บันเทิง

เปิดใจ'ศรเพชร'ย้อนอาชีพ'เชียร์รำวง'

เปิดใจ'ศรเพชร'ย้อนอาชีพ'เชียร์รำวง'

30 ก.ย. 2554

ย้อนอาชีพ 'เชียร์รำวง' หนุ่มนาเสียงเด็ด 'ศรเพชร ศรสุพรรณ'

          ศรเพชร ศรสุพรรณ ที่เป็นขวัญใจของแฟนเพลงทั่วประเทศกับลีลาแนวเสียงที่ไม่เหมือนใครในยุคนี้ เปิดใจ ย้อนกลับสู่อาชีพเดิมก่อนเข้าวงการ คือ "เชียร์รำวง" เชื่อมั่น คนลูกทุ่งไม่ทิ้งมหรสพประเภทนี้
 
          ศรเพชร ศรสุพรรณ หรือ บุญทัน คล้ายละมั่ง นักร้องหนุ่มใหญ่จากสุพรรณบุรี เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตปัจจุบันที่ได้เดินทางย้อนไปสู่อาชีพเริ่มแรกเข้าวงการอย่างหมดเปลือก เป็นครั้งแรกที่เปิดปากพูดถึงความเป็นมาอย่างละเอียด หลังจากที่ล้มป่วยด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดราว 3 ปี วันนี้กลับมาใหม่ด้วยสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง


*** ย้อนอดีตเริ่มแรกก่อนที่จะมาเป็นนักร้อง
          ตอนหนุ่มๆ ผมเชียร์รำวงอยู่ที่บ้าน จากนั้นก็บวช 15 วันสึกออกมาสมัครเป็นนักร้องอยู่กับพี่ดำ แดนสุพรรณ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม มาถึงตอนแรกเขายังไม่ให้ร้องเพลงเขากลัวร้องผิด เขาให้แบกกลองไปก่อน เมื่อก่อนนักร้องต้องผ่านการแบกกลอง ตู้เบส แล้วก็มาตีกลองทอม ตีฉิ่ง ตีฉาบบ้าง ดำ แดนสุพรรณ เขาดังหลายเพลง มีเพลง "รูปไม่หล่อพ่อไม่รวย" "ฆ่าก็ตายไม่ฆ่าก็ตาย" ผมอยู่มาจนได้ร้องเพลงแรก เป็นเพลงของธง อ่างทอง ชื่อเพลง "รักกันที่หัวใจ" เพลงนี้กำลังดังในช่วงนั้น ส่วนชื่อศรเพชร ศรสุพรรณ ผมเป็นคนตั้งชื่อเอง ผมมานอนแล้วไล่ตัวหนังสือ ช่วงนั้นมีชื่อสุรพล สมบัติเจริญ, ศรคีรี ศรีประจวบ, เมืองมนต์ สมบัติเจริญ ผมเขียนใส่หมอนไว้ ไล่มาว่ามีอักษรกี่ตัวผมก็ตั้งให้มีจำนวนตัวอักษรเท่าเขา


*** เพลงแรกที่บันทึกเสียงคือเพลงอะไร
          เพลงแรกที่บันทึกเสียงคือเพลง "หยิกแกมหยอก” เพลงแรกก็ติดเลย แต่ยังแบกกลองอยู่ที่วงเหมือนเดิม นักร้องสมัยก่อนต้องตีฉิ่ง ฉาบให้เป็น


*** แล้วอยู่ในวงกับดำ แดนสุพรรณ นานไหมกว่าจะมาตั้งวง
          พี่ดำไปเดินสายกับนายห้างประจวบ จำปาทอง ผมไม่ได้ไป พี่ดำเขารับงานไว้พิษณุโลก แต่ก็รับงานที่สุพรรณบุรีไว้อีกที่หนึ่งแล้วก็เอามัดจำเขามากินหมดแล้ว คือเขารับงานที่พิษณุโลกไว้ 2 หมื่น ที่สุพรรณ 7 พันบาท พี่ดำก็บอกให้ผมเป็นหัวหน้าวงแทน ผมก็บอกว่าไม่ได้พี่ ผมไม่มีเพลง เพิ่งร้องเพลงได้ 2 เพลงแค่นั้นเอง ยังไม่ค่อยมีชื่อเท่าไหร่ พี่ดำบอกไม่เป็นไรไปเหอะ เขาก็เตรียมทำสแตนด์ผมก็เตรียมจะหนี ผมไม่เอาผมไม่อยากเป็นหัวหน้าวง ภาระมันหนัก เขากักตัวผมเลย ตกกลางคืนใส่กุญแจไม่ให้ผมออกไปไหน กลัวผมหนีก็เลยตกกระไดพลอยโจนมาเป็นหัวหน้าวงจำเป็น


*** ความรู้สึกเป็นยังไงครับวันแรก
          สั่นครับ ประหม่าพูดอะไรไม่เป็นเลย ร้องเพลงผมไป 2 เพลงนอกนั้นร้องเพลงเมืองมนต์ สมบัติเจริญ หมดเลยประมาณ 7-8 เพลง เขาหาไป 7 พันผมปิดวิกเก็บเงินได้พันกว่าบาทสมัยก่อนก็ไม่น้อยนะ ตอนนั้นก็แยกมาเป็นวงดนตรีศรเพชร ศรสุพรรณ เต็มตัว


*** สมัยนั้นมีวงดนตรีของใครบ้างที่เคียงๆ กันมา
          ตอนนั้นมีของสดใส ร่มโพธิ์ทอง เขาก็อยู่วงพี่ดำ แดนสุพรรณ เหมือนกันเป็นเพื่อนกันดังคู่กันมา ยอดรัก สลักใจ มาทีหลังผม ไปเล่นที่ตาคลี ยอดรักตอนนั้นใช้ชื่อ ยอดรัก ลูกพิจิตร เขามารับเชิญที่วง สมัยนั้นพุ่มพวงออกจากวงไวพจน์มาก็เคยอยู่วงผม ตอนที่เขายังไม่ตั้งวงเอง ธีรพล แสนสุข (สามีพุ่มพวงคนแรก)เป่าแซกโซโฟน พุ่มพวงเขาก็เป็นหางเครื่องและก็ร้องเพลงที่วงผมด้วย ตอนนั้นเขาใช้ชื่อ น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ ร้องเพลงของผ่องศรีบ้าง และมีเพลงเขาเองบ้าง


*** ประสบความสำเร็จสูงสุดตอนไหน
          ตอนเพลง "ข้าวไม่มีขาย” ได้รับเสาอากาศทองคำพระราชทานเมื่อปี 2518 ครับ


*** ช่วงนี้กลับมาวงการเพลงอีกครั้ง ทำรำวงประยุกต์เป็นอย่างไรบ้าง
          เป็นวงมาตรฐานวงใหญ่ มีเวทีรำวงกว้างกว่า 20 เมตร ดนตรีใช้เครื่องสดๆ ทั้งหมด มีนางรำ ก็เหมือนกับว่าผมได้ย้อนไปเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาที่เริ่มเข้าวงการจากการเชียร์รำวง แล้ววันนี้ก็ได้กลับไปเชียร์รำวงอีกครับ
 
          สำหรับผู่ที่ต้องการจะติดต่อรำวงประยุกต์ หนุ่มนาเสียงเด็ด ศรเพชร ศรสุพรรณ ติดต่อได้ที่ 08-1294-0920