
อัลบั้มเดี่ยวในรอบ 10 ปี วันนี้ของ "โอ๋" ในชายคา "โซนี่"
หากใครอายุระหว่าง 27-45 ปี แน่นอนว่าจะต้องรู้จักนักร้องที่ชื่อ "โอ๋" ไอศูรย์ ไวทยานนท์ หนึ่งในสมาชิกวง "แกรนด์เอ็กซ์" ยุคหลัง หรือที่เรียกกันติดปากว่า "แกรนด์เอ็กซ์ขวดโหล" ตามชื่อผลงาน
ก่อนที่โอ๋จะหันมาทำอัลบั้มเดี่ยว พร้อมกับเล่นละคร โดยเฉพาะเพลง "ฉันจะบิน" ซึ่งใช้ประกอบละครเรื่องฉันจะบิน ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และทำให้หลายๆ คนรู้จักเขามากขึ้น ก่อนที่จะหายหน้าหายตาไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
หลังห่างหายจากการทำงานเพลงไปถึง 10 ปีเต็ม วันนี้ โอ๋ กลับมาออกอัลบั้มเดี่ยวอีกครั้ง ภายใต้สังกัด โซนี่ มิวสิค โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นแกรนด์เอ็กซ์ อย่าง "ไก่" สุธี แสงเสรีชน มารับหน้าที่โปรดิวเซอร์คู่ใจ
"ถ้าจะนับกันจริงๆ อัลบั้มชุดนี้ห่างจากชุดสุดท้าย 10 ปีพอดี เพราะหลังจากอัลบั้มเดี่ยว โอ๋ยังมีอัลบั้มพิเศษที่ทำร่วมกับเพื่อนๆ ออกมาเมื่อประมาณปี 1998 อีก แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจนะว่าจะกลับมาทำอัลบั้ม เพราะครบรอบ 10 ปี ด้วยความที่ หลังจากโอ๋กลับมาจากเรียนโทที่สหรัฐ ก็มาทำงานเป็นผู้ประกาศข่าว เป็นดีเจรายการวิทยุ มาทำบริษัทคุณกิ๊ก (อนิศ โอสถานุเคราะห์) ทำให้ค่อนข้างยุ่งมาก" โอ๋เริ่มต้นเล่าให้ฟัง ก่อนจะพูดถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ลุกขึ้นมาทำงานเพลงอีกครั้งให้ฟังว่า
"โอ๋มีโอกาสไปเจอคุณมิก (เชษฐา ยารสเอก นักแต่งเพลงชื่อดัง) เขาเล่าให้ฟังว่า เขาเคยร้องเพลงสายใย ประกวดตอนเรียนมหาวิทยาลัย คือเป็นเหมือนแฟนคลับเรา ซึ่งโอ๋ก็บอกไปว่า โอ๋ก็เป็นแฟนคลับมิก เพราะมิกแต่งเพลงเพราะๆ ไว้เยอะมาก คุยไปคุยมามิกก็ชวนทำอัลบั้ม ตอนแรกก็ปฏิเสธไป จนวันหนึ่งมิกเอาเพลงชื่อฝากชีวิต ที่แต่งเก็บไว้มาให้ฟัง พอฟังครั้งแรกโอ๋ก็ตกใจ มันเพราะมาก แล้วหลังจากนั้นมิกก็เอาเพลงขอกลับมา ซึ่งเป็นเพลงแรกที่ใช้โปรโมท แล้วก็เป็นเพลงประกอบละครมนตราแห่งรัก และเพลงรักเธอไม่สิ้นสุด มาให้ฟังอีก ก็ตัดสินใจที่จะทำงานกับมิกตั้งแต่ตอนนั้น"
นอกจาก "มิก" เชษฐา แล้ว ในอัลบั้มนี้ โอ๋ยังได้เพื่อนๆ ในวงการ ทั้งเพื่อนมิก เพื่อนของตัวเขาเอง รวมถึงลูกของรุ่นพี่ในวงแกรนด์เอ็กซ์ อย่างนคร เวชสุภาพร มาช่วยกันทำงานเพลงให้อีกด้วย
"ก็มีหลายๆ คนมาช่วย ทั้ง ป๋วย พีทูวอร์ชิพ เดอะ มัสต์ (กฤชยศ เลิศประไพ) บอย โกสิยพงษ์ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ โอ เจ็ทเซ็ทเตอร์ ก้อ กรู๊ฟไรเดอร์ส เควิน วงเดอะ บีกินส์ นอกจากนี้ อ.เนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์ ผู้แต่งเพลงสายใย ในช่วงที่โอ๋ร้องไว้ในวงแกรนด์เอ็กซ์ ก็กรุณาที่ให้เพลงนี้มาทำใหม่ รวมถึงพี่เสือ (ธนพล อินทฤทธิ์) ที่แต่งเพลงฉันจะบิน และอาร์เอส ต้นสังกัด ที่อนุญาตให้นำเพลงมาทำใหม่เช่นกัน
อัลบั้มนี้เราทำกันมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ใช้เวลานานมาก เพราะทำๆ หยุดๆ ด้วยความที่ตัวโอ๋เองก็ทำอะไรหลายอย่าง เราทำงานกันเสร็จแล้วจึงไปคุยกับทางโซนี่ เพราะจริงๆ อัลบั้มนี้ทำในนามบริษัท บลูมบ็อกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่โอ๋เปิดร่วมกับกิ๊ก เป็นบริษัทที่ทำงานด้านสื่อ และรายการโทรทัศน์ พอโอ๋จะมาทำงานเพลง ก็เลยอยากทำกับบริษัทตัวเอง
ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะไปอยู่ในค่ายเพลงเลย ตั้งใจว่าจะทำเอง ขายเอง พอทำไปเรื่อยๆ หลายๆ คนก็แนะนำให้ไปเสนอค่ายเพลงดีกว่า เพราะจะเหนื่อยน้อยกว่า อีกอย่างทำเพลงทั้งทีก็น่าจะให้คนรู้จักหน่อย ถ้าอยู่ค่ายเพลงก็จะมีเรื่องของสื่อเข้ามาช่วย เพื่อนๆ หลายๆ คนของโอ๋ก็ทำงานอยู่ที่โซนี่ มิวสิค รวมถึงน้องโต๋ หรืออย่างไก่ ก็ทำงานให้โซนี่ฯ เลยเป็นที่มาตรงนี้"
โอ๋ยังแจกแจงถึงงานในอัลบั้มนี้ให้ฟังอีกว่า มีทั้งหมด 8 เพลง โดยในซีดีจะมีทั้งหมด 7 เพลง อีก 1 เพลงจะเป็นเพลงพิเศษที่จะลงไว้ในไฮไฟว์ของตัวเขา ซึ่งสามารถเข้าไปฟังได้ที่ o-aisoon.hi5.com
"ในอัลบั้มจะมีเพลงละคร 2 เพลง คือ เพลงขอกลับมา และเพลงคำถาม อีก 3 เพลงก็มี ฝากชีวิต เพลงรักเธอไม่สิ้นสุด อีกเพลงก็จะเป็นเพลงที่น้องสาวที่รู้จักอายุ 19 ปี เรียนอยู่ที่นิวซีแลนด์ แต่งเพลงเล่นดนตรีได้ แถมหน้าตาดี เป็นศิลปินได้เลย เอาเพลงที่ทำไว้มาเล่นให้ฟัง ก็เลยได้มาอีก 1 เพลง คนนี้ไม่แน่โอ๋อาจจะได้มาเป็นศิลปินของบลูมบ็อกซ์ด้วย
รวมถึงยังมีเพลงเก่า 2 เพลงนำมาทำใหม่คือ เพลงฉันจะบิน มาทำเป็นเวอร์ชั่นเร็กเก้ ได้พี่แอ็ด (ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ หัวหน้าวงเพื่อน อดีตมือเบสวงแกรนด์เอ็กซ์) มาทำให้ และเพลงสายใย ซึ่งเมื่อก่อนเป็นเวอร์ชั่นบิ๊กแบนด์เต็มวง มาทำใหม่ให้เบาลง นิ่งขึ้น มีโต๋เป็นผู้เรียบเรียงใหม่ ส่วนโอ๋อัลบั้มนี้จะรับหน้าที่เป็นเอ็กเซ็กคูทีฟโปรดิวเซอร์"
ถามต่อถึงทิศทางของดนตรี โอ๋บอกว่า จะเป็นดนตรีป๊อป อีซี่ลิสเซนนิ่ง ที่มีรายละเอียดดนตรีเยอะมาก เยอะกว่าอัลบั้มชุดก่อนๆ ที่เคยทำมา ส่วนการบันทึกเสียงก็จะมีทั้งการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป และการเล่นสด
ส่วนเรื่องการร้องที่ห่างหายไปนาน โอ๋ยอมรับว่าต้องเข้าคอร์ส ฟิตร่างกายให้พร้อม โดยก่อนเข้าห้องอัด 3-4 เดือน จะไปว่ายน้ำทุกวัน ตามคำแนะนำของไก่ สุธี แต่ไม่ได้ไปเรียนร้องเพิ่มอะไร เพราะทำงานด้านนี้มานานแล้ว
"บางคนบอกว่า การร้องของโอ๋เปลี่ยนไป แต่ตัวโอ๋ไม่คิดว่าเปลี่ยนนะ แต่อาจจะใช้ลมในการร้องมากขึ้น โดยมีไก่เป็นคนไกด์ เราเป็นเพื่อนกัน เขาก็จะรู้ว่าโอ๋มีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร เขาก็จะมาดีไซน์การร้องให้ใหม่ คือการร้องอัลบั้มนี้จะเน้นอารมณ์เป็นจุดสำคัญ เพราะเป็นเพลงรักทั้งหมด โอ๋กล้ายืนยันเลยว่า เพลงในอัลบั้มนี้อารมณ์การร้องจะเข้าถึงมาก ด้วยอายุ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา จากเมื่อก่อนที่เวลาร้องจะมาจากจินตนาการทั้งหมด เพราะยังเด็ก ไม่ได้ผ่านเรื่องราวอะไรมากมาย ไม่เหมือนในอัลบั้มนี้ บางเพลงอยู่ในห้องอัด ร้องแล้ว ร้องไห้เลย โอ๋กลับมาครั้งนี้ เพราะอยากให้ทุกคนมีความสุข หลายคนอาจจะมองการทำอัลบั้มเป็นธุรกิจ แต่โอ๋ไม่ได้คิดขนาดนั้น เพราะโอ๋ทำเพราะมีความสุข ได้ร้อง ได้ทำให้คนฟังที่เป็นแฟนคลับได้ยิ้ม ผลตอบรับทางธุรกิจก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนทำเพลงสมัยนี้ต้องทำด้วยใจ โชคดีบริษัทเราทำงานด้านอื่นด้วย"
นอกจากอัลบั้มนี้ ประมาณเดือนมิถุนายน แฟนเพลงของโอ๋เตรียมไปสนุกกับเขาได้ ในคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยเรื่องรายละเอียด