ตาม "บอย-พะแพง-โด่ง"คัด "ทรู อะคาเดมีฯ ปี 6"

 อีกทั้งในปีนี้ยังมีความพิเศษหลายอย่างให้แฟนๆ เอเอฟได้รับความสนุกอย่างเต็มที่ และตอนนี้ก็ใกล้จะได้ตัวผู้เข้ารอบจากทุกภาคเข้าไปทุกที ล่าสุดมาถึงการคัดเลือกที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมสมัครเป็นจำนวนมาก

โดย “บอย” อรรถพล ณ บางช้าง ผู้บริหาร ทรู อะคาเดมีฯ  บอกถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับคัดเลือกว่า อยากได้คนที่มีบุคลิกดี หน้าตาดี ร้องดี เพราะรายการออกโทรทัศน์ก็ต้องมีบุคลิกที่ดีเพื่อเรียกคนดู ส่วนเรื่องของเสียงก็ต้องไม่แย่จนเกินไป แต่เราไม่มีคัดไว้ก่อน เพราะฉะนั้นก็จะได้ตามความเป็นจริงในตอนนั้น จะเฟ้นหาคนที่คิดว่าดีที่สุดจริงๆ อีกทั้งอยากให้ทุกคนรู้ว่ารายการเรียลิตี้โชว์ ไม่ได้เป็นค่ายเทป เราเหมือนกับการสร้างฝันให้คน ได้ทำตามความฝันที่อยากจะเป็น และได้แสดงความสามารถออกมาเต็มที่ รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสอนในด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้

 “ปีนี้จะมีการนำเสนอแบบ 3 มิติในการถ่ายทอดสดรายการและการแสดงคอนเสิร์ต และถือว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เพราะว่าเป็น 3 มิติที่ถ่ายทอดสด โดยเทคโนโลยีของเราจะต่างจาก 3 มิติ ที่ทุกคนเคยเห็น คือถ้าไม่ใส่แว่นก็จะเห็นเป็นภาพปกติ แต่พอใส่แว่นจะมีมิติขึ้นมา แต่ไม่ใช่ 3 มิติตลอดรายการ เช่น ถ้าคอนเสิร์ต 3 ชม. ก็จะมีสัก 3-4 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้สายตาเสีย“ บอยบอกถึงความพิเศษของเอเอฟในปีนี้

ส่วนรุ่นพี่จากบ้านเอเอฟในปีที่ผ่านๆ มา ก็มาให้กำลังใจรวมถึงให้คำแนะนำสำหรับน้องๆ ผู้เข้าร่วมออดิชั่นในภาคอีสาน คือ "พะแพง เอเอฟ 4" บอย เอเอฟ 3" และ "โด่ง เอเอฟ 3"

โดย พะแพง เอเอฟ 4 พูดถึงผู้เข้าร่วมออดิชั่นของภาคอีสาน ว่าผู้ที่มาสมัครทุกคนต่างพกความมั่นใจมาพอสมควร บางคนเสียงดีแต่ยังขาดประสบการณ์

ส่วน โด่ง เอเอฟ 3 ให้คำแนะนำสำหรับผู้เข้าร่วมสมัคร ว่าอยากให้ทุกคนร้องเพลงโดยไม่ต้องเครียด ร้องไปตามธรรมชาติ แสดงความสามารถออกมาให้เต็มที่จะได้ไม่เสียใจภายหลัง และอย่าเพิ่งหมดหวังที่จะตามความฝัน ถ้าพลาดจากวันนี้ก็ไปฟิตซ้อมมาเจอกันอีกทีที่กรุงเทพฯ ก็ยังไม่สาย

รายการ ทรู อะเคเดมี แฟนเทเชีย เปรียบเสมือนบันไดสู่ความฝันของคนที่อยากจะเข้าสู่วงการบันเทิง โดยใช้ความสามารถของตัวเองเป็นพลังขับเคลื่อน และในทุกปีก็มีนักร้องและนักแสดงเกิดขึ้นมามากมายจากที่นี่ มาตามดูกันว่าปีนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในบ้านหลังนี้