บันเทิง

เวลาเปลี่ยนไปแค่ไหน'บาร์บี้'ขอยึดจุดยืนเดิม

เวลาเปลี่ยนไปแค่ไหน'บาร์บี้'ขอยึดจุดยืนเดิม

21 ส.ค. 2554

เวลาเปลี่ยนไปแค่ไหน'บาร์บี้'ขอยึดจุดยืนเดิม

          เหมือนบรรยากาศเก่าๆ กำลังจะกลับมา เพราะช่วงนี้มีศิลปินเก่าๆ ตรงดิ่งกลับมาทำงานเพลงกันอย่างต่อเนื่อง แต่วงที่สะดุดความสนใจของคนฟังเพลงได้ คือการกลับมาทำงานเพลงอีกครั้งของวง "บาร์บี้" วงดนตรีขวัญใจอินดี้ ที่หายไปนานกว่า 8 ปีแล้ว โดยกลับมาครั้งนี้มีเพียงหน้าเก่าเจ้าของชื่อเดิมเหลือแค่ "ต้าร์" เผ่าพล เทพหัสดิน ณ อยุธยา และ "ทิวลิป" วีรวัฒน์ สืบสิมมา เท่านั้น นอกนั้นเป็นเพื่อนร่วมก๊วนใหม่ทั้งหมด แต่ฝีมือของพวกเขาอย่างเจ๋ง อุ่นเครื่องด้วยการแนะนำตัวกันก่อน เริ่มที่ "เจ" นวพัทธ์ จันทรากุล (มือเบส) "ขวัญ" ขวัญ ศรไชย (มือกลอง) "นัส" นัสพงศ์ จันทน์สุคนธ์ (มือกีตาร์) และ "อ๋อ" ทรงธรรม จรรลาโล (ซินทิไซเซอร์) ภายใต้บ้านหลังใหม่ "สมอลล์รูม"  

          โดย "ต้าร์" เล่าถึงการกลับมาทำงานเพลงของพวกเขาในครั้งนี้ว่า "ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ แล้วทีมนี้ไม่ได้แยกกันอยู่แล้ว ผมกับทิวลิปมาด้วยกันอยู่แล้วตั้งแต่แรก แล้ว นัส-ขวัญ-เจ ก็ตามมา แล้วมาปิดท้ายที่อ๋อ ไม่ได้แยกกันเลย พวกเราเล่นดนตรีมาด้วยกันสักพักหนึ่งแล้ว เพียงแต่ว่ามันยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง จนมาวันหนึ่งเรานึกขึ้นได้ และถามตัวเองกันว่าวงเราทำงานกันเป็นจริงๆ หรือเปล่า เราทำงานเพลงกันได้จริงไหม หรือว่าพวกเราเก่งเฉพาะในบ้านตัวเอง คือทำงานแต่ไม่ได้ปล่อยให้คนได้ฟังกัน เลยมาทบทวนตัวเอง แล้วมารื้อเพลงทั้งหมดที่เราทำมา มาทำใหม่หนึ่งเพลงให้เสร็จสมบูรณ์ในทุกอย่าง และได้ทำเพลงจนเสร็จ

          โดยได้คุณแพท (ชมธวัช ยงกิตติกุล) อดีตเพื่อนวงบาร์บี้ของผมมาช่วยเป็นโปรดิวเซอร์ให้ และเมื่องานเพลงของเราเสร็จ เราก็เอาเพลงนี้มาคุยกับทางสมอลล์รูมเป็นที่แรก" ต้าร์เกริ่นนำมาก่อน ก่อนที่เพื่อนร่วมวงอย่าง "ทิวลิป" จะช่วยเสริมต่อว่าช่วงตลอด 8 ปีที่ผ่านมาของการหายไปของวง "บาร์บี้" ไม่ได้ทิ้งงานเพลงที่พวกเขารักเลย พวกเขายังทำงานเพลงกันอยู่ตลอด เพียงแต่ว่าไม่ได้ทำออกมาสู่การฟังของประชาชนทั่วไปเท่านั้น

          ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกค่าย "สมอลล์รูม" นักร้องของวงอย่าง "ต้าร์" พูดให้เกียรติบ้านหลังใหม่ "สมอลล์รูม" ว่าเป็นคนเลือกพวกเขาเข้ามาอยู่ภายใต้สังกัดนี้ ไม่ใช่พวกเขาที่มีสิทธิเลือกต้นสังกัด

          "ต้องบอกว่าดีใจที่ทางสมอลล์รูมเขาเลือกเรา เพราะว่าลึกๆ แล้วในใจของพวกเขาไม่แน่ใจ ว่าเพลงแบบนี้ยังมีใครที่ต้องการไหม จะมีสังกัดไหนที่จะยอมลงทุนเอาเพลงนี้ไปสู่ตลาด แต่พอมาคุยกับสมอลล์รูม เขาโอเคเราก็รู้สึกดี เพราะยอมรับว่าก่อนที่จะทำงานเพลงนี้เสร็จ บาร์บี้ได้มีการคุยกับทางค่ายอื่นมาบ้าง แต่ทุกครั้งที่มีการคุย มันไม่สามารถไปได้สุดปลายทาง เพราะอาจด้วยลักษณะของค่าย หรือลักษณะการคุยงานของเราไม่ค่อยตรงกัน คือสิ่งที่เขาอยากให้เราทำ กับสิ่งที่เราอยากทำนั้นไม่ตรงกัน

          แต่กับสมอลล์รูมเราทำทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์มาเลยแม้แต่เอ็มวี แล้วเขาตกลงที่จะทำงานในแบบของเรา" นักร้องนำของวงกล่าว หลังจากที่มีการพูดคุยตกลงกันเรียบร้อย ก็ได้เพลง "ก่อนวันสุดท้าย" ออกมา ซึ่งหลังจากที่เพลงแรกนี้ออกมา ทาง "บาร์บี้" และ "สมอลล์รูม" ได้มีการพูดคุยกันต่อยอดเพิ่มขึ้นมาจะทำงานเพลงด้วยกันอีกกี่เพลง ไม่ได้ทำงานในระบบที่ว่าวงทำเพลงแล้วค่ายมีหน้าที่ค่าย พวกเขากับทางสมอลล์รูมได้มีการปรึกษาให้คำแนะนำพูดคุยในการทำงานด้วยกันตลอด

          การกลับมาครั้งนี้ของ "บาร์บี้" ยอมรับว่าตลาดเพลงเปลี่ยนไปจากเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ส่วนที่ใครมองว่าพวกเขาคือวงอินดี้ แต่สำหรับพวกเขาแล้วคำว่าอินดี้เป็นเพียงนามสมมุติ เพราะเพลงก็คือเพลง คือส่วนผสมของดนตรีหลายๆ ชิ้น เคยมีนักปราชญ์บอกกับพวกเขาว่า เพลงคือการสร้างงานจากความเงียบ ซึ่งพวกเขาไม่อยากให้กำหนดว่าเพลงเป็นแนวไหน เพราะเพลงก็คือเพลง มันตัดสินด้วยความชอบและไม่ชอบของคนฟังมากกว่าตัดสินด้วยแนวเพลง

          ซึ่งสำหรับพวกเขาแล้วการกลับมาครั้งนี้ เขาแค่อยากที่จะแสดงให้คนฟังได้รับรู้ความเป็นวงบาร์บี้ที่พวกเขาทำงานเพลงแบบเงียบๆ ก่อนจะทำออกมาเพื่อให้คนตัดสินว่าชอบหรือไม่ชอบเพลงของพวกเขา