'นริศ อารีย์' ชั่วนิจนิรันดร | คมชัดลึก

 
          สัปดาห์ที่แล้ว วันสิ้นเดือนกันยายน นอกจากเราจะสูญเสียนักร้องลุกทุ่ง กาเหว่า เสียงทองแล้ว ยังมีนักร้องลูกกรุงเสียงนุ่ม นริศ อารีย์ ในวัย 81 ปี จากไปด้วยในวันเดียวกันด้วยโรคเบาหวานและพาร์กินสัน
 
          ครูพรพิรุณ นักแต่งเพลงผู้หญิงที่กำลังเสียงแหบแห้งด้วยอาการป่วยอยู่ยามนี้ เล่าให้ฟังด้วยความทรงจำที่ดี แต่น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นว่า รู้จักกันกับคุณนริศ ตั้งแต่เด็กๆ คลับคล้ายคลับคลาว่า เป็นคนกรุงเทพฯ อยู่แถวๆแขกครัว แถวโบ๊เบ๊ วันเกิดจำง่ายเพราะเกิดส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม 2473
 
          ครูพรเล่าว่า รู้จักกันตอนนริศ แสดงละครวิทยุและร้องเพลงกับคณะละครวิทยุพันตรีศิลปะ โดยมีนางเอกละครคือ รัชนีวรรณ อังสุกรานต์ และนริศได้ร้องบันทึกเสียงเพลงแรกของครูพรพิรุณ ชื่อเพลง “มนต์จันทร์”
 
          นริศเป็นคนพูดน้อย แลดูนิ่งๆเพื่อนผู้ใกล้ชิดบอกว่า มีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเป็นน้องชายแท้ๆ ของ วรนุช อารีย์ นักร้องวงสุนทราภรณ์ ชีวิตส่วนตัวทราบว่า เคยมีครอบครัวแล้ว และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับนักแต่งเพลงชื่อ อีส อารีย์ ที่แต่งเพลง ”สิ้นกลิ่นดิน”

          นริศ อารีย์ ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสามนักร้องเพลงลูกกรุง ที่มีน้ำเสียงไพเราะเช่นเดียวกับ สุเทพ วงศ์กำแหง และชรินทร์ นันทนาคร
 
          เพลงของนริศ ที่โด่งดังมีชื่อเสียง คือเพลง "ชั่วนิจนิรันดร" แต่โดยครู พยงค์ มุกดา ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับไปแล้ว บันทึกเสียงเมื่อปี 2492 กว่า 60 ปีล่วงมาแล้ว เพลงนี้เนื้อเพลงขึ้นต้นว่า “ฉันรักเธอรักเธอเท่าดวงชีวิต รักเธอชั่วนิจนิรันดร....” และมาโด่งดังอีกครั้งตอนที่เศรษฐา ศิระฉายา มาร้องตอนอยู่วงดิอิมพอสซิเบิ้ล
 
          เพลงที่ครูป. ชื่นประโยชน์ แต่งให้ก็มีเพลง "คอย" (ป่านนี้ดวงใจคงทุกข์โศกตรม เศร้าระทมหม่นหมองสะอื้น.....)กับเพลง "สักวันหนึ่ง" (สักวันหนึ่งเธอคงคิดถึงฉันและแล้ววันนั้น เธอจะร้องไห้...) " และยังมีเพลงที่ครูไพบูลย์ บุตรขัน แต่งให้อย่างไพเราะคือเพลง "แม้พี่นี้จะขี้เมา" เนื้อเพลงให้ข้อคิดกับครอบครัวดีจังเลย โดยมีท่อนจบว่า
 
          “ถึงแม้พี่นี้จะเมามา เห็นหน้าเมียพี่ยังดีใจ
          กอดคอกันไว้อย่าทุกข์ดีกว่า หากเมียของพี่เป็นนางฟ้า
          หากบ้านแม้ว่าเป็นสวรรค์ ไม่ช้านานวันพี่คงเลิกดื่ม”

          และยังมีเพลงที่ นักแต่งเพลงเทพบุตรนักรัก สุรพล โทณะวณิก แต่งให้ คือ "ม่วยจ๋า" กับ “เปียจ๋า" ซึ่งว่ากันว่า ด้วยอิทธิพลของเพลงนี้ที่โด่งดังในยุคนั้นทำให้สาวๆ ไว้ผมถักเปียกันเป็นแถวๆ
 
          เพลงที่ถือว่า เป็นสุดยอดเพลงไพเราะที่มีภาษาสวยงาม แต่งโดย รัก รักษ์พงษ์ หรือ สมณะโพธิรักษ์ คือเพลง "ผู้ครองรัก" (ขอรักเขาชั่วฟ้าดินสลาย ยั่งยืนคล้ายดังเมฆ ลอยฟ่องอยู่ครองคู่ฟ้า ...) เพลงนี้ เด็กรุ่นหลังๆ จะทึกทักเป็นของ อรวรรณ วิเศษพงษ์ ร้อง แต่ผู้ที่เป็นต้นฉบับคือ นริศ อารีย์ และอีกเพลงโดยผู้แต่งคนเดียวกันคือ เพลง "ผู้แพ้" ที่เนื้อเพลงสวยงามมาก ดังนี้
 
          “ระกำดวงใจ กระไรหนอบาป แสร้งสาปวนเวียนเจียนจน
          ช้ำป่นฤทัยร้าวในอกเรา เบียนเบียดจนสุดทนบรรเทา
          ทุกสิ่งไซร้ดูซมเซากระเซ็นมลายพ่ายไป....”
         
          แต่ละเพลงที่นริศ ถ่ายทอดนั้น ล้วนแต่ได้เพลงของบรมครูที่ประกอบกันแล้วเป็นเพลงอมตะที่งดงามประดับไว้ในวงการ
 
          กำหนดการพระราชทานเพลิงศพ นริศ อารีย์ วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2554 เวลา 16.00 น.วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพฯ ส่วนกาเหว่า เสียงทอง ที่เสียชีวิตในวันเดียวกัน นั้นกำหนดญาปนกิจศพวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม นี้ที่วัดบางไผ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ขอไว้อาลัยแก่ศิลปินทั้งสองท่านไว้ ณ ที่นี้