สร้างชาติ...เริ่มที่...สร้างฅน | คมชัดลึก

          เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้รับเชิญจาก คุณสมชาย เจริญอำนวยสุข ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ไปร่วมงานประชุม “สร้างฅน สร้างชาติ” ซึ่งเป็นการประชุมวิชาการประจำปี 2554 ที่ ห้องแกรนด์ไดมอน บอลรูม อาคารคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้น ส่งเสริม และสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักในความสำคัญของการพัฒนาคนและมีส่วนร่วมในการแสดงความรับผิดชอบต่อการพัฒนาคนทุกกลุ่มวัย รวมถึงกลุ่มบุคคลที่ด้อยโอกาสในสังคม  แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การปฏิบัติงานด้านการพัฒนาคน ฯลฯ
 
          ทั้งนี้ ข้าพเจ้าได้รับเกียรติให้บรรยายพิเศษเรื่อง “คิด + มุ่งมั่นพัฒนาคนและสังคม” เพื่อให้ผู้ฟังและเพื่อนร่วมงานได้ทราบและตระหนักในความสำคัญเห็นประโยชน์ของพลังความคิดด้านบวกที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนในสังคมกับงาน CSR
 
          “...อย่าปล่อยให้ปัจจุบันขณะของเรามีแต่ความคิดผิด จงกลับไปดูแลใจเรา เพื่อให้งานศักดิ์สิทธิ์ เพราะจิตไม่ขุ่นมัว ชีวิตศักดิ์สิทธิ์ เพราะจิตหลุดพ้น เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ความศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้...สังคมระดับปัจเจกที่ดีที่สุดคือบ้าน บ้านคือห้องเรียนห้องแรก ดังนั้นจึงควรกลับไปดูแลคนในบ้านให้มีความสุข สังคมมหภาคจึงมีความสุขไปด้วย สังคมต้องการเพื่อนร่วมทุกข์ ซึ่งช่วยกันยกระดับจิตวิญญาณของกันและกัน...”
 
          หลังการบรรยาย คุณสมชายซึ่งได้ชมธรรมโฆษณาเกี่ยวกับการพัฒนาจิตเมื่อถูกโลกมากระทบ แต่รู้ทันกระเทือน ก็จะไม่กระแทกให้ใครเจ็บปวด เพื่อให้เห็นว่าการทำงานที่เป็นฐานแห่งการภาวนาร่วมกันนั้นต้องอาศัยการดูแลจิตใจ ที่ข้าพเจ้าได้นำเสนอระหว่างการบรรยาย  ได้ให้เจ้าหน้าที่มาติดต่อขอนำธรรมโฆษณาไปเผยแพร่ในส่วนต่าง ๆ ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เข้าไปสงเคราะห์ เพราะตระหนักดีว่าการสงเคราะห์คนต้องสงเคราะห์ทั้งกายและใจ ข้าพเจ้าจึงได้เชื้อเชิญให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาทำงานร่วมกับเสถียรธรรมสถาน โดยอัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง อภิมหาอันตรายของประเทศไทยและของโลกกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักในการทำงาน โดยอภิมหาอันตรายดังกล่าวสามารถสรุปได้ 3 ประเด็น คือ
 
          การมีประชากรหนาแน่นเกินไป, วัตถุนิยมบริโภคนิยมมากเกินไป  และ คุณธรรมความดีน้อยเกินไป ด้วยสาเหตุมาจาก 2 ข้อแรก ถ้าของมีมากพอสำหรับทุกคน ก็จะไม่เกิดการแย่งชิงกันเท่าไร  สมัยก่อนการแย่งชิงทรัพยากรมีน้อย เพราะมีทรัพยากรมากพอ  ปัจจุบันทรัพยากรเหลือน้อย ทั้งถูกทำให้เสื่อมโทรม บวกกับวัตถุนิยมบริโภคนิยมมากเกินขอบเขต ทำให้ต้องแก่งแย่งแข่งขันต่อสู้แย่งชิงกันมากขึ้น ผู้คนนำลักษณะนิสัยส่วนที่ไม่ดีในจิตใจออกใช้ ได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความเกลียด  ความเห็นผิดเป็นชอบ ความยึดถือตัวตน ความเห็นแก่ตัว ความมีทิฏฐิมานะ และความไม่ดีอื่นๆ  แต่ส่วนที่เป็นคุณธรรมความดีซึ่งเป็นพื้นฐานอยู่ในทุกคน ได้แก่ ความรัก ความเป็นมิตร  ความมีเมตตาไมตรี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความซื่อสัตย์สุจริต ความรักความยุติธรรม การมุ่งประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว  ความมีกตัญญูรู้คุณ ความรู้จักพอดีพอประมาณ  เป็นต้น  กลับถูกลดทอนความสำคัญ ไม่ถูกนำออกมาใช้ ไม่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนมากพอ คุณธรรมความดีในตัวคนและในสังคมจึงเสียดุลมากขึ้นๆ เมื่อเทียบกับความไม่ดี
 
          ทั้งนี้ เสถียรธรรมสถานได้ชักชวนให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาร่วม “สร้างฅน สร้างชาติ” ด้วยการ “สร้างชาติ...เริ่มที่...สร้างฅน” โดยการทำงานเชิงลึก คือการสร้างให้เยาวชนของเราเป็นบุคคลที่มีสติปัญญา...ก้าวย่างอย่างมีปัญญา ซึ่งก็คือ งานค่ายเยาวชน SOS - Seeds Of Spirituality ครั้งที่ 9 “ก้าวย่างแห่งปัญญา” ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ ข้าพเจ้ายังได้นำเสนอเรื่องการตามหารอยยิ้มเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการ ก้าวย่างแห่งปัญญาสร้างศรัทธาสร้างรอยยิ้มถวายพ่อ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา อีกด้วย
 
          สนใจเป็นส่วนหนึ่งงานค่ายเยาวชน SOS - Seeds Of Spirituality ครั้งที่ 9 “ก้าวย่างแห่งปัญญาสร้างศรัทธาสร้างรอยยิ้มถวายพ่อ” ติดตามรายละเอียดได้ที่นี่ และที่ www.sdsweb.org <http://www.sdsweb.org>

"ธรรมสวัสดี"