
"กรณ์" สร้างรากฐาน "เคพีเอ็น"
"กรณ์" สร้างรากฐาน "เคพีเอ็น" ปั้นศิลปินสู่โลกความจริง
เวทีเรียลิตี้ค้นหาศิลปินมาแจ้งเกิดมีอยู่มากมาย ทั้ง "เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว" "นักล่าฝัน ทรู แฟนเทเชีย" และ "เคพีเอ็น อวอร์ด" ถ้าให้เทียบแล้วเวที "เคพีเอ็น" อาจเป็นเวทีที่ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนสองเวทีแรก แต่เรื่องคุณภาพและชื่อเสียงที่มีมานมนาน "เคพีเอ็น" ชนะขาดลอย โดยเวที “เคพีเอ็น อวอร์ด” ถือเป็นเวทีที่จะทำให้ฝันของคนที่ชอบร้องเพลงเป็นจริง และปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 21 แล้ว ซึ่ง กรณ์ ณรงค์เดช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคพีเอ็น อวอร์ด จำกัด ได้เล่าถึงการประกวด เคพีเอ็นในครั้งนี้ว่าจะเข้มข้น มันส์ และสนุกมากกว่าเก่าอย่างแน่นอน
"การประกวดเคพีเอ็นปีนี้เป็นปีที่ 21 แล้ว แต่สำหรับการมานั่งแท่นบริหารของผมเป็นปีที่ 3 ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมาสำหรับผมถือว่ามีการพัฒนาไปในทางที่ดีในทุกปี เพราะว่าได้ความเรียนรู้ และนำขอบกพร่องของแต่ละปีมาปรับในปีต่อมา โดยในปีนี้รูปแบบของรายการจะทันสมัย และเข้มข้นทุกขั้นตอนกัน ไม่ว่าจะเป็นการคัดตัวในรอบต่างๆ กิจกรรมเวิร์กช็อปในช่วงการเก็บตัว โจทย์เพลงหลากหลายในแต่ละสัปดาห์ รวมถึงคอมเมนเตเตอร์ชั้นเซียน ที่จะวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ให้ผู้เข้าประกวดได้นำกลับไปแก้ไขข้อบกพร่อง เพื่อให้ผู้ชมเห็นพัฒนาการของแต่ละคนตลอดการประกวด" ผู้บริหารหนุ่มเล่า ก่อนจะเสริมต่อว่าในการประกวดปีนี้จะมีเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมรายการ และผู้เข้าประกวด ที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลย
"ปีนี้เราจะเน้นในเรื่องของการเป็นเรียลลิตี้มากขึ้นเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังเน้นเรื่องของการหาศิลปินที่ครบเครื่อง เพราะเราต้องรักษามาตรฐานของเวทีระดับคุณภาพ ด้วยการตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิ และมีชื่อเสียงมากมาย เพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นนักร้องยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย ครองถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" บอสส์ใหญ่เคพีเอ็นกล่าว
โดย กรณ์ ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การตอบรับใน 3 ปีที่เขาได้มาบริหาร "เคพีเอ็น อวอร์ด" รวมถึงขอบคุณผู้ที่ผ่านการประกวดมาด้วย เพราะสำหรับเขาแล้วถือว่าสิ่งที่ทำมาประสบความสำเร็จเกินคาดเลย เพราะศิลปินในสังกัดของ "เคพีเอ็น อวอร์ด" หลายๆ คนมีทั้งงานเพลง งานโชว์ตัว ละคร ละครเวที หรือคอนเสิร์ตต่างๆ ติดต่อเข้ามาอย่างมากมาย แถมยังได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักอยู่ในสื่อต่างๆ อีกด้วย และขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนที่ให้การสนับสนุนเวทีมาโดยตลอด ทั้งนี้ผู้บริหารหนุ่มยังได้เผยถึงการรับสมัครในปีนี้ที่เปิดเร็วกว่าทุกปี เพราะเริ่มตั้งวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ลีการ์เด้น พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 6 สิงหาคม ที่ห้างเซ็นทรัล พลาซ่า จ.ขอนแก่น วันที่ 13 สิงหาคม ที่ห้างเซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซ่า จ.เชียงใหม่ และปิดท้ายวันที่ 20-21 สิงหาคม ที่ห้างเซ็นทรัล เวิลด์ กรุงเทพฯ
ซึ่งผู้บริหารคนเก่งเผยว่าเวทีนี้ อยากได้คนที่มีของอยู่ในตัวอยู่แล้วในระดับหนึ่งมาเข้าประกวด เพราะว่าจะได้มีพื้นฐาน และเมื่อได้รับคำแนะนำจากคุณครู หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านต่างๆ เข้ามาสอน จะได้พัฒนาไปได้อย่างดีมากขึ้น โดยกรณ์ ยังให้คำแนะนำแค่คนที่าสนใจจะเข้ามาประกวดว่าอย่าคิดว่าเวทีเคพีเอ็นเป็นเวทีที่เปิดให้แก่คนที่มีเสียทรงพลังเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วขอให้มีดีมีคุณภาพเสียงอาจจะไม่ต้องมีพลัง แต่มีการร้องที่ดี และหาแนวของตัวเองได้ แค่นี้ก็สามารถที่จะก้าวเข้ามาสู่เวทีนี้ได้แล้ว ส่วนเรื่องหลายคนสงสัยว่า "เคพีเอ็นฯ" ไม่มีการปิดการสื่อสารระหว่างโลกภายนอกกับผู้เข้าประกวด มีผลทำให้ผู้เข้าประกวดหวั่นไหวและไม่มีสมาธิ ซึ่งเรื่องนี้บอสส์ใหญ่เคพีเอ็นยืนยันว่าจะไม่มีการปิดกั้นผู้เข้าประกวดกับโลกภายนอกเหมือนเวทีอื่นๆ เพราะอยากที่จะให้ผู้เข้าประกวดเผชิญกับโลกแห่งความจริงตั้งแต่ต้น เพราะเมื่อวันใดที่พวกเขาออกมาจะได้สู้กับความจริงที่ต้องเจอได้
ทั้งนี้ กรณ์ ยังบอกเล่าด้วยอารมณ์ที่มีความสุข เมื่อถูกถามว่าคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช ผู้ก่อตั้งการประกวด "เคพีเอ็น อวอร์ด" รู้สึกกับการทำงาน 3 ปีของลูกชายคนนี้บ้าง
"ยอมรับว่าตอนแรกตัวผมเองกังวล และห่วงความรู้สึกของคุณแม่มาก เพราะว่าท่านเป็นคนก่อตั้งทุกอย่างขึ้นมา แต่ผมได้บอกกับคุณแม่ของผมตั้งแต่แรก ว่าผมขอตัดสินใจทั้งหมดด้วยตัวเอง ถ้าผมจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็อยากให้เคารพการตัดสินใจของผม ซึ่งทางคุณแม่ก็โอเค ตลอด 3 ปีที่ผ่านมากระแสตอบรับดีมาก มีคนพูดถึงเคพีเอ็นมากขึ้น ซึ่งผมก็ปลื้มใจแล้วคุณแม่เองก็แฮปปี้ด้วย ที่เหมือนว่าเวทีการประกวดของเราเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้น" กรณ์กล่าวปิดท้าย