
Captain America: The First Avenger
หนังจอกว้าง:Captain America: The First Avenger โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม
เมื่อซูเปอร์ฮีโร่คนแรกของมาร์เวล คอมิคส์ ถูกนำมาสร้างเป็นหนังเกือบจะเป็นตัวละครคนสุดท้ายของทีมซูเปอร์ฮีโร่ ‘อะเวงเจอร์’ ที่สำคัญ เป็นตัวละครที่มีต้นธารมาจากเหตุการณ์ในอดีตเมื่อกว่า 70 ปีก่อน คอหนังหรือแฟนการ์ตูนหลายคนอดคิดเป็นกังวลไม่ได้ว่า ตัวหนังจะออกมา ‘เชย’ หรือเปล่า...
หากย้อนกลับไปไม่กี่เดือนก่อนหน้า ทัพหนังแอ็กชั่นฮีโร่หรือซูเปอร์ฮีโร่หลายๆ เรื่อง ย้อนกลับไปนำเอาเหตุการณ์หรือเรื่องราวในประวัติศาสตร์มาผูกเรื่องสร้างตัวละครขึ้นมาใหม่ ชัดเจนที่สุดก็คือหนังอย่าง “X-Men: First Class” ที่บอกเล่าเรื่องราวของสองผู้ให้กำเนิดเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ ดร.ชาร์ลส ซาเวียร์และแม็กนีโต โดยย้อนเวลากลับไปในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง จนเข้าสู่ยุคสงครามเย็น เช่นเดียวกับหนังเรื่อง “Watchmen” เมื่อหลายปีก่อน ที่ตัวละครเกิดขึ้นในยุคสมัยใกล้เคียงกัน รวมทั้ง “Hellboy” หนังแอ็กชั่นซูเปอร์ฮีโร่ที่แม้จะไม่ได้สร้างมาจากคาแร็กเตอร์การ์ตูนดังของ ‘มาร์เวล’ และ ‘ดีซี’ แต่พล็อตเรื่องที่มีฉากหลังในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้หนังซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลอีกเรื่องอย่าง “Thor” ก็ถูกเล่าคู่ขนานกันไประหว่างตัวละครเทพเจ้าในตำนาน ที่พลัดหลงตกลงมาในโลกมนุษย์ปัจจุบัน ไม่เว้นแม้แต่ “Transformer 3: Dark of the Moon” ก็อุตส่าห์เอากับเขาด้วย เมื่อหนังเปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์สำคัญยุค 60’s ในวินาทีประวัติศาสตร์ที่มนุษย์ย่างเท้าก้าวแรกลงบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ
ความสำเร็จของหนังที่เอ่ยมาทั้งหมดเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า กาลเวลาที่เกิดขึ้นในหนังหาได้เป็นเรื่องที่ ‘เชย’ หรือ ‘เก่า’ แต่อย่างใด มิหนำซ้ำการสร้างพล็อตเรื่องโดยผูกกับเงื่อนไขช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ ยังเปิดช่องให้การสร้างปมแก่ตัวละคร เกิดแรงขับที่ทำให้พวกเขาลุกขึ้นมาทำอะไรทั้งต่อตัวเอง และสังคมรอบข้าง ในกรณีนี้ดูเหมือน “X-Men: First Class” จะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ตามมาด้วย “Captain America: The First Avenger” โดยเฉพาะเรื่องหลังนี้มาในแนว ‘Alternative History’ หรือประวัติศาสตร์ประยุกต์ ที่นำเอาเรื่องแต่งเข้ามาอิงกับเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ ผสานกันจนราวกับว่า ตัวละครที่สร้างขึ้นมานั้นเคยปรากฏตัวตนอยู่จริง
กัปตันอเมริกา เริ่มต้นเรื่องราวด้วยการเดินรอยตามหนังสือการ์ตูนแทบจะทุกกระเบียด ตั้งแต่หนุ่มน้อยรูปร่างผอมบาง อมโรค แต่ใจรักอยากจะสมัครเป็นทหารประจำการในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ไม่ผ่านการคัดเลือกสักที แต่ด้วยหัวใจที่ฮึกเหิม ทำให้ความมุ่นมั่นของหนุ่มน้อย สตีฟ โรเจอร์ เกิดไปเข้าตานักวิทยาศาสตร์ประจำกองทัพที่กำลังทดลองสร้างนักรบสมบูรณ์แบบอยู่พอดี เจ้าหนุ่มจึงได้รับการคัดเลือกเข้ากองทัพ และเข้ารับการทดลอง ผ่านการฝึกฝน จนกลายเป็นนายทหารผู้เก่งกล้าไปในที่สุด
การพยายามนำตัวตนหรือคาแร็กเตอร์ของกัปตันอเมริกา ขึ้นไปแปะอยู่บนหน้าประวัติศาสตร์ของหนังเรื่องนี้ ไม่ได้ออกไปในทางเชิดชูวีรบุรุษทั่วไป หากเป็นไปในลักษณะของตัวละครที่ถูก ‘รัฐ’ อุปโลกน์ เพื่อใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ ปลุกเร้าความฮึกเหิมให้ผู้คน ‘กัปตันอเมริกา’ ในช่วงกลางเรื่อง ไม่ต่างอะไรกับสินค้า หรือไม่ก็ตัว ‘มาสคอต’ ในการเป็นเครื่องมือเพื่อใช้โหมประโคมโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คนอเมริกันหันมาให้การสนับสนุนในการทำสงคราม การแสดงวีรกรรมความกล้าหาญไม่กี่ครั้งของกัปตันอเมริกา กลับถูกปรับเปลี่ยนเป็น ’สินค้า’ ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงประจำกองทัพอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกเดินสายหาทุนเพื่อซื้ออาวุธใช้ในการทำสงคราม หว่านล้อมคนหนุ่มเข้าร่วมรบในกองทัพ และฮีโร่ของพวกเขา ต้องทำแม้กระทั่งออกตระเวนเดินสายร่วมกับเหล่าบรรดานักร้อง นักเต้น ที่ออกแสดงปลอบขวัญทหารตามค่ายต่างๆ จนถูกแสดงอาการหมิ่นแคลนตอบกลับมา ซึ่งช่วงเวลาที่เอ่ยมานั้น ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดในหนังแอ็กชั่นซูเปอร์ฮีโร่เรื่องหนึ่ง สำหรับการสร้างมิติให้ตัวละครได้อย่างน่าสนใจ เพราะสุดท้ายการต้องเลือกระหว่างการทำงานสบายๆ หรืออยู่เฉยๆ ก็เป็นคนดังได้ กับการออกรบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ที่แทบไม่มีใครรู้จักในแนวหน้า ก็ได้ตอบคำถามถึงความหาญกล้าในใจของหนุ่มน้อยโรเจอร์ว่า เหตุใด เขาถึงอยากสมัครเข้าเป็นทหารประจำการในกองทัพนัก รวมทั้งการจิกกัดสังคมอเมริกัน โดยเฉพาะการฉกฉวยโอกาสสร้างผลประโยชน์ ท่ามกลางความแร้นแค้นทั้งสภาพเศรษฐกิจและจิตใจของผู้คนที่ตกอยู่ในภาวะสงคราม ช่วงเวลาที่ผู้คนโหยหาวีรบุรุษ รัฐบาลอเมริกันอาศัยจังหวะนี้สร้างฮีโร่ขึ้นปลอบประโลม สร้างกำลังใจให้ผู้คน หวังผลประโยชน์ทั้งเชิงธุรกิจและยุทธวิธี (แม้กัปตันอเมริกาจะลาจากตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์ แต่วีรกรรมแหกค่ายนาซีที่เขากับเพื่อนๆ ทหารหาญร่วมกันทำ ก็ยังได้ผลในเชิงยุทธศาสตร์อยู่ดี)
ถือเป็นการเปิดตัวซูเปอร์ฮีโร่คนแรกของทีมอะเวงเจอร์ ได้อย่างสวยงามทีเดียว เพราะหนังยังผูกปมให้ตัวละคร ‘กัปตันอเมริกา’ กลับมาเชื่อมโยงสู่โลกปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน สร้างความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ ที่จะมาร่วมทีมได้อย่างแนบเนียน แล้วมาคอยดูกันว่า ‘โทนี่ สตาร์ค’ แห่ง “Iron Man” จะแสดงปฏิกิริยาอย่างไร ที่ได้มาร่วมงานกับนักรบที่เคยร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพ่อของเขามาก่อน ปีหน้าคงได้ดูกัน
ชื่อเรื่อง : Captain America: The First Avenger
ผู้เขียนบท: คริสโตเฟอร์ มาคัส, สตีเฟน แมคฟีลี
ผู้กำกับ : โจ จอห์นสตัน
นักแสดง : คริส อีแวนส์, ทอมมี ลี โจนส์, ฮูโก วีฟวิง, เซบาสเตียน สแตน, เฮย์ลีย์ แอตเวลล์
เรตติ้ง : น.13+ ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ชมอายุ 13 ปีขึ้นไป
วันที่เข้าฉาย : 28 กรกฎาคม 54