
'ไจ่ไจ๋'กับประสบการณ์โรคซึมเศร้าในอดีต
'ไจ่ไจ๋'กับประสบการณ์โรคซึมเศร้าในอดีต:เอเชียเอ็นเตอร์เทนเม้นท์
ผ่านมาแล้วกว่า 10 ปี หลังจากที่แจ้งเกิดได้อย่างสวยงามในละครเรื่อง “รักใสใส หัวใจสี่ดวง” นับวัน ไจ่ไจ๋ หรือ โจวอี๋หมิน หนุ่มน้อยหน้าใสในวันวานแห่งวง เอฟโฟร์ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนความสดใสเป็นหมองหม่น ดูไร้แววแห่งความสุขมากยิ่งขึ้นทุกทีๆ แม้จะมีผลงานให้แฟนๆ ได้ชื่นชมมากมายไม่มีขาด แต่ความหมายของการเป็นนักแสดงกลับยิ่งไกลห่างในความรู้สึกของ ไจ่ไจ๋ ยิ่งนัก จนครั้งหนึ่งเจ้าตัวต้องตัดสินใจเข้ารับการรักษาอาการซึมเศร้า จากวันนั้นถึงวันนี้ ไจ่ไจ๋ กล้าตอบได้เต็มปากเต็มคำแล้วว่า เขารักการแสดง และไม่มีอาการของโรคซึมเศร้าหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
0เล่าให้ฟังหน่อย ทำไมคุณจึงไม่มีความสุขกับการทำงานในวงการบันเทิงจนทำให้เกิดอาการซึมเศร้า
ไจ่ไจ๋ : “แม้ผมจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดตัว ผู้คนรอบตัวต่างยกยอ ให้การปฏิบัติดีต่อผมมากมาย แต่ภายในใจลึกๆ ของพวกเขาเหล่านั้น กลับไม่เคยยอมรับความสามารถของผมเลย โดยเฉพาะคนในวงการกันเอง ที่มักจะคิดว่า ผมเป็นแค่แจกันสวยๆ ใบหนึ่ง เป็นนักร้องก็ไม่ใช่จะเป็นนักแสดงก็ไม่เชิง สิ่งที่ทำให้ผมโกรธไม่ใช่เพราะถูกปรามาส แต่ผมโกรธตัวเองที่มีความสามารถดีไม่พอจะลบคำสบประมาทของพวกเขาได้ คุณอาจจะไม่เชื่อก็ได้ แต่ผมเฝ้าภาวนาให้สัญญาหมดลงเร็วๆ เพื่อจะได้ออกจากวงการเสียที”
0ช่วงที่แย่ที่สุดมีอาการเป็นอย่างไร และผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้อย่างไร
ไจ่ไจ๋ : “ช่วงที่แย่ที่สุด น่าจะเป็นช่วงราวๆ ปี 2005 อาการแย่ถึงขนาด ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ไม่กลัวกระทั่งความตาย คิดอยากจะจบชีวิตให้เร็วๆ โชคดีที่ผมมีเพื่อนดีๆ คอยให้คำปรึกษา ผมจึงผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มาได้ มาถึงวันนี้คงต้องขอบคุณเพื่อนๆ เหล่านั้นที่ช่วยรับฟัง ให้โอกาสผมได้ระบายและช่วยทำให้ทัศนคติที่เลวร้ายของผมค่อยๆ ลดลงไป แม้ผมจะไม่อาจยอมรับว่าสามารถปรับตัวเข้ากับวงการบันเทิงได้อย่างเต็มที่แล้ว แต่อย่างน้อยผมก็พบวิธีที่จะอยู่ในวงการนี้ได้อย่างเป็นสุข”
0รู้สึกเริ่มรักการแสดงตั้งแต่เมื่อไหร่
ไจ่ไจ๋ : “หลังจากที่ได้มีโอกาสเล่นละครเรื่อง “มาร์ส สิงห์รักนักบิด” ก็ทำให้ผมเข้าใจอะไรๆ มากขึ้น ก่อนหน้านั้น ผมคิดอย่างเดียวว่าถ้าจบสัญญา 3 ปีเมื่อไหร่ ผมจะบอกลาวงการบันเทิงทันที แต่ละครเรื่องนี้กลับให้โอกาสผมในการสลัดภาพแจกันของตัวเองออกไป ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เริ่มรักการแสดง เริ่มตั้งเป้าหมายในอาชีพ และก็เริ่มเข้าใจว่ามันไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในช่วงเวลาสั้นๆ จากปีก็เป็นสองปี แล้วก็ผ่านมาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ ผมก็พยายามไปให้ถึงจุดมุ่งหมายนั้นอยู่”
0ถ้าอย่างนั้น เป้าหมายของคุณคืออะไร
ไจ่ไจ๋ : “ผมหวังว่าสักวันหนึ่ง ทุกคนจะรู้จัก “ไจ่ไจ๋” และเข้าใจว่าผมคือนักแสดงที่เป็นตัวของผมเองจริงๆ ผมอยากเป็น “ไจ่ไจ๋” ที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้ามาแทนที่ ผมอยากเป็นเหมือนที่ซูเปอร์สตาร์อย่าง โจรซิงฉือ หรือหลิวเต๋อหัว เป็น ผมเชื่อว่ามันยังมีหนทางอีกยาวไกลให้ต้องพัฒนา แต่ผมจะก้าวไปอย่างช้าๆ อย่างมั่นคงครับ”
0ทุกวันนี้หายจากโรคอาการซึมเศร้าหรือยัง
ไจ่ไจ๋ : “ที่เห็นผมผอมซูบลงไป มันเป็นผลพวงมาจากการถ่ายละครเรื่อง “Returning Home” ซึ่งเป็นละครเกี่ยวกับสงคราม ตัวละครที่ผมได้รับค่อนข้างเครียดและเก็บกด มันเลยทำให้ผมไม่อยากอาหารแล้วก็น้ำหนักลด แต่ไม่เกี่ยวกับอาการโรคซึมเศร้า ตอนนี้ผมก็กำลังเข้ารับการรักษาจากแพทย์แผนจีนอยู่เพื่อช่วยให้กลับมาเจริญอาหารเหมือนเดิม ไม่ได้ป่วยหรืออาการทรุดลงแน่นอนครับ”
ได้ยินเช่นนี้ หวังว่าทุกคนคงจะสบายใจ และอวยพรให้ ไจ่ไจ๋ ทำงานอย่างมีความสุขในวงการบันเทิงได้ไปอีกนานๆ ล่ะกันจ้า