“กาเหว่า”นักร้องดังในดวงใจ | คมชัดลึก

          ข่าวการเสียชีวิตของกาเหว่า เสียงทอง ต้นฉบับเพลง”หนุ่มเรือนแพ” คงได้ทราบกันไปแล้วทั้งหน้าข่าวและหน้าบันเทิง
 
          หลังจากเขียนบทความเมื่อฉบับที่แล้ว ผู้เขียนได้หารือกับเพื่อนนักร้องที่สนิทกันว่าจะจัดงานไปช่วยเหลือค่ารักษาอากาเหว่า ทุกคนก็ตกปากรับคำด้วยความยินดี แต่ใครจะไปนึกว่า กลายเป็นต้องไปงานศพแทน
 
          เรื่องราวของกาเหว่า เสียงทอง นับว่ายังโชคดีที่มีให้ค้นคว้า ต่างจากนักร้องหลายคนในรุ่นเดียวกันที่เมื่อเสียชีวิตไปแล้ว ข้อมูลต่างๆ ที่คนรุ่นหลังจะศึกษาก็หายไปด้วย
 
          ได้ทราบว่า รายการโทรทัศน์ดาวเทียม ช่อง เคเอ็มแชนแนล ที่มีรายการชื่อ ”นักร้องดังในดวงใจ” เคยไปสัมภาษณ์กาเหว่าถึงบ้าน ผู้เขียนจึงไม่รอช้าที่จะขอเทปรายการมาดูย้อนหลัง ซึ่งอาจจะถือได้ว่า เป็นรายการสุดท้ายที่กาเหว่า เสียงทอง ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรชื่อ เล็ก วิมพ์วิภา ศรีแปร ที่บุกไปถึงหมู่บ้านวัฒกาญจน์ แถวนนทบุรี เมื่อปีที่ผ่านมา ตอนนั้นสุขภาพถือว่าแข็งแรง
 
          รายการทำให้ได้เห็นถึงความเป็นคนอารมณ์ดีของ กาเหว่าที่บอกว่า ตนเองเป็น นักร้องรุ่นเห็นเมรุแล้วเสียว และย้ายมาเพิ่งมาเช่าอยู่ที่นี่ และปลงแล้วที่ว่า ยามชื่อเสียงโด่งดังอะไรก็รั้งไม่อยู่ มีคนอุปถัมภ์ ครั้นพอตกก็เหมือนว่า “สมบัติผัดกันชม” แต่ เสียใจ ที่ตอนก่อนหน้านั้นดื่มเหล้าหนัก อะไรที่เคยมีมันก็กลับไม่มี และเคยมีทีวีมาเอาไปออกรายการ เป็นนักร้องตัวอย่างเลิกเหล้าได้เด็ดขาด ซึ่งมันอยู่ที่ใจ เป็นคนมีสัจจะเกิดมาทั้งปีอย่าให้เสียชาติเกิด เลิกแล้วเลิกเลย แถมยังมีอารมณ์ขันบอกว่า ตนเองอายุใกล้ฝั่ง ขึ้นเวทีอายุ 39 เวลาลงเวทีกลับ 60 กว่า
 
          กาเหว่าในรายการ บอกว่า ยามนี้ปล่อยชีวิตผ่านไปเหมือนสายน้ำ บางคนเห็นว่า ตัวเขาเคยล้มนึกว่าไม่ลุกแล้ว เขาได้กำลังใจ จาก นักจัดรายการชื่อ วังไพร ก้าน แก้วสุพรรณ และเพื่อนอีกหลายคน และค้นพบว่า ดื่มเหล้ามีแต่จมกับจม เมื่อเลิกเหล้าแล้ว ชีวิตเหมือนอยู่ไฟสว่าง สมองโล่ง เดี๋ยวนี้เขา เรียกอาจารย์ เมื่อก่อนเขาเรียก อาเจียน ไม่ได้ดื่มจะลงแดง
 
          และฝากขอบคุณที่แฟนเพลงเก่าๆ ยังชื่นชม ให้การสนับสนุน นักร้องรุ่นฟ้าผ่าไม่ตาย ดาวรุ่งพุ่งขึ้นสู่เมรุ ชีวิตต้องมีตลกๆ ไว้บ้าง ประกอบอาชีพร้องเพลง ทำขวัญนาค เรื่องทำขวัญนาคห้ามต่อราคา เพราะนั่งนานตะคริวจะกิน ถ้าร้องเพลงต่อราคาได้ สมัยก่อนตอนขี้เมา เหล้าแบนเดียวก็ไปร้องเพลงให้แล้ว
 
          และเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครทราบรายละเอียดคือ สมัยก่อนตอนเด็กๆ ชื่อ จ๊อด นครนายก หัว 11 แผล เพราะความซน ไม่ใช่นักเลง หนีออกจากบ้าน ตามคณะลิเกมาอยู่แถวบางบอน แต่ไม่ได้เล่นลิเก เพราะชอบร้องเพลง อายุ 17 ซัดเซพเนจรมาเป็นจับกังคลองเตย แบกปูน สารพัด ชอบดูวงดนตรี ที่ ปชส.7 ทั้งวง สุรพล ผ่องศรี เทียนชัย สมญาประเสริฐ และใฝ่ฝันจะเป็นนักร้อง
 
          ไปสมัครกับวงสุรพล ครูไม่รับ พอไปบ้านสมานมิตร เกิดกำแพง เขาไม่รับ เพราะนักร้องเต็ม ปทุมทิพย์ บัวตมะ (ภรรยาสมานมิตร)ทำกับข้าวอยู่ ก็ออดอ้อนว่า ถ้าครูไม่รับผมไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จนกระทั่งปทุม ตะโกนออกมาว่า รับเขาไว้ (เพราะสงสาร) ได้เป็นจับกังแบกกลอง
 
          กาเหว่าดังจากเพลง”หนุ่มเรือนแพ “ตอนที่อยู่กับวง เพลิน พรหมแดน แล้วไปหาครูไพบูลย์ บุตรขัน ที่ปทุมวัน เพลงนี้ดังมาจากแถวพิษณุโลก นครสวรรค์ ก่อนจะเข้ามาสู่ส่วนกลาง
 
          จากนั้นก็มีเพลง “บ้องกัญชา “ โดย ครูสุรินทร์ ภาคสิริ “หนาวใจไกลแฟน”โดย ครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา เพลง”แม่หม้าย”ของครูไพบูลย์ และเพลง “กาเหว่า” ที่แต่งโดยครูชาญชัย บัวบังศร เพลงหลังนี้ไปร้องที่ไหนคนแก่จะร้องไห้ เพราะเป็นเรื่องราวชีวิตของกาเหว่า เสียงทอง
 
          กาเหว่าฝากไว้ในรายการว่า การเป็นนักร้องนั้น ไม่ได้ง่ายเสมอไป เปรียบเหมือนไฟไหม้ฟาง ขอให้เน้นเรื่องคุณภาพ และเป็นนักร้องต้องเคารพครูบาอาจารย์ ชีวิตคนเรามีผิดพลาด คิดดีทำดี รับรองมีเงินใช้ตลอดกาล
 
          ตอนช่วงท้ายของรายการ ได้เห็นภาพกาเหว่าเสียงทอง ผูกผ้าขาวม้า นั่งตำน้ำพริกกะปิ เพราะอดีตเคยเป็นพ่อครัวให้เพลิน พรหมแดน เป็นภาพที่ประทับใจยิ่ง
 
          หวังว่า รายการนี้น่าจะได้นำตอน กาเหว่า เสียงทอง มาออกอากาศซ้ำอีกครั้ง โปรดติดตามกันให้ดี