บันเทิง

ไปถึงไหนแล้ว? หนังทุนไทยเข้มแข็ง

ไปถึงไหนแล้ว? หนังทุนไทยเข้มแข็ง

26 ม.ค. 2555

ไปถึงไหนแล้ว? หนังทุนไทยเข้มแข็ง:หนังจอกว้าง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม

          เมื่อสองปีที่ก่อน มีข่าวที่สร้างความยินดีปรีดาให้แก่วงการหนังไทย หลังมีการประกาศให้ทุนสนับสนุนโครงการสร้างภาพยนตร์และวิดีทัศน์ โดยแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ผ่านนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (ปี 2553-2555) เพื่อสร้างงานและรายได้ ผ่านการลงทุนในโครงการของภาครัฐ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ปัญหาเศรษฐกิจที่เริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาและส่งผลสะเทือนไปทั่วโลก ซึ่งการให้ทุนครั้งนี้จัดสรรผ่านสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ภายใต้วงเงิน 200 ล้านบาท โดยกำหนดแนวทางการให้ทุนสนับสนุนไว้สองประเภทคือ แบบให้เปล่า และแบบมีเงื่อนไข ซึ่งผู้ได้รับการพิจารณาทุนจะต้องคืนทุนส่วนหนึ่งให้แก่สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม หลังภาพยนตร์ออกฉายตามแต่ตกลงกัน มีคณะกรรมการภาพยนตร์และวิดีทัศน์แห่งชาติ เป็นผู้พิจารณา โดยกำหนดประเภทของภาพยนตร์ที่จะได้รับทุนสนับสนุนในโครงการทั้งสิ้น 9 ประเภทคือ ภาพยนตร์ขนาดยาว วงเงิน 140 ล้านบาท, ภาพยนตร์สั้น วงเงิน 5 ล้านบาท, ภาพยนตร์ชุดหรือละครชุด วงเงิน 10 ล้านบาท, กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ วงเงิน 10 ล้านบาท, เกม วงเงิน 10 ล้านบาท, แอนิเมชั่น วงเงิน 10 ล้านบาท, ภาพยนตร์นอกกระแส วงเงิน 5 ล้านบาท, ภาพยนตร์ทดลอง วงเงิน 5 ล้านบาท และภาพยนตร์สารคดี วงเงิน 5 ล้านบาท
 
          มีผู้ยื่นแผนงานขอรับทุนสนับสนุนครั้งนี้ร่วม 300 โครงการ แต่สุดท้ายผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการราวๆ 90 โครงการ และนับแต่ปี 2553 จนถึงขณะนี้ น่าจะมีไม่ถึง 20 โครงการ ที่ดำเนินงานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย และมีอีกนับสิบๆ โครงการ ที่ยังค้างคา บางเรื่องยังไม่เปิดกล้องด้วยซ้ำไป บางเรื่องอยู่ระหว่างถ่ายทำ หรือบางเรื่องแล้วเสร็จพร้อมฉาย แต่ยังหาโรงไม่ได้ 
 
          คอลัมน์หนังจอกว้าง ได้รวบรวมรายชื่อภาพยนตร์ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งโดยเฉพาะประเภทภาพยนตร์ขนาดยาว, ภาพยนตร์สารคดี, ภาพยนตร์นอกกระแส ที่ออกฉายตลอดทั้งปี 53-54 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 10 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 11 ของโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนทั้งหมด ดังนี้ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 และ 4, ลุงบุญมีระลึกชาติ, ฝนตกขึ้นฟ้า, อีนางเอ๊ยเขยฝรั่ง, คนโขน, ฮักนะสารคาม, ซามูไรอโยธยา, เบบี้ อาราเบีย, ไฮโซ ในขณะที่ อีกหลายโครงการเตรียมเข้าฉายปีนี้ อาทิ รักละไมล์, ฉันอยู่นี่ เธออยู่ไหน, แต่เพียงผู้เดียว บางเรื่องได้ข่าวเกี่ยวกับการหาผู้ร่วมทุนเพิ่มเติม อย่างเช่น สายน้ำลูกผู้หญิง, อินเดียรำลึก ขณะเดียวกันก็มีหนังนอกกระแสอีกหลายเรื่อง อยู่ในระหว่างถ่ายทำ ทั้ง ทาม ราศีไศล ของปราโมทย์ แสงศร, The Island Funeral ของพิมพกา โตวิระ บางเรื่องใกล้แล้วเสร็จ แต่ติดปัญหาตรงสถานที่ฉาย ไม่ว่าจะเป็น เชคสเปียร์ ต้องตาย ของสองผู้กำกับ สมานรัฐฎ์ กาญจนะวณิชย์ และมานิต ศรีวานิชภูมิ, สถานีสี่ภาค ของบุญส่ง นาคภู่ ซึ่งเรื่องหลังนี้ผู้กำกับตั้งใจจะนำเข้าฉายที่ลิโด้ สยามสแควร์
 
          มีอีกหลายเรื่องเคยได้ยินข่าวคราวระหว่างการถ่ายทำ แต่ก็หายเงียบไปในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นหนังของ อ.บรรจง โกศัลย์วัฒน์ เรื่อง หมอแสง, ดาวคะนอง ของผู้กำกับหญิงเจ้าของรางวัลจากเทศกาลร็อทเทอร์ดาม อโนชา สุวิชากรพงศ์
 
          มีโครงการหนังอีกมากกว่าครึ่งที่ได้รับทุนสนับสนุนจากแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 แล้วเงียบหายไป ไม่มีข่าวคราวความคืบหน้าออกมาให้ได้ทราบว่าไปถึงไหนแล้ว หลายๆ โครงการดูจากชื่อเรื่อง ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย อาทิ “ชีวิตและผลงานของ เฟื้อ หริพิทักษ์” ของคุณสมชาย องอาจ ที่ได้รับการสนับสนุนแบบให้เปล่าเป็นจำนวนเงินถึง 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เท่ากันกับหนังเรื่อง “การเดินทางแห่งพระพุทธศาสนาและการสืบทอดพระไตรปิฎกเถรวาท” ของ ม.ล.วราภา อุกฤษณ์ ที่ได้รับการสนับสนุนภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน ยังมีหนังที่ได้รับการสนับสนุนทุนสร้างสูงถึง 5.66 ล้านบาท เรื่อง “นรสิงห์” ของ บริษัทอัครพล โปรดักชั่น ที่ยังไม่มีข่าวความคืบหน้าในการถ่ายทำปรากฏออกมาให้ได้ทราบเช่นกัน กรณีเดียวกันกับหนังเรื่อง “อริยะ” ที่ได้รับทุนรอบสองเป็นจำนวน 4.5 ล้านบาท ก็ไม่มีข้อมูลข่าวสารออกมาให้ประชาชนได้รับรู้หลังได้เงินทุนสนับสนุนไป ซึ่งตามระเบียบแล้วโครงการที่ได้รับทุนทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จภายในปี 2555
 
          นโยบายการสนับสนุนอุตสาหกรรมหนังไทยครั้งนี้ คนในวงการบอกกันว่า ดูจะอิหลักอิเหลื่อ ผิดที่ผิดทางไป และส่งเสริมไม่ตรงจุดมุ่งหมายสักหน่อย แต่อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณที่ดีว่า ภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับหนังไทยหลังถูกปล่อยทิ้งขว้างมานาน แต่ก็น่าเป็นห่วงสำหรับผู้สร้างบางรายที่ได้รับทุนและอยู่ในระหว่างถ่ายทำ และน่าติดตามความคืบหน้าสำหรับผู้สร้างบางราย ที่ได้รับทุนไป แต่กลับไม่มีผลงานปรากฏให้เห็น
 
          เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2554 ที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรม ผุดโครงการแผนพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ภายใต้วงเงิน 200 ล้านบาทออกมาอีก แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะเน้นที่กิจกรรมและการส่งเสริมกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในเมืองไทยมากกว่า ซึ่งก็น่าลุ้นว่าหลังนำเข้าสู่วาระการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี จะถูกแปรญัตติ ตัดลดงบประมาณลงไปอีกแค่ไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการแข่งขันในโลกของธุรกิจภาพยนตร์ ณ ขณะนี้ ‘สถานการณ์หนังไทยยังน่าเป็นห่วง’ 
...................
(หมายเหตุ ไปถึงไหนแล้ว? หนังทุนไทยเข้มแข็ง:หนังจอกว้าง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม )