
บทไม่ผ่านวู ซึง ยอนดาราเกาหลีฆ่าตัว
ช็อก "วู ซึง ยอน" ดาราสาวเกาหลีใต้ผูกคอตาย ผิดหวังไม่ผ่านทดสอบบทหนังเรื่องล่าสุด ทิ้งโน้ตข้อความฝากก่อนลาโลก "ฉันรักครอบครัวของฉัน ฉันเสียใจมากที่ต้องจากไปก่อนกำหนด" ส่วนพระเอกเกาหลีใต้ "จู จี ฮุน" ส่อหมดอนาคต หลังถูกจับเสพยา ถูกถอดจากบทภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์
วงการบันเทิงเกาหลีต้องพบกับการสูญเสียอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้มีดาราสาวชื่อดังฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุต่างๆ รายล่าสุด วู ซึง ยอน วัย 26 ปี ดาราสาวเกาหลีใต้ ก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายเนื่องจากภาวะทางความเครียด
เมื่อวันที่ 28 เมษายน สำนักข่าวโคเรีย ไทม์ส รายงานว่า วู ซึง ยอน ดาราสาวเกาหลีใต้ วัย 26 ปี ที่รับบทนางรองในภาพยนตร์เกาหลีใต้หลายเรื่อง และยังเป็นนางแบบ เสียชีวิตแล้วที่บ้านพักทางใต้ของกรุงโซล โดยพบร่างดาราสาวผู้นี้ในสภาพผูกคอตาย พร้อมโน้ตมีข้อความว่า "ฉันรักครอบครัวของฉัน ฉันเสียใจมากที่ต้องจากไปก่อนกำหนด"
จากการสอบถามสมาชิกครอบครัวและเพื่อนๆ ของดาราสาวผู้นี้ บอกว่า วู ซึง ยอน อยู่ในภาวะเครียดรุนแรง หลังจากไม่ผ่านทดสอบการแสดงใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตว่า เป็นการฆ่าตัวตาย
การฆ่าตัวตายของ วู ซึง ยอน นับเป็นดาราเกาหลีใต้รายล่าสุดที่ก่อเหตุอัตวินิบาตกรรมที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ ตั้งแต่ ชอย จิน ซิล, อัน เจ ฮวาน และจาง จา หยอน และนับเป็นการสูญเสียอีกครั้งของวงการบันเทิงเกาหลีใต้
วู ซึง ยอน เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1983 โด่งดังจากการเป็นออลจัง ท็อป 5 หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า เป็นนักเล่นอินเทอร์เน็ตชาวเกาหลีที่มีหน้าตาน่ารัก จนได้รับความนิยม หลังจากนั้นก็มีโอกาสเข้าสู่วงการบันเทิงโดยการเป็นนางแบบ ภายหลังผันตัวมารับงานแสดงในภาพยนตร์เรื่อง "Herb" รวมถึงซิทคอมเรื่อง "Yap" โดยบทบาทล่าสุดที่เธอปรากฏตัว คือ ในภาพยนตร์เรื่อง "Private Eye" ซึ่งเพิ่งจะผ่านสายตาชาวเกาหลีไปเมื่อไม่นานมานี้
ส่วนความคืบหน้าคดีนักแสดงหนุ่ม จู จี ฮุน และนักแสดงสาว ยุน ซอล ฮี พร้อมดารานายแบบ เย ฮัก ยอง ถูกจับกุมขณะเสพยาในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่งเมื่อกลางดึกวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศรายงานว่า แม้ดาราสาว ยุน ซอล ฮี จะเป็นตัวการหลักของการก่อเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา แต่นักแสดงหนุ่ม จู จี ฮุน ถือเป็นดาราที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักมากที่สุด ทำให้ตกเป็นเป้าความสนใจในเรื่องนี้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เกิดความสับสนในเรื่องจริงที่ว่า จู จี ฮุน ไม่ได้ถูกจับในข้อหาขนยาเสพติด ซื้อ-ขาย หรือมีไว้ในครอบครอง แต่ดาราหนุ่มถูกตั้งข้อหาเสพยาเท่านั้น
ทั้งนี้ ยุน ซอล ฮี ถูกจับเมื่อวันที่ 26 เมษายน ในข้อหาลักลอบขนยาอี (เอ็กซ์ตาซี) และยาเค (เคตามิน) จากญี่ปุ่นเข้าประเทศ ก่อนจะนำไปขาย และยังถูกระบุด้วยว่า เดินทางเข้า-ออกเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นถึง 14 เที่ยว ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม 2550 และเดือนธันวาคม 2551 ขณะเดียวกัน นายแบบหนุ่ม เย ฮัก ยอง ก็ถูกจับฐานเป็นคนให้เงิน ยุน ซอล ฮี นำไปซื้อยาเสพติด และทั้งสองคนก็เสพยาด้วย
มีรายงานว่า จู จี ฮุน ถูกสอบปากคำเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ไม่ถูกควบคุมตัวพร้อมกับคนนอกวงการอีก 2 คน โดยก่อนหน้านี้ดาราหนุ่มเคยถูกจับข้อหาเสพยาในงานปาร์ตี้ 2 งานด้วยกัน เมื่อเดือนมีนาคม 2551 อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยมีคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงหลายคนพัวพันการใช้ยาเสพติด แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีดาราสาวเข้าไปพัวพันทั้งการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายด้วย ซึ่งตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบคำรับสารภาพของ ยุน ซอล ฮี ที่ว่า ยังมีคนอื่นๆ อีก 15 คน เป็นลูกค้าของเธอ และตรวจสอบบันทึกการใช้โทรศัพท์ของยุน ซอล ฮี ด้วย
จากการเปิดเผยของตำรวจพบว่า มีชื่อคนดังที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่างน้อย 2 ชื่อ มีรายงานบางกระแสระบุว่า มีคนในวงการบันเทิง 7 หรือ 8 คน แต่บางกระแสบอกว่ามี 5 คน ในจำนวนนี้มีนักร้องยอดนิยมคนหนึ่งที่ถูกระบุว่า ออกรายการทอล์กโชว์บ่อยครั้ง และมีสมญาว่า "กดมินัม" หรือ หนุ่มหน้าสวย ที่เหลือก็เป็นพนักงานบาร์ ส่วน ยุน ซอล ฮี ถูกระบุว่า ลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศและผ่านการตรวจของศุลกากร ด้วยการยัดไว้ในผ้าอนามัยแบบพิเศษสองชั้นที่เธอติดไว้กับกางเกงชั้นใน เกี่บวกับเรื่องดังกล่าว ชาวเกาหลีใต้ต่างไม่เข้าใจว่า เหตุใด ยุน ซอล ฮี ถึงกล้าทำเรื่องที่เสี่ยงแบบนี้ แต่เพื่อนบอกว่า ดาราสาวกำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สินที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทำให้อนาคตของ จู จี ฮุน ในวงการบันเทิงอาจจบลง เพราะดาราหนุ่มถูกถอดจากภาพยนตร์รีเมคเรื่อง โตเกียว ทาวเวอร์ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเรื่องอื้อฉาวนี้ถูกสื่อญี่ปุ่นเอาไปเสนอข่าวครึกโครม และทางผู้สร้างเตรียมหานักแสดงใหม่มาเสียบแทน เพื่อถ่ายทำในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคม หรือไม่ก็ต้นเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้ แผนการของ จู จี ฮุน ที่เตรียมจะจัดมีตติ้งกับแฟนๆ ชาวญี่ปุ่น 2 ครั้ง ในวันที่ 15 พฤษภาคม ที่โอซากา และวันที่ 16 พฤษภาคม ที่โยโกฮามา อาจถูกยกเลิก ทั้งที่บัตรเข้างานขายหมดตั้งแต่วันแรก และการยกเลิกครั้งนี้อาจส่งผลให้มีการฟ้องร้องกันทางกฎหมาย เช่นเดียวกับภาพยนตร์ 2 เรื่องล่าสุดของเขา ที่มีกำหนดฉายที่ญี่ปุ่นก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย