บันเทิง

กลับมาอีกครั้ง'ปาล์มมี่'ขอเป็นตัวเอง

กลับมาอีกครั้ง'ปาล์มมี่'ขอเป็นตัวเอง

23 ส.ค. 2554

กลับมาอีกครั้ง'ปาล์มมี่'ขอเป็นตัวเอง

          หายไปนานกว่า 5 ปี  ท่ามกลางข่าวที่พุ่งเข้าใส่นักร้องสาวโลกส่วนตัวสูง ”ปาล์มมี่” อีฟ ปานเจริญ ทั้งข่าวการมีปัญหากับต้นสังกัดเดิมอย่าง “แกรมมี่” ข่าวการย้ายค่ายซบค่ายอื่นๆ แต่ในวันนี้ “ปาล์มมี่” กลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ “ไฟว์ (5)” กับบ้านหลังเดิม “แกรมมี่” โดย “ปาล์มมี่” ได้มาเล่าถึงการทำงานในอัลบั้มนี้ว่าเหมือนการกลับมาสู่จุดเริ่มต้น เพราะเริ่มทำเองหมดทุกอย่าง
 
          “งานเพลงในอัลบั้มนี้มี่เริ่มมาจากการทำทำเดโม เริ่มแต่งเอง เริ่มพึ่งตัวเองก่อน พอทำไปได้สักพักหนึ่งก็เริ่มที่จะหาคนมาช่วยเขียนเนื้อเพลง ช่วยตบเดโม เลยไปหานักแต่งเพลงที่เคยร่วมงานกัน ทำให้เริ่มได้คุยกัน พอเริ่มมาจากตรงนั้น โดยการเริ่มแต่งเพลงด้วยกันบ้าง หรือนักแต่งเพลงบางคนที่เขามีเพลงที่เขามีเพลงที่แต่งเก็บเอาไว้ หลังจากเริ่มได้เพลงขึ้นมาหนึ่งเพลง มี่ก็ไปหาคนที่จะมาอะเร้นท์เพลง หาคนที่มาปรับดนตรีให้มันเข้ากับสิ่งที่มี่ต้องการ หลังจากนั้นก็ไปร้องไกด์เก็บเอาไว้ แล้วเอาตรงนั้นไปหาคนเขียนเพลง ได้บางไม่ได้บางแต่ก็ทำมาเรื่อยๆ จนเสร็จ มามิกซ์ร้อง เลือกนักดนตรีว่าจะให้ใครมาอัดเพลงนี้ ซึ่งมี่ทำทุกอย่างของเพลงตั้งแต่ต้นเลย” นักร้องสาวเล่า ก่อนจะเสริมต่อว่าสาเหตุที่หันมาทำเพลงทั้งหมด เพราะมันควรแก่เวลาแล้ว
 
          “มี่ว่ามันคงถึงกาลเวลาแล้วที่เราจะหันมาทำงานในอีกแบบหนึ่ง ที่มี่ต้องการไปอยู่ในทุกขั้นตอนของงาน มี่ต้องการเห็นทุกกระบวนการการทำงาน เพราะคนที่รู้ดีที่สุดคือมี่ว่ามี่ต้องการอะไร เพราะฉะนั้นมันสำคัญมากกับขั้นตอนนี้ว่ามี่เลยต้องเข้าไปอยู่ด้วยในเรื่องของการเข้าไปเขียนเนื้อเพลง เรื่องราวจะไปไหนทิศทางไหน ต้องมานั่งคุยกันทำความรู้จักกันพอสมควรกว่าจะได้เพลงแต่ละเพลงออกมา”
 
          นักร้องสาวเสียงดีเผยว่าใช้เวลาในการทำงานเพลงในอัลบั้มนี้เบ็ดเสร็จทั้งหมดกว่า 2 ปีกว่า
 
          “ที่ใช้เวลาประมาณ 2 ปีเศษๆ เริ่มทำมาเรื่อยๆ เพราะการทำงานในอัลบั้มนี้มี่ต้องหาคนที่จะมาทำงานด้วย โดยที่จะดูจากผลงานของเขาก่อน มี่ต้องรู้สึกว่ามี่ต้องชื่นชอบงานของเขา ต้องเดาว่าเขาน่าจะทำงานกับเราได้ บางคนก็ได้งานออกมา แต่บางคนก็ไม่ได้งานที่ต้องการเลย แต่เราก็ได้มิตรภาพกลับมา มันก็เป็นขั้นตอนที่มี่ว่ายาก เพราะการหาคนที่เคมีตรงกันมันยากพอสมควร” ปาล์มมี่เผย และเริ่มเล่าถึงคอนเซ็ปต์อัลบั้มนี้ว่า
 
          “คอนเซ็ปต์ก็คิดไปเรื่อยๆ แรกๆ ภาพที่ออกมามันยังอาจจะไม่ชัดมาก แต่พอเริ่มหนึ่งแล้วตามมาด้วยสองสามปุ๊บ ภาพต่างๆ มันเริ่มชัดมากขึ้นว่าทิศทางควรไปทางไหนดี มี่ก็ทำการบ้านเรื่อยไป โอเคทิศทางเราเลือกที่จะอิงความโบราณในยุค 60-70 โดยได้พี่ก้อ (ณฐพล ศรีจอมขวัญ) มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ มี่มาเจอเขาในช่วงท้ายแล้วช่วงแรกเราแต่ง เขาก็มาสมทบเพลงคือมาแต่งด้วย มาร่วมโปรเจ็คด้วย”
 
          “ตอนหลังมี่รู้สึกว่าเขาเป็นคนเก่งคนหนึ่งเลยในประเทศนี้ แล้วก็มีความใจเย็น เราเลยคุยกันและชวนเขาให้มาเป็นโปรดิวเซอร์ในอัลบั้มนี้ของมี่ เพราะในลำดับขั้นตอนที่มี่ต้องทำการบันทึกเสียง มี่จำเป็นที่มี่จะต้องมีมืออาชีพที่คอยควบคุมการผลิต มี่ก็เลยชวนเขามา แล้วเขาก็มาช่วยอะเร้นท์ในบางเพลงให้เป็นแบบโมทาวน์ ให้เป็นโบราณในแบบที่มี่ต้องการ เซ็ตเอาไว้ ขั้นตอนทั้งหมดจะผ่านกระบวนการคิดจากมี่และทีมงานมาประกอบร่างกัน” ศิลปินสาวกล่าว
 
          โดยปาล์มมี่ได้พูดให้ฟังว่าช่วงเวลาที่หายไป วงการเพลงเปลี่ยนไปมาก แต่ตนเองไม่ได้สนใจทิศทางดนตรีที่ผ่านไป เพราะแค่อยากทำงานเพลงที่ชอบก็พอแล้ว
 
          “ในช่วงที่ผ่านมามี่ก็ฟังเพลงบ้าง แต่ฟังแบบผ่านๆ ว่าแนวเพลงในตอนนี้ไปในทางไหน เพราะมี่ไม่ค่อยแคร์ว่าทิศทางเพลงไปในทางไหน มี่แค่ทำการบ้านกับตัวเองว่าเราชอบอะไร แล้วมี่คิดแค่ว่าสิ่งที่เราจะนำเสนอออกไปมันใช่สิ่งที่เราชอบ หรือว่าเราจะดัดแปลงมันให้เข้ากับการเล่นคอนเสิร์ตให้คนสนุก คือทำให้มันพอดีกับช่วงยุคนี้และลำดับกับเพลงมี่ในอัลบั้มที่แล้ว ที่มันไม่ต้องยากเกินไปเข้าไม่ถึงขนาดนั้น แต่มันก็เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร” ปาล์มมี่ปิดท้าย
 
          และหลังจากโปรโมทเพลง “คิดมาก” เพลงแรกของการกลับมาของปาล์มมี่ไม่นาน กระแสตอบรับดีอย่างล้นหลาม อย่างล่าสุดในคอนเสิร์ต “เบิร์ด อาสาสนุก อังกอร์ พลัส” ของ “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ ซึ่งปาล์มมี่ไปเป็นแขกรับเชิญ แฟนๆ ให้การตอบรับการกลับมาขึ้นคอนเสิร์ตของปาล์มมี่เป็นอย่างดี และในปลายปีนี้ช่วงเดือนพฤศจิกายน แฟนคลับตัวยงของ “ปาล์มมี่” จะได้มันส์ในคอนเสิร์ตใหญ่ต้อนรับการกลับมาของนักร้องสาวคนนี้อย่างแน่นอน