดู” เมื่อปี 2548 จนมาถึง “บอสซา บลอสซัม” นอกจากนี้ยังมีงานร้องคอรัสให้แก่ศิลปินต่างๆ งานละครเวที งานร้องเพลงประกอบละคร และงานจัดรายการวิทยุทางคลื่น 98.5 ซึ่งตอนนี้ ส่งคลื่นคืนกลับ กสทช. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
          เมื่อเป็นอัลบั้มแรก ชื่อ “พิจิกา” ย่อมบ่งบอกถึงการแสดงออกตัวตนและอัตลักษณ์ของศิลปิน ที่ด้านหนึ่งอาจจะ “เหมือน” แต่ก็น่าจะมีความ “แตกต่าง” จากผลงานก่อนหน้านั้น ไม่มากก็น้อย เพราะงานชุดต่างๆ เหล่านั้น ล้วนมีสไตล์อย่างใดอย่างหนึ่งกำกับ ขณะที่ 15 เพลงในอัลบั้มนี้ อวดโฉมให้เราสัมผัสได้ถึงตัวตนของเธออย่างเต็มที่
 
          โดยภาพรวม นอกจากเสียงร้องที่มีเสน่ห์ในตัวเองแล้ว ภาคโปรดักชั่นของผลงานชุดนี้ ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังกับบทเพลงที่คัดสรรมาแต่อย่างใด แม้หลายเพลงจะดูต่างกรรมต่างวาระ มากกว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นอัลบั้มตั้งแต่เริ่มต้นก็ตาม
 
          เริ่มด้วย “Music is My True Love” เป็นพรีลูดเนื้อร้องภาษาอังกฤษที่เจ้าตัวเขียนเอง ในกลิ่นอายแบบกอสเปล ตามด้วย “ความรักฉันหายไป” สำเนียงป๊อปย้อนยุค ที่ภาคดนตรีเข้มข้นลงตัว สอดรับกับเสียงร้องของลูกหว้าเป็นอย่างดี
 
          โทนอารมณ์เปลี่ยนอย่างรวดเร็วเมื่อมาถึง “แอบเจ็บ” เพลงเก่าของเอ็กซ์วายแซด ที่ชีพจรดีดดิ้นแบบดิสโกจางๆ ลูกหว้าถ่ายทอดเสียงร้องอย่างเป็นธรรมชาติ ตามด้วย “แฟร์ แฟร์” ขับเคลื่อนในแบบ “อัพ เทมโป” เพลงฟังสนุก ที่ดูจะถูกจริตนักร้องเป็นพิเศษ
 
          “จิตใต้สำนึก” เป็นบัลลาดเนิบๆ ค่อนข้างเป็นเพลงสูตร เสียงร้องของ ลูกหว้า ช่วยให้เพลงนี้ดีขึ้นมากโขอยู่ ขณะที่ “นิดนึง” เป็นเพลงเด่น เนื้อหาน่ารัก สะท้อนลายเซ็นของเธอ ตามด้วยเพลงประกอบละคร “อยู่ๆ ก็มาปรากฏตัวในหัวใจ” ส่วน “ช่วงเวลาที่ยากลำบาก” นำเข้าด้วยเทคนิค “เสียงร่าง” ก่อนจะค่อยกระจ่างชัดในที่สุด เป็นเพลงที่มีโมทิฟชัด ผนวกกับเสียงร้อง ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติดี
 
          บรรดาเพลงในอัลบั้มนี้ ผมคิดว่า ลูกหว้า ยังถ่ายทอด “มองฉันคนนี้” ได้ไม่เต็มที่นัก อาจจะเป็นเรื่องของจังหวะ หรือกระแสอารมณ์ที่ไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร ขณะที่ “เหงาอยู่ดี” มีลีลาน่ารัก และสัมผัสถึงความเหงาในเนื้อเสียงของเธอได้ น่าเสียดายว่าเนื้อหาเพลงดูย่ำอยู่ในวังวนซ้ำซากน้ำเน่าชอบกล
 
          อินโทรกีตาร์กลิ่นแจ๊สซีย์ ใน “ความรักดีๆ” พลิกบรรยากาศของการฟังเพลงไปอีกแบบ ตามด้วย “แสงสุดท้าย” เพลงของ บอดีสแลมที่นำมาใช้ในหนัง “วัยรุ่นพันล้าน” น่าเสียดายว่า โปรดักชั่นดนตรีดู “cheap” ไปสักหน่อย ทั้งคีย์บอร์ดและโปรแกรมมิ่ง เหมือน “คาราโอเกะ” อย่างไรอย่างนั้น
 
          ช่วงท้ายอัลบั้ม มีเพลงฮิต “กลัวเข้าใจผิด” จากละคร “สามหนุ่มเนื้อทอง” ตามด้วย “Kiss Me” ที่นำงานเก่าของ  “ซิกซ์เพนซ์ นอน เดอะ ริชเชอร์” มาถ่ายทอดใหม่ ปิดท้ายด้วยเพลงฟังสบาย อย่าง  “Built to Last”
 
          อัลบั้ม “พิจิกา” เผยให้เห็นศักยภาพในเสียงร้องของ ลูกหว้า ความสันทัดจัดเจนในลีลาการถ่ายทอด รวมถึงมนต์เสน่ห์ที่ทำให้บทเพลงที่เธอร้องกลายมาเป็นเพลงของเธอได้อย่างน่าทึ่ง แต่ที่น่าเสียดายน่าจะอยู่ตรงคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มนี้ยังไม่ชัดเจนนัก และหลายเพลงยังต้องการภาคโปรดักชั่นที่พิถีพิถันกว่านี้
 
          ถึงกระนั้น ก็นับเป็นก้าวแรกที่น่าจับตา และขอแสดงความยินดีด้วยครับ
...................
(หมายเหตุ 'พิจิกา':กวนเพลงให้น้ำใส โดย... อนันต์ ลือประดิษฐ์)