บันเทิง

Bridge Over Troubled Water

Bridge Over Troubled Water

18 ต.ค. 2554

Bridge Over Troubled Water:คิดสวนทาง โดย... จิรพรรณ อังศวานนท์

           ผมได้ยินเพลงนี้ของพอล ไซมอนด์ และอาร์ต กาฟังเกล ขึ้นมาทันที เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ที่พี่น้องในจังหวัดต่างๆ ต้องประสบกับปัญหาที่เกิดจากภัยน้ำท่วม อยากแต่งเพลงที่มีคุณค่าเท่ากับเพลงนี้เพื่อปลอบใจและเป็นกำลังใจให้แก่ทุกๆ คน แต่ก็ต้องจนใจในความสามารถ จะนึกถึงเพลงไทยที่ให้ความหมายลึกซึ้งขนาดนี้ ซึ่งอาจจะมีอยู่แต่ตอนนี้ผมนึกไม่ออกจริงๆ
 
          พอล ไซมอนด์ ได้แต่งเพลงนี้จากการได้อ่านพระวรสาส์น(Bible)ที่เขาแอบหยิบติดมือมาจากโรงแรมที่เขาไปพัก เมื่อได้เดินทางไปแสดงที่เมืองหนึ่ง และก็ใช้เวลาระห่วางที่อยู่บนเครื่องบินนั้นอ่านเพื่อฆ่าเวลา และหลังจากนั้นอีกไม่นานเขาก็ได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมา ด้วยทำนองที่เรียบง่าย ใช้ภาษาอย่างง่ายๆ และเป็นเพลงแรกที่ใช้เปียโนประกอบการร้องแทนกีตาร์ 
 
          เนื้อหาโดยรวมของเพลงนี้คือการเสียสละอันยิ่งใหญ่ ที่คนคนหนึ่งจะยอมทอดตัวลงนอน เป็นสะพานให้คนอื่นเหยียบเดินข้ามกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากเพื่อให้ข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้ เป็นการให้กำลังใจว่าในที่สุดเรือลำน้อยนี้ก็จะสามารถแล่นผ่านพ้นพายุที่พัดกระหน่ำมาอย่างบ้าคลั่ง ไปพบกับแสงตะวันอันเรืองรองที่รออยู่ได้ในไม่ช้า เป็นการสรุปความโดยรวมนะครับไม่ได้แปลตรงตัว สำหรับท่านที่เกิดไม่ทันเพลงนี้ขอแนะนำให้ไปหาฟังได้ในเว็บต่างๆ หรือใน YouTube
 
          เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้บางท่านก็ให้ความคิดเห็นว่านี่เป็นเพียงบทนำเท่านั้น จากสภาวะโลกร้อน ภูมิอากาศแปรปรวน ซึ่งยิ่งวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าถ้าเราไม่รีบนำเอาเหตุการณ์ในครั้งนี้มาเป็นบทเรียนและเตรียมการแก้ไขในระยะยาวแล้ว ปีหน้าอาจจะต้องพบกับมหันตภัยที่รุนแรงกว่านี้อีก
 
          ผมโชคดีที่ได้มีโอกาสฟังท่าน ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มาให้ความรู้ถึงปัญหาความรุนแรงของอุทกภัยที่เพิ่มขึ้นทุกปีทาง TNN เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ท่านได้กล่าวไว้หลายสาเหตุแต่ที่จำได้แม่นยำคือ เรื่องของเมืองที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นไปปิดทางระบายน้ำ เพราะไม่มีการวางผังเมืองที่ดีและกฎหมายที่ใช้ควบคุมก็ไม่ได้ผล
 
          น้ำนั้นเป็นธรรมชาติที่จะต้องไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ถ้ามีปริมาณมากก็จะล้นตลิ่งขึ้นมา เปรียบเทียบเหมือนรถยนต์เมื่อมีปริมาณมากก็ทำให้เกิดการจราจรติดขัดต้องสร้างทางด่วนเพิ่ม ขึ้นเพื่อให้จราจรคล่องตัว ดังนั้นจึงต้องสร้างทางด่วนให้น้ำเมื่อเวลาน้ำมีปริมาณมาก ด้วยการสร้างถนนขนานไปกับแม่น้ำและเว้นที่สองข้างฝั่งแม่น้ำจนถึงถนนห่างประมาณ 1 กม. ที่เรียกว่า "แก้มลิง" ที่บริเวณนี้ให้ใช้ทำเกษตรกรรมอย่างเดียว ห้ามสร้างโรงงานหรือสิ่งปลูกสร้างถาวรอย่างอื่น เวลาน้ำหลากมาก็จะได้เป็นซูเปอร์ไฮเวย์ไหลลงสู่ทะเลไป เมื่อน้ำลดก็จะนำปุ๋ยธรรมชาติทิ้งไว้ให้ทำเกษตรกรรมต่อไปได้อีก
 
          โครงการแก้มลิงทุกคนก็คงเคยได้ยินกันและก็รู้กันทั่วหน้าว่าใครเป็นคนคิด น่าเสียดายที่เราไม่ได้นำไปปฏิบัติให้จริงจัง เมื่อเกิดปัญหาก็ใช้วิธีแก้ไขกันแบบเฉียดฉิว พอปัญหาผ่านไปก็ไม่รีบวางแผนแก้ไขระยะยาว สนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจกันต่อ ไป หรือไม่ก็หันมาทะเลาะกันต่อไป ได้ข่าวว่าถ้าน้ำลดเมื่อไหร่ก็จะมีการปลุกระดมกันเข้ามาประท้วงอะไรกันอีก เราก็จะได้เห็นพวกตัวตลกกันเร็วๆ นี้
 
          เมืองไทยยังไม่สิ้นคนดี คนฉลาด คนมีความรู้ ความสามารถ บุคคลเหล่านี้แหละครับ ที่ทำตัวเป็น Bridge Over Troubled Water ให้แก่พวกเรามาโดยตลอดแบบที่ไม่ต้องการโปรโมทตัวเองใดๆ และพวกเราคงรู้ดีนะครับว่าใครคือผู้ที่เสียสละให้พวกเรามากที่สุด เพื่อที่พวกเราจะได้อยู่กันอย่างสบาย
 
          บทเรียนครั้งนี้มีราคาแพงเป็นแสนล้าน ถ้ายังไม่มีการเรียนรู้ เอาแต่ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง ก็คงต้องพังกันหมดในไม่ช้า บทเรียนที่มีค่าที่ผมได้เรียนรู้ในครั้งนี้ก็คือคนไทยมีจิตใจงดงามเหลือเกิน จะลำบากลำบนอย่างไรก็ยังยิ้มสู้ ผมภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยคนหนึ่ง 
 
          ขอให้น้ำที่หลากมานี้ ล้างสีต่างๆ ให้หมดไป เหลือแต่สีไตรรงค์ อย่างที่พี่น้องทุกคนได้พิสูจน์ด้วยการช่วยกันคนละไม้คนละมืออยู่ในขณะนี้ครับ