กู้ธรรมะให้กลับมาอยู่ในใจคน..คือหนทางกู้โลก | คมชัดลึก

          หลังจากงานประชุมนานาชาติศากยธิดาเพื่อพุทธสาวิกา ครั้งที่ 12 ได้สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2554 ข้าพเจ้าได้กล่าวต่อสังฆะว่า 3 เดือนของการเข้าพรรษา หรือการเข้าฤดูฝนในปีนี้ ขอโอกาสให้ข้าพเจ้าได้วิเวก...
 
          และในระหว่างการตัดสินใจที่จะวิเวก ซึ่งการวิเวกนั้นมีอยู่ 3 ระดับ คือ กายวิเวก คือ การอยู่ในที่สงบสงัด จิตวิเวก คือ การสงบจากนิวรณ์ด้วยอำนาจของสมาธิ และ อุปธิวิเวก คือ วิเวกจากความยึดมั่นคือมั่น นั้น กายวิเวกแทบจะเป็นไปไม่ได้ด้วยงานที่มีอยู่ ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจจะวิเวกใน 2 ระดับให้แข็งแรง
 
          ระหว่างนั้น ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ทบทวนและใคร่ครวญว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกของสังคม เราจะช่วยกันนำธรรมะออกไปรับใช้สังคมในวิธีการใดจึงจะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่กำลังดำเนินอยู่นี้ให้มากที่สุด และท่ามกลางความวุ่นวายของโลกที่นับวันจะมีมากขึ้น ผู้คนหิวธรรมะ ธรรมะควรจะอยู่ในวัด ธรรมะควรอยู่ในสถานปฏิบัติธรรม หรือธรรมะควรจะอยู่ในชีวิตประจำวันของเขา
 
          คำตอบคือธรรมะควรอยู่ในช่องทางที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย และเป็นธรรมะที่ง่ายและใช่ ไม่งมงาย ไม่พาให้ยืดเยื้อ หรือเดินไปแบบหลงทาง
 
          ฉะนั้น จึงได้ใช้เวลาในช่วงแห่งการวิเวกนี้พิจารณาเรื่องนี้ร่วมกันกับทีมผลิตสื่อของเสถียรธรรมสถาน ผลที่ได้คือรายการธรรมะทันใจใน 2 นาที ที่มีให้ดูทุกวัน ซึ่งจะติดตามได้ใน www.youtube.com โดยเริ่มจากการพูดเรื่องการปฏิบัติที่กระชับและเข้าใจง่าย เช่น การปฏิบัติบูชาเป็นพุทธประสงค์ ซึ่งก็ได้รับความสนใจมากมายจากมือใหม่ที่สนใจการปฏิบัติธรรม และด้วยเหตุที่ facebook ของเสถียรธรรมสถานมี fanpage เกือบ 30,000 คน และกว่าครึ่งเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ ฉะนั้นจึงมีการฝากคำถามให้ข้าพเจ้าตอบมากมาย อาทิ เบื่อ...จะทำอย่างไรดี เครียด...จะทำอย่างไรดี  โกรธ...จะทำอย่างไรดี เซ็ง...จะทำอย่างไรดี จึงนำไปสู่การตอบคำถาม ซึ่งเป็นการตอบในเชิงชวนให้ปฏิบัติ
 
          ทั้งนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม หรือวันแม่ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำเพื่อเป็นการบูชาพระคุณแม่ จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนที่สนใจเข้าไปชม และสามารถมีส่วนร่วมได้โดยการช่วยกันประเมิน หรือส่งคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติ หรือคำถามที่น่าสนใจที่จะเป็นประโยชน์ตนประโยชน์ท่านเข้าไปใน facebook ของเสถียรธรรมสถาน ซึ่งก็เท่ากับคุณเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันนำธรรมะออกมารับใช้สังคมเพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เปรียบเหมือนพระบรมครูที่ยิ่งใหญ่
 
          เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ข้าพเจ้าไปประชุมที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ได้กรุณานำเอกสารเรื่อง อภิมหาอันตรายของประเทศไทยและของโลกกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง “เศรษฐกิจพอเพียงจะช่วยให้โลกพ้นจากวิกฤติได้” พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554 มามอบให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้อ่าน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยสาระสำคัญนั้นอยู่ที่...ในขณะนี้โลกและประเทศไทยกำลังประสบสิ่งที่เรียกว่า อภิมหาอันตรายของประเทศไทยและของโลก ซึ่งอภิมหาอันตรายดังกล่าวสามารถสรุปได้ 3 ประเด็น คือ
 
          1.การมีประชากรหนาแน่นเกินไป 2.วัตถุนิยมบริโภคนิยมมากเกินไป และ 3.คุณธรรมความดีน้อยเกินไป   
          กรณีเด็กวัยรุ่นในต่างแดนใช้ facebook เป็นสื่อกลางในการร่วมกันทำเรื่องผิดกฎหมายที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของความรุนแรงที่เกิดจากการที่ประชากรมากขึ้นแต่คุณธรรมน้อยลง และอยู่ในลัทธิของการแย่งชิง และมันจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้น เราต้องช่วยกันตั้งรับและทำงานเชิงรุก   
 
          ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหันหน้ามาร่วมกันนำธรรมะออกไปรับใช้สังคม
ถนัดวิธีใด...ใช้วิธีนั้น ถนัดเรื่องสื่อ...ใช้สื่อ มีช่องทางใด...ใช้ช่องทางนั้น เพื่อนำพระธรรมกลับมาอยู่ในใจคน 
 
          เมื่อใดที่เรากู้ธรรมะกลับมาอยู่ในใจคนได้ เราก็กู้สังคมได้

ธรรมสวัสดี

          ***ขอเชิญสถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัยที่สนใจนำภาพยนตร์สั้นชุด “ความรัก ศรัทธา ปาฏิหาริย์” จากเรื่องจริงของ “เหยื่อ” ที่เปลี่ยนเป็น “หยุด” ไปฉายและตั้งวงเสวนา “การยุติความ รุนแรง” ติดต่อได้ที่เสถียรธรรมสถาน 08-6303-0299 และเชิญดาวน์โหลดเพลง ความรัก ศรัทธา ปาฏิหาริย์โดยกด *1238100 ทุกเครือข่าย...ทุกเสียงเพลง...จากทุกสายของคุณ เพื่อสร้าง “สาวิกาสิกขาลัย” มหาวิชชาลัยธรรมะเพื่อส่งเสริมการบรรลุธรรม