บันเทิง

ทุกข์-สุขคลุกเคล้าในแบบ'วันทูทรี โซล'

ทุกข์-สุขคลุกเคล้าในแบบ'วันทูทรี โซล'

27 พ.ย. 2554

ทุกข์-สุข คลุกเคล้าในแบบ 'วันทูทรี โซล'

          เป็นวงที่มีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด สำหรับวง “วันทูทรี  โซล (123  Soul)" ที่มีสมาชิกประกอบด้วย “แต๊บ"ธนพล มหธร “ว่านไฉ" อคิร วงษ์เซ็ง “กฤษ" กฤษมงคล ศิลปี แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนเรียกว่าเป็นทีมเดียวกันแล้ว โดยพวกเขาได้เล่าถึงการทำงานให้ฟังว่าเพลงของพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นเพลงประกอบละครซะส่วนใหญ่ ทั้งเพลง "สักครั้ง" "เผื่อลืม" ที่เป็นเพลงแรกที่มีกฤษมาอยู่วง และเพลงเผื่อลืมก็เป็นอีกเพลงที่พวกเขาทำกันเอง มาจนเพลง "ผู้ชายนิสัยไม่ดี" และ "รู้สึกช้า" ที่ไปประกอบละคร "เมียแต่ง" ซึ่งยังมีอีกเพลงคือเพลง "นักเล่านิทาน" เพลงนี้ไม่ได้เป็นเพลงที่จะเอามาโปรโมท แต่มันเป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อขอบคุณแฟนๆ ทุกคน ซึ่ง "แต๊บ" ได้พูดถึงการทำงานเพลงแบบไม่มีอัลบั้มเต็มของพวกเขาในเวลา 3 ปีว่าเป็นเรื่องที่เจอทั้งสุขและทุกข์

          "3 ปีที่เราทำงานเพลงกันมา เราเป็นวงที่เจอมาแล้วหมดทุกอย่าง ทั้งอุปสรรค ความสุข ความภูมิใจ ความเหนื่อยล้า ท้อแท้บ้าง มันก็เจอมาหมดทุกอย่าง มันทำให้เราได้มีประสบการณ์มากกับการทำโปรเจกท์นี้ สอนเราถึงเรื่องการอยู่กันเป็นวง เพราะการทำงานที่คิดว่าเราตัวคนเดียว รอดคนเดียว มันไม่ได้ต้องมีการคิดเผื่อถึงคนอื่นด้วย มันต้องมีเรื่องของการแบ่งปันกันเป็นสำคัญ ยกตัวอย่างเราต้องไปทำงานตรงนั้นตรงนี้ ซึ่งเป็นงานส่วนตัวของเรา แต่เราต้องนึกถึงเพื่อนๆ ในวงคนอื่นด้วยว่าจะยังไง หรือจะเป็นเรื่องของประสบการณ์การทำงานที่ว่า เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนซื้อแผ่น ยอดดาวน์โหลดก็ไม่ได้เยอะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้มันทันสมัยไปหมด คนสามารถเลือกฟังเพลงได้ด้วยวิธีมากมาย มันทำให้เรามีวิธีการรับมือกับปัญหาเหล่านี้มาพอสมควร ซึ่งเราได้คำตอบของปัญหาเหล่านี้แล้วว่าถ้าพวกเราชอบในสิ่งนี้ ก็ให้เราทำต่อไป ถ้าเราทำแล้ว เรามีความสุข แค่นั้นพอแล้ว" แต๊บเผย

          ด้านสมาชิกใหม่อย่าง "กฤษ" ที่ได้มาอยู่ร่วมกับวง "123 โซล" มาได้เกือบสองปีแล้ว ก็ได้รับคำชมจากเพื่อนในวงอย่าง "ว่านไฉ" และ "แต๊บ" ว่ามีส่วนร่วมในการทำงานเพลงมากกว่าสมาชิกคนเก่าๆ

          "แรกๆ การที่เราเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ มันเป็นปกติที่เราต้องมีการปรับตัว กฤษเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่กับน้องๆ ยังไง พอได้เริ่มรู้จักกัน พวกเราทำความรู้จักกันเร็ว เพราะไม่ใช่แค่การมาทำงานอย่างเดียว เรายังมีการนัดกันไปกินข้าวกัน คุยกัน ทำให้เราเองสามารถเข้ากับน้องๆได้โอเค จูนกันได้ จริงๆ ก่อนที่จะมาอยู่ในวงด้วยกัน เราได้เจอกันบ้าง เพราะว่าศิลปินเอเอฟจะมีคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมที่ทำด้วยกันทุกรุ่นอยู่แล้ว และตอนนั้นคือกฤษเองออกมาจากการประกวดในซีซั่นที่ 6 ได้แป๊บเดียว ทางผู้ใหญ่ก็เรียกเข้ามาคุยว่าเราสนใจที่จะมาทำวันทูทรีโซลไหม เราก็บอกไปเลยว่าเราอยากทำ เพราะเราเองก็ชอบดนตรีแนวนี้อยู่แล้ว" กฤษเล่า

          โดย "ว่านไฉ" ได้เผยว่าวง "วันทูทรี โซล" มีการแบ่งหน้าที่ของแต่ละคนอย่างชัดเจน ว่าใครถนัดและเหมาะสมในการที่จะทำอะไรตรงไหน อย่างเช่น "ว่านไฉ" มีความถนัดในเรื่องของการแต่งเพลง "กฤษ" ถนัดในเรื่องของการดีไซน์การร้อง และ "แต๊บ" ดูในเรื่องของภาพรวมทั้งหมด ทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองว่าใครควรจะทำอะไรตรงไหนบ้าง

          "วันทูทรีโซล จะมีการร้องในแบบเดี่ยวๆ และร้องแบบประสานด้วย เพราะเรารู้สึกว่าถ้าไม่ร้องประสาน แล้วให้เรามายืนเฉยๆ มันก็เขิน ทำให้เรามีการประสานด้วย แต่จริงๆ แล้วเราเองก็ขายความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนด้วย คือการร้องของแต่ละคนก็บอกคาแร็กเตอร์ของตัวเองเหมือนกัน อย่างคนนี้ร้องท่อนนี้ก็เป็นสไตล์ของเขา ในตอนแรกเรามีปัญหาใหญ่ตรงที่ว่าเราจะร้องประสานเสียงอย่างไง นั่นคือความยากในตอนนั้น แต่พอได้ตรงนั้นมาปุ๊บ โจทย์ของเราต่อมาคือทำยังไงให้มันเหมาะสม เพราะมันไม่ได้จบตรงที่ว่าเราร้องประสานกันได้แล้วคือจบ คือเราต้องทำให้คนฟังเขารู้สึกดีกับการประสานของเรา ไม่ใช่ว่าเขาเลี่ยนกับการประสานของเราซะหมด ซึ่งเราต้องใช้ประสบการณ์ต่างๆ มาเพื่อในการทำงานแบบนี้ต่อไป" ว่านไฉกล่าว ซึ่งว่านไฉยังเผยถึงเพลง "เหมือนกัน" เพลงใหม่ของเขาที่ออกมาเพื่อให้กำลังใจช่วงน้ำท่วมอีกด้วย

          "แรงบันดาลใจในเพลงนี้ เกิดจากที่ผมได้ลงพื้นที่ในการแจกถุงยังชีพ และเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในด้านต่างๆ พอเราเห็นภาพ ทุกคนอดที่จะกลั้นน้ำตาไม่ได้ แม้แต่ผู้ประสบภัยเอง มีทั้งความเครียด นอกจากนี้ผมเห็นว่าในเมื่อทุกคนโดนเหมือนๆ กัน ซึ่งบ้านผมเองก็โดนเหมือนกัน แล้วเราจะแบกความเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับภัยธรรมชาติครั้งนี้ทำไม เลยอยากตั้งใจร้องและแต่งเพลง "เหมือนกัน" ออกมา เพื่ออยากให้ทุกคนมองในแง่ดีคิดบวก อยากให้ทุกคนมีรอยยิ้ม ผ่อนคลายหายเครียด และจับมือกันผ่านวิกฤติกับภาวะปัญหาสระว่ายน้ำยักษ์นี้ไปด้วยกันดีกว่า" ว่านบอก