มิตรภาพและดนตรีคอนเสิร์ต10ปี'โปเตโต้' | คมชัดลึก

          ความมหัศจรรย์ของวงดนตรีหนึ่งวง ไม่สามารถได้รับการยอมรับเพียงแค่ชั่วข้ามคืน แต่ต้องใช้ความพยายามและความตั้งใจอย่างมาก เพื่อให้ได้รับการยอมรับนั้น ซึ่งวง “โปเตโต้” สามารถพิสูจน์เรื่องราวข้างต้นได้เป็นอย่างดี เพราะพวกเขาสามารถยืนหยัดอยู่ในแวดวงการเพลงมาถึง 10 ปี ทั้งที่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา วงนี้ถือเป็นวงที่มีปัญหาเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสมาชิกอยู่ตลอด ซึ่งในวันเสาร์ที่ 24 กันยายนนี้ 3 หนุ่มสมาชิกปัจจุบันนของวง ได้แก่ ”ปั๊บ”พัฒนชัย ภักดีสู่สุข “โอม” ปิยวัฒน์ อนุกูล และ กานต์ อ่ำสุพรรณ จะเปิดคอนเสิร์ตที่รวมเอาทุกความทรงจำใน 10 ปีของพวกเขากลับมาพร้อมมิตรภาพที่ไม่เคยจางหายในคอนเสิร์ตกลางแจ้ง “โปเตโต้ ไลฟ์ โก ออน (potato live go on)” ณ สนามเวโลโดม หัวหมาก โดยพวกเขาได้มาพูดถึงคอนเสิร์ตในครั้งนี้
 
          “มันก็สิบปีแล้ว จริงๆ วันที่จะเล่นคอนเสิร์ตในตอนแรก ผมไม่ได้คิดหรอกว่ามันเป็นคอนเสิร์ต 10 ปี เพียงแต่ว่าเราเอาความรู้สึกที่เรายังอยากทำงานอยู่ มาเป็นแรงบันดาลใจมากกว่า ไลฟ์ โก ออน มันคือเราจะต้องไปต่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันคอนเสิร์ต มันเหมือนว่าเราหยุดแล้วมารวมตัวกัน เพื่อที่จะมาระลึกถึงความหลังกัน 10 ปี ที่เราผ่านมา เพราะฉะนั้นความพิเศษอยู่ที่บทเพลงที่มันพิเศษมากๆ ที่เราจะได้มาร้องด้วยกัน และที่สำคัญคือแขกรับเชิญที่เป็นเพื่อนเก่า ที่ไม่ได้อยู่วงแล้ว เราจะพยายามเอามาเล่นด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ รวมถึงแขกคนพิเศษที่พวกเราอยากให้เขาขึ้นมาอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตนี้กับพวกเรา” ปั๊บเล่าถึงความพิเศษคนเสิร์คนี้ก่อนจะเสริมต่อว่าคอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ที่สุดของพวกเขา
 
          “ครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตครั้งที่เรียกว่าใหญ่ที่สุด เราเคยมีคอนเสิร์ตเดี่ยวมาสองครั้ง แต่ไม่ได้ใหญ่เท่าครั้งนี้ คอนเสิร์ตนี้เลยเป็นคอนเสิร์ตที่เรียกว่าเต็มสตรีมมากที่สุด จะบอกว่า 10 ปีที่ผ่านมาเราอาจเป็นวงที่ไม่ได้มีคอนเสิร์ตใหญ่มากเท่ากับวงอื่นๆ เพราะว่าพวกเราเป็นวงที่ตัดเสื้อพอดีตัว วันนี้เรารู้สึกว่าเรามีแฟนเพลงมากขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา เราเลยจัดคอนเสิร์ตให้ใหญ่ขึ้น แต่เรื่องของความเต็มที่ไม่ว่าคอนเสิร์ตจะเล็กจะใหญ่ พวกเราเต็มที่กับทุกคน เพราะว่าคนที่มาดูคอนเสิร์ตเราเขาเต็มที่จะมาดูเรา” ปั๊บเล่าต่อ
 
          โดยโอมได้พูดถึงวิบากกรรมของโปเตโต้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาถือว่าพวกเขาเป็นวงร็อคที่มีการเปลี่ยนสมาชิกมากที่สุดวงหนึ่งเลย
 
          “วงเราไม่ได้เป็นวงที่เดินบนทางที่โรยตัวกลีบกุหลาบ เราผ่าฟันมาด้วยกัน ทั้งที่เรามาจากต่างที่ เราไม่ได้เป็นวงที่เรียนมาด้วยกัน ไม่ได้เริ่มต้นมาพร้อมกัน มันเหมือนเราถูกเอามาร่วมผสมไว้ด้วยกัน เพราะฉะนั้นวันหนึ่งเมื่อเราโตขึ้น ทัศนคติเริ่มแตกต่างกัน ซึ่งเราก็เคารพในทัศนคติของแต่ละคน ไม่ใช่ว่าบางคนมีหนทางที่จะไปอีกแบบ แต่เราจะกักเขาไว้กับเรา มันเป็นไปไม่ได้ เพราะสิ่งสำคัญที่จะทำให้วงซึ่งเป็นความฝันของพวกเราเดินหน้าต่อไปได้ คือเราต้องมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ก็คือว่า พวกผมรู้สึกว่าเรายังอยากทำโปเตโต้อยู่ เรายังมีความสามัคคีในการทำงาน เราทำทุกอย่างด้วยใจ เราไม่ได้ทำด้วยผลประโยชน์” โอมแจกแจง ก่อนจะย้ำว่าคอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ต 10 ปีที่พวกเขาอยากแสดงให้ทุกคนเห็นมิตรภาพของ “โปเตโต้” 

          “คอนเสิร์ตนี้เป็นการรวมเพื่อนและมิตรภาพเก่าๆ กลับมา เพราะเราคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่เรารู้สึกว่าแฟนๆ หลายคนคิดถึง รวมถึงตัวพวกเราเองด้วย เมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ วันเวลาทำให้พวกเรารู้สึกว่าพวกเราคิดถึงเพื่อนเก่าๆกัน ไม่ใช่ว่าเรามายืนตรงนี้ แล้วเราลืมพวกเขาไปแล้ว เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกเลยว่าคอนเสิร์ตนี้จะเป็นคอนเสิร์ตที่เราจะให้เพื่อนเก่าๆ กลับมาขึ้นเวทีเดียวกัน”โอมเผย

          ซึ่งทั้งสามหนุ่มยังย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงสมาชิกของวงที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เกิดจากปัญหาความขัดแย้ง เพราะสำหรับพวกเขาแล้วมิตรภาพและความเป็นเพื่อนของพวกเขาไม่เคยจางหายไป และคอนเสิร์ตนี้จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าความเป็นเพื่อนของพวกเขายังคงเหมือนเดิมตลอด

          “ตลอด 10 ปีพวกเราไม่เคยมีปัญหากันเลย แต่การที่สมาชิกบางคนต้องไปจากวง เพราะว่าแต่ละคนก็มีทางเลือกที่จะเดินบนเส้นทางของตัวเอง ถ้าถามว่าความหมายของคอนเสิร์ตนี้ของพวกเราคืออะไร ผมบอกได้เลยว่าคือมิตรภาพ พวกเรายังมีความเป็นเพื่อนกันอยู่ตลอดเวลา แค่ชีวิตและหนทางของแต่ละคนเปลี่ยนไปเท่านั้น” โอมปิดท้าย