บันเทิง

'มองAEC'(จบ)

'มองAEC'(จบ)

03 ก.พ. 2555

"มองAEC"(จบ):มองโลกแบบวิกรม โดย... วิกรม กรมดิษฐ์

           เมื่อความมั่นคงมีมากขึ้น  ประเทศไทยไม่ถูกครอบครอง  ความมั่นใจของประเทศส่วนที่เหลือจึงดีขึ้น  และขยายตัวไปสู่เศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายด้านสังคมและวัฒนธรรม เมื่อความมั่นคงดี เศรษฐกิจดีขึ้น จึงหันมาดูแลเรื่องวัฒนธรรม 
 
          หลังจากที่มีเป้าหมายและนโยบายแล้ว  สิ่งที่สมาชิกในประชาคมต้องการคือเรื่องของความเชื่อมั่น เพราะเมื่อ 44 ปีที่แล้วเราไม่มีความเชื่อมั่นถึงความอยู่รอดของประเทศในภูมิภาคนี้เลย  ดังนั้น ความเชื่อมั่นจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่สมาชิกจะได้จากการเกิดประชาคม อย่างที่ 2 คือลดความขัดแย้ง การที่มีประชาคมเกิดขึ้นจะทำให้เราได้พูดคุยอย่างใกล้ชิดขึ้น ความขัดแย้งในเรื่องของชายแดน เช่น ไทย-กัมพูชา หรือ ไทย-พม่าควรจะลดน้อยลง อย่างที่ 3 คือการลดต้นทุนราคาสินค้าที่เราขึ้นในประชาคมและจะซื้อขายกัน เรามีเขตการค้าเสรีอาเซียนเกิดขึ้น เมื่อก่อนการซื้อขายระหว่างประเทศที่มีการเก็บภาษี วันนี้ภาษีที่เก็บจะลดลง 
 
          และในอีก 3 ปีข้างหน้าคือวันที่ 1 มกราคม ปี 2015 ที่จะเกิด AEC ขึ้น  ถือเป็นวันที่จะลดภาษีอย่างเต็มที่  จนแทบจะไม่มีการเก็บภาษีระหว่างประเทศสมาชิกเลย   อย่างที่ 4 ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนสร้างความเชื่อมั่นในวงกว้าง  และสร้างอำนาจในการต่อรอง  เมื่อนานาชาติเห็นว่าเรามีการสร้างเครือข่ายร่วมมือกัน ลดความขัดแย้ง  มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น  เมื่อจะออกมาพูดอะไรก็ออกมาพูดพร้อมกัน  จะทำให้มีอำนาจในการต่อรองสูงขึ้น   
 
          ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ เช่น การค้าขายระหว่างกัน 10 ประเทศในอาเซียนจะขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ  และสูงสุดในปี 2015  วันนี้ประเทศอื่นที่จะส่งออกไป ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ยุโรป หรือญี่ปุ่นต่างมีเศษฐกิจที่หดตัวลง แต่ในขณะเดียวกันประเทศเพื่อนบ้านเราขยายตัวกันอยู่ในขณะที่เศรษฐกิจโลกไม่ดี เมื่อก่อน 44 ปีที่แล้วเราไม่ค่อยได้คุยกัน  เมื่อไม่คุยกันทำให้เกิดความกลัว  นำไปสู่การสะสมอาวุธ  แต่การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 44 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้  พูดได้ว่าความใกล้ชิด  การพูดคุยของสมาชิก 10 ประเทศนี้มีมากขึ้น เรามีเลขาธิการของอาเซียนเป็นคนไทยอยู่ในปัจจุบันคือ ดร.สุรินทร์  พิศสุวรรณ  เมื่อเรามีการพูดคุยกันมากทำให้เกิดสันติภาพและความเชื่อมั่นกันระหว่างสมาชิก  และส่งผลทำให้การค้าระหว่างชายแดนมากขึ้น
 
          เมื่อ 44 ปีที่แล้ว ประเทศไทยและเวียดนามถือว่ามีอิทธิพลต่อความเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคมาก เพราะเวียดนามมีความเข้มแข็งมาก มีทหารเกือบ 2,000,000 คน พร้อมที่จะรุกและเข้ายึดครองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  และไทยก็เคยทำสงครามรบกับเวียดนามที่ชายแดนเขมร เมื่อมีการพูดคุยมากขึ้น เศรษฐกิจย่อมมีมากขึ้น สันติภาพในภูมิภาคจะมีมากขึ้น  นั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลง  จากที่เคยเป็นปฏิปักษ์ต่อกันกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกัน 
 
          สิ่งที่สร้างมาทำให้นานาชาติเกิดความสนใจให้ความสำคัญต่ออาเซียนมากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทั่วโลกจะประโคมข่าว มีผู้นำต่างชาติไม่ว่าจะเป็นอเมริกา  จีน  ญี่ปุ่น  หรือรัสเซียเข้ามาร่วมประชุมปรึกษาพูดจา  และถือว่าเวทีอาเซียนเป็นโอกาสที่จะได้พบปะพูดคุยกัน  เป็นสิ่งที่นานาชาติได้เริ่มเปลี่ยนมุมมองแล้ว  และเกิดเป็นอาเซียนบวก 6 ที่มีจีน  เกาหลี  ญี่ปุ่น  ออสเตรเลีย  นิวซีแลนด์  และอินเดียมาร่วม 
 
          นอกจากนั้น  ยังจะขยายเป็นอาเซียนบวก 8 และอาเซียนบวก 9  โดยมีรัสเซียเป็นประเทศที่ 7 อเมริกาเป็นประเทศที่ 8  และสหภาพยุโรปเป็นอันดับที่ 9 หากพูดถึง 9 ประเทศบวกกับอาเซียนแล้ว  เท่ากับขนาดของเศรษฐกิจกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของเศรษฐกิจโลก  ทำให้เกิดการขับเคลื่อนของการลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาในอาเซียน มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงขึ้นเรื่อยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา  มีการเดินทางจากคนทั่วโลกเข้ามาในอาเซียนถือว่ามากที่สุด  มีการร่วมลงทุนระหว่างสมาชิกต่อสมาชิกมากขึ้น  และเมื่อสันติภาพได้เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ก็มีการขยายตัวของเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
...................
(หมายเหตุ "มองAEC"(จบ):มองโลกแบบวิกรม โดย... วิกรม กรมดิษฐ์)