วันที่รอคอยของ 'นัททิว' กับอัลบั้มแรกในชีวิต | คมชัดลึก

          "อัลบั้มนี้ถ้าพูดเอาจริงๆ เป็นอัลบั้มที่รอคอยทั้งของนัท และของแฟนคลับด้วย เพราะตลอด 3 ปีของแฟนๆ จะถามถึงว่าเมื่อไหร่นัทจะมีอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองสักที ตอนนั้นใครๆ ก็คิดว่าออกจากบ้านเอเอฟมา นัทจะได้มีอัลบั้มเลย ซึ่งนัทยอมรับว่าตัวนัทคิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ด้วยวงการเพลงในตอนนั้นการที่จะมีอัลบั้มหนึ่งเป็นเรื่องยาก ซึ่งผู้ใหญ่ก็อธิบายเรื่องต่างๆ ให้นัทฟัง ในตอนแรกนัทไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เพราะคิดว่าเราได้แชมป์มา เลยมีแอบน้อยใจเล็กๆ อยู่บ้าง แต่ตอนหลังก็เข้าใจ เพราะนัทเรียนด้านการบริหารมา ซึ่งพอมาถึงวันนี้นัทว่ามันเหมือนเป็นจังหวะที่เหมาะสมแล้วด้วยซ้ำ เพราะหลังจากเพลง "รู้บ้างไหม" ในโปรเจกทืเอเอฟ 5 จนมาได้เล่นละคร และทำงานด้านต่างๆ ทำให้นัทมีประสบการณ์ต่างๆ มากขึ้น เรียกว่าเป็นใบเบิกทางที่ดีสำหรับนัทด้วยซ้ำ" นักร้องหนุ่มกล่าว อีกทั้งเล่าต่อว่าจากประสบการณ์การทำงาน จึงทำอัลบั้มนี้ด้วยความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่
 
          "คนอื่นอาจมองว่าตีเหล็กต้องตีตอนร้อน หมายถึงการที่นัทควรออกอัลบั้มตั้งแต่ออกจากบ้านมาใหม่ๆ แต่สำหรับนัทแล้วนัทว่าตอนนี้ต่างหากที่เรียกว่าเหล็กตอนร้อน มันก็จริงที่ว่าตอนออกจากบ้านกำลังเป็นกระแส แต่การที่นัทได้ทำงานในวงการหลายอย่างเพิ่มมากขึ้น ทั้งงานละคร งานละครเวที  ขึ้นคอนเสิร์ตในโปรเจกท์ต่างๆ ทำให้นัทได้เป็นที่รู้จักกับคนอีกหลายกลุ่ม ซึ่งเขาอาจไม่ได้รู้จักกับนัทตอนที่ประกวดเอเอฟ และที่สำคัญคือการที่นัทได้ทำงานหลายอย่าง มันทำให้นัทได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น และทำให้กล้าที่จะพูดคุยและเสนอแนวคิดกับทางทีมงานว่าต้องการอะไร ชอบแนวเพลงแบบไหน ซึ่งถ้าเป็นเมื่อตอนที่นัทออกจากบ้านเอเอฟมาใหม่ๆ รับรองนัทไม่กล้าแน่นอน" แชมป์เอเอฟ 5 บอก
 
          โดย "นัททิว" พูดถึงงานเพลงในหลายๆ โปรเจ็คที่ผ่านมาว่าทำให้ค้นพบความชอบที่แท้จริง อย่างเพลง "รู้บ้างไหม" ต้องชื่นชมกับทางทีมงานที่ทำเพลงนี้ได้ออกมาดีมาก จนฮิตติดลมบน ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวเองชอบเพลงนี้หรือเปล่า เมื่อมาร่วมวงกับเพื่อนๆ ในนาม "วัน ทู ทรี โซล" ได้สักพักใหญ่ ก่อนที่จะออกมา เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของเวลาที่ไม่ลงตัว เพราะตอนนั้นมีงานละครเรื่อง "เหนือมนุษย์" ที่ต้องทำอยู่ และอีกเหตุผลคือเริ่มรู้สึกว่าไม่เหมาะกับเพลงในแนวโซล-ประสานเสียง และยืนยันว่าเรื่องการออกจากวงไม่ได้เกี่ยวกับจะออกมาทำงานเพลงเดี่ยวของตัวเอง เพราะในโปรเจกท์เดี่ยวคิดหลังจากออกจากวงมานานแล้ว
 
          ปิดท้ายการพูดคุย "นัท" ได้บอกถึงโฟโต้บุ๊กที่เป็นภาพถ่ายที่เจ้าตัวบินไปถ่ายถึงประเทศเกาหลีใต้ ว่าเกิดจากความชอบในส่วนตัวกับประเทศนี้อยู่แล้ว และเมื่อทางทีมงานบอกว่าอัลบั้มนี้คือมีคอนเซ็ปต์ในเรื่องความหลงใหล นักร้องหนุ่มจึงรีบเสนอชื่อประเทศนี้ทันที เพราะเป็นประเทศที่ชอบแต่ไม่เคยได้ไป โดยนักร้องหนุ่มปล่อยมุขตอนท้ายว่าหลังจากที่ไปถ่ายโฟโต้บุ๊กแล้ว จากนั้นแค่ 2 เดือน ก็ได้บินไปเกาหลีมากกว่า 4 ครั้ง อัลบั้มนี้รวมความหลงใหลของตัวเองไว้ทั้งหมด อยากให้อัลบั้ม "เดอะแพสชั่น" เป็นอัลบั้มที่แฟนๆ ทุกคนหลงใหล