บันเทิง

"ผู้พันเบิร์ด"สุดประทับใจ“ศึกนันทบุเรง” ให้ประวัติศาสตร์เป็นบทเรียนที่ดี

"ผู้พันเบิร์ด"สุดประทับใจ“ศึกนันทบุเรง” ให้ประวัติศาสตร์เป็นบทเรียนที่ดี

14 ส.ค. 2554

ตะลุยตะลอนกอง : "ผู้พันเบิร์ด"สุดประทับใจ“ศึกนันทบุเรง” ให้ประวัติศาสตร์เป็นบทเรียนที่ดี

          รับบทเด่นเป็นสมเด็จพระนเรศวรมา 3 ภาคแล้ว ในภาคนี้ “ผู้พันเบิร์ด” พ.ท.วันชนะ สวัสดี ได้กล่าวถึงฉากประทับใจใน ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 4 “ศึกนันทบุเรง” ว่าการรบครั้งนี้ นับเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ที่อยุธยาสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดนอย่างยิ่ง เพราะมีทั้งศึกนอก-ศึกในถาโถม ในขณะที่เรามีไพร่พลไม่ถึง 1 ใน 10 ของกองทัพนันทบุเรง ที่ยกมากว่า 2 แสนคน มุ่งตีอยุธยากลับเป็นเมืองขึ้นให้ได้ดังเดิม

          โดยมีศึกย่อยหลายสมรภูมิ และเอกราชที่สมบูรณ์ของเราได้มาจากศึกครั้งนี้ จะได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพทางการรบของพระองค์ท่านในการเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีการรับศึกและใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างไปจากรูปแบบเดิม ใช้คนน้อยรบกับทัพใหญ่ ใช้การข่าวที่ดีทั้งเชิงรุกและรับ รบยื้อเวลาถึงฤดูน้ำหลาก จนทัพกษัตริย์หงสาต้องยกทัพกลับไป เป็นยุทธศาสตร์ที่พระองค์ท่านทรงริเริ่ม และปัจจุบันก็ยังใช้กันอยู่

          “ผมประทับใจภาคนี้ คือฉากพระแสงดาบคาบค่าย กับฉากดวลทวนกับลักไวทำมู เพราะฉากนี้ถ่ายทำยากมาก เพราะต้องถ่ายตอนกลางคืนและมีรายละเอียดต่างๆ มากมาย ทั้งองค์ประกอบทุกด้านของการถ่ายทำ การเตรียมงาน การจัดไฟ เทคนิค มุมกล้อง ความสอดประสานกันของม้าที่วิ่งเข้ามา ธนูไฟที่ยิงออกมาจากกำแพง การพาดพะองหรือบันได ทหารพระนเรศปีนค่าย ทหารพม่าบนกำแพงค่ายใช้อาวุธทำร้ายตกบันได และอีกสารพัดเรื่อง

          ทั้งยังต้องซ้อมกันหนักมาก โดยเฉพาะฉากที่ตกจากกำแพงค่าย ท่านมุ้ยต้องการให้ตกลงมาด้วยความเร็วจริง แต่ใช้อุปกรณ์ช่วยผสมผสานกันระหว่างสลิง รอก กระสวย และใบพัดช่วยกันจนลงตัว ผมได้เรียนรู้ข้อคิดมากมายทั้งเรื่องความสามัคคีที่รวมกันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน แต่ในทางกลับกัน หากคนเราทำอะไรเพื่อตัวเอง หรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็อาจส่งผลถึงความล่มสลายของชาติได้อย่างไม่คาดคิด” ผู้พันเบิร์ดกล่าว

ประกาศศักดาความเป็นไทยพร้อมกันได้ในโรงภาพยนตร์