บันเทิง

สามพราน-นครชัยศรี

สามพราน-นครชัยศรี

09 พ.ย. 2554

สามพราน-นครชัยศรี:คมเคียวคมปากกาโดย... บรรณวัชร

           เฝ้าเกาะติดภาวะน้ำท่วมฝั่งตะวันตกด้วยความเป็นห่วงมากกว่าที่อื่น เนื่องจากมีบ้านพักอยู่ย่านนั้น และค่อนข้างผูกพันกับชาวชุมชนรอยต่อนครปฐม-สมุทรสาคร-กรุงเทพฯ
 
          น้ำหลากจากทุ่งเจ้าพระยาไหลข้ามคลองมหาสวัสดิ์ เข้าท่วมย่านเศรษฐกิจตลอดแนว ถ.พุทธมณฑลสาย 4-5 บวกกับน้ำท่าจากแม่น้ำนครชัยศรีไหลมาสมทบ ทำให้ อ.นครชัยศรี อ.สามพราน จ.นครปฐม จมน้ำเกือบยกอำเภอ
 
          ว่ากันว่า หากระดับน้ำยังไม่ลดลงภายใน 2 สัปดาห์ จังหวัดนครปฐมจะสูญเสียแหล่งปลูกส้มโอ "พันธุ์นครชัยศรี" ซึ่งเคยทำรายได้เข้าจังหวัด ปีละหลายร้อยล้านบาท
 
          ส้มโอนครชัยศรี มีชื่อเสียงมานานกว่า 40-50 ปี ปลูกกันมากในพื้นที่นครชัยศรี สามพราน และพุทธมณฑล ตามตัวเลขของทางการมีพื้นที่สวนส้มโอมากกว่า 4,000 ไร่
 
          เมื่อเร็วๆ นี้ ชาวสวนส้มโอนครชัยศรีได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(GI) ในฐานะเป็นผู้ผลิตผู้ประกอบการส้มโอ จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ที่ประกันถึงรสชาติและถิ่นกำเนิด
 
          น่าเสียดายนะครับ หากว่าน้ำเน่าจะทำให้ส้มโอนครชัยศรี ต้องเสียหายถึงขั้นสูญพันธุ์ แต่ก็หวังว่ามันจะไม่เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นหลังจากน้ำลดลงแล้ว
 
          40 ปีที่แล้ว ผมแอบชอบเพลง "สาวนครชัยศรี" ร้องโดย ละอองดาว โสธรบุญ ซึ่งไม่นานมานี้ ยังได้ฟังเธอร้องสดผ่านรายการเพลงทางทีวีดาวเทียมช่องลายไท รู้สึกเป็นบุญหูสุดประมาณ
 
          เพลงชุดนี้มีเกี่ยวข้องกัน 3 เพลงคือ สาวนครชัยศรี, อย่าลืมสามพราน และรักพี่เสียดายน้อง มันเริ่มจากเสียงครวญจากสาวนครชัยศรี ที่ตัดพ้อต่อว่าหนุ่มบ้านไกล
 
          "พี่ลืมแล้ว ส้มโอที่เคยว่าหวาน กลับขื่นขมไปแล้วหรือนั่น สัมพันธ์ก่อนเคยสดใส"
 
          จะว่าไปแล้ว นครชัยศรีกับสามพราน ก็อยู่ติดชิดกัน แต่นักแต่งเพลง ก็วาดภาพให้เกิดรักสามเส้าของสาวสองอำเภอ ด้วยการใช้ผลไม้ประจำถิ่นสองชนิดเป็นสัญลักษณ์คือ ส้มโอกับองุ่น
 
          "ลืมส้มโอ ว่าหวานจับจิต เห็นดีแล้วหรือจึงคิด ชมองุ่นว่าหวานจับใจ นครชัยศรี พี่ลืมมันแล้วหรือไร ไปเพลินสามพรานเมืองใหม่ ดูหรือใจไม่มีแน่นอน"
 
          คิวต่อมา สะกาวเดือน โสธรบุญ ก็ร้องเพลง "อย่าลืมสามพราน" แอบต่อว่าต่อขานสาวนครชัยศรี
 
          "นครชัยศรี เขามีส้มโอแสนหวาน ซ้ำสาวงามสะคราญ ข้าวสารก็ขาวเป็นหนึ่ง สักวันหรอกหนา น้องว่าพี่คงติดตรึง ส้มโอก็คงหวานซึ้ง หลงเฝ้าคะนึง จนลืมสามพราน"
 
          ปิดท้ายด้วย ศักดิ์ชาย วันชัย ร้องเพลง "รักพี่เสียดายน้อง" ตามประสาหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่รักสาวหลายบาง
 
          "จงทบทวนใคร่ครวญน้องพี่ เนื้อทองทั้งสองบางนี้ ก็เหมือนพี่และน้องร่วมใจ นครชัยศรีน้องพี่ก็มีความหมาย สามพรานเนื้อทองน้องใหม่ พี่ฝากใจหวังเชื่อมสัมพันธ์"
 
          สุดท้ายเจ้าหนุ่มก็รวบรัด..รวบหัวรวบหาง(ฮา) ด้วยข้อเสนอที่สาวเจ้ามิอาจปฏิเสธ "แบ่งดวงใจรักเธอเท่ากัน อย่าหม่นหมอง ข้องใจกันเลยแจ่มจันทร์ ด้วยดวงใจพี่ยังรักมั่น ทั้งสามพรานนครชัยศรี"
 
          นั่นเป็นเรื่องอดีต แต่ในปัจจุบัน "ละอองดาว-สะกาวเดือน" แฝดสาวเสียงทอง ต้องอพยพออกจากบ้านพักในหมู่บ้านเศรษฐกิจ หนีภัยน้ำท่วมไปอยู่ต่างจังหวัดเสียแล้ว
 
          ยังไงก็ขอให้กำลังใจคนลูกทุ่งทุกคน ที่มีชะตากรรมเดียวกันคือ ผู้อพยพแห่งยุคน้ำท่วมฟ้าปลากินดาว!