
'แผงเทป-ซีดี'โดนน็อคลางร้ายวงการเพลง
ทุกวันนี้ทางเลือกของการซื้อหาเพลงมาฟังมีมากขึ้น ไม่เหมือนในอดีต ที่หากจะหาเพลงฟัง ก็ต้องเดินตรงไปที่แผงขายเทปอย่างเดียว แต่ปัจจุบันสามารถดาวน์โหลดจากระบบโทรศัพท์ หรือตามเว๊บไซด์ ยูทูปยังไม่รวมถึงปัญหาแผ่นไรท์ แผ่นผี เอ็มพี 3 กับอีกสารพัด การโหลด
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำสมัย ซึ่งแม้จะเข้ามาช่วยลดปัญหาเรื่องเทปผี ซีดีเถื่อนให้แก่เจ้าของค่าย และศิลปินไปได้เปราะหนึ่ง แต่ผู้ที่ทำธุรกิจขายปลีกเทปและซีดี หรือที่เรียกกันติดปากว่า ”แผงเทป” ที่เหมือนเป็นหน้าร้านที่คอยเชื่อมระหว่างคนซื้อกับค่ายเพลง และศิลปินมายาวนานหลายๆ สิบปี กลับได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งที่ตอกย้ำถึงผลกระทบโดยตรงที่เกิดขึ้นกับแผงเทป เท่าที่ทีมข่าวลงเดินดูจะเห็นได้ชัดในปัจจุบันว่าแผงเทปที่ขายข้างถนนลดลงเป็นจำนวนมาก ร้านที่หลงเหลืออยู่ล้วนแต่เป็นผู้ค้ารายใหญ่ หรือแผนกเพลงตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่บางแห่งเป็นของค่ายเพลงเป็นผู้มาเปิดเอง
“แผงเทปวันนี้มันตายไปตามๆ กัน เริ่มมาจากการที่มีเทปผีมาตีตลาด ในขณะที่ราคาซีดีค่ายเพลงแพงหูฉี่ พวกร้านขายซีดี มันเลยอยู่กันไม่ได้ เลิกไปเยอะแล้วทุกวันนี้ คุณไปดูซิแผงเทปที่เป็นยี่ปั๊ว ซาปั๊วจริงๆ เขาเลิกกันไปหมดแล้ว ยิ่งตอนนี้ค่ายเพลงมอง ว่าวันนี้ไม่ต้องพึ่งแผงเทปแล้ว เพราะมีเรื่องดาว์นโหลดมาแทน ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนทำเพลงออกมาไม่ว่านักร้องหน้าใหม่หรือเก่าต้องมาหาเราหมดพูดง่ายๆว่ามาอ้อนวอนกันก็ได้ให้เอาเทปเขามาวางขาย"ผู้ค้าเทปซีดีกล่าว
ผู้ค้าแผงเทปย่านตลาดเทเวศร์สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจแผงเทปที่เจ้าตัวทำมาตั้งแต่สมัยวัยหนุ่ม ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดผลกระทบกับ”แผงเทป”หลายคนบอกตรงกันว่า ล้วนมาจากเพลงใหม่ที่ค่ายเพลงมุ่งเจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น มากเกินไป บวกกับเมื่อทุกบ้านเริ่มมีคอมพิวเตอร์ และมีการโหลดเพลงจากอินเทอร์เน็ต
"เมื่อสมัยผมยังเรียนหนังสืออยู่ มีเพลงดีๆ ออกมาเยอะมาก แต่ช่วงหลังๆ ต้องยอมรับ นักร้องไม่ค่อยออกงานเพลงดีๆ มาเท่าไหร่ ไม่เหมือนเมื่อก่อน คนมาถามหาก่อนที่จะวางแผงเป็นสัปดาห์เลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ตลาดหนังน่าจะพอไปได้มากกว่าตลาดเพลง อย่างแผงของผมแผ่นหนังยังพอขายได้ แผ่นเพลงที่เป็นแนวสตริงตายสนิทไปนานแล้ว ส่วนแผ่นเพลงแนวลูกทุ่งก็ยังพอได้อยู่แต่ก็ลดลงไปเยอะเพราะเพลงที่ออกมา มันฟังไม่เพราะแล้วซ้ำไปซ้ำมา นี่ก็ขายของเก่าให้หมดแล้วก็เลิกเหมือนกัน“
เมื่อสอบถามทางด้าน วิศาล เลาแก้วหนู ผู้บริหารจากห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงงานอุตสาหกรรมเลปโส้ ที่ยังคงมีสิ้นค้าออกมาอย่างต่อเนื่องอธิบายถึงวิฤกตแผงเทปไว้อย่างน่าฟัง
“ ผมว่าค่ายเพลงคิดผิดที่ละทิ้งแผงเทป ถ้าการทำธุรกิจจริงๆแล้วการที่เราผลิตสิ้นค้าออกมาจะมากหรือน้อยก็ตาม ถ้าเราไม่มีที่ขายมันก็จบจริงมั้ย หลายคนบอกว่าเทปผีมันเยอะขาดทุนสู้ไม่ไหวเลิกทำซีดีหันไปดาว์นโหลด ผมก็ยังเห็นทำซีดีออกมาเลย ปั๊มออกมาแต่ขายไม่ได้ เพราะคู่ค้าที่เคยทำร่วมกันอยู่อย่างแผงเทปมันตายหมดแล้ว เมื่อไม่มีผู้จัดจำหน่าย มันก็ตายสิ เมื่อก่อนพออยากฟังเพลงเดินไปที่แผงเทปก็ซื้อเลยตอนนี้ไม่รู้จะเดินไปไหนแล้ว ไม่ใช่แค่แผงเทปตายนะค่ายเพลง ตลอดจนผู้จัดจำหน่ายพากันตายหมด มันเป็นวงจรที่ถึงกัน แต่ยังไม่รู้สึกตัวกันเท่านั้นเอง บางค่ายร่ำรวยมาจากการค่ายซีดี ขายเพลง พอธุรกิจเพลงเปลี่ยนไปหน่อย ก็เอาเงินที่ได้จากการขายซีดี ไปทำอย่างอื่นแทนที่จะมาพยุงให้วงการมันไม่แย่ไปกว่านี้ ถ้าไม่ช่วยกันผมบอกเลยวงการเพลงบ้านเราจบแน่อย่างที่เพลงบางประเภทจบไปแล้ว ของผมดีที่พลิกเกมได้ทันใช้วิธีลดราคาลง เน้นที่คนตลาดล่าวจริงๆ ผมถือว่าผมขายให้คนจนที่เป็นคนส่วนมากของประเทศ“
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสมาคมอุตสาหกรรมเพลงไทย ซึ่งเคยมีการพูดคุยหาทางออกกันอยู่ระยะหนึ่ง ขณะนี้ก็ดูจะอ่อนล้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับผู้บริหารจากห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงงานอุตสาหกรรมเลปโส้และสมาชิกบางคนที่เป็นผู้ผลิตซีดีบอกแต่เพียงว่าตอนนี้สมาคมกำลังผลันดันทายาทรุ่นที่ 2 ของแต่ละคนให้เข้ามาสานต่องานเพื่อที่จะขับเคลื่อนและดูทิศทางการค้าซีดีต่อไป