ดีเจดัง"กฤษณ์"บวชฉายา"กนฺตวณฺโณ" | คมชัดลึก

 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม นายกฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ พิธีกรและดีเจชื่อดังแห่งรายการแฉแต่เช้า คลื่น 94 อีเอฟเอ็ม เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 55 เขตประเวศ โดยมีท่านเจ้าคุณพระราชธรรมโมลี เจ้าอาวาสวัดแก้วพิทักษ์เจริญธรรม และเจ้าคณะแขวงประเวศ เป็นพระอุปัชฌาย์ โพิธิแห่นาค เริ่มขึ้นเมื่อถึงเวลา 8.45 น. นายกฤษออกมาด้วยสีหน้าสงบ ก่อนเดินวงรอบพระอุโบสถ 3 รอบ หลังจากนั้นเข้าไปทำพิธีอุสมบทด้านในโบสถ์ 

 ทั้งนี้งานอุปสมบทดังกล่าวมีบุคคลในครอบครัวของดีเจดังมาร่วมอนุโมทนา ประกอบด้วยนายสัณห์ และนางทัศนีย์ ศรีภูมิเศรษฐ์ พ่อแม่ นายกิตติศักดิ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ น้องชาย เป็นผู้ถือหมอนในขบวนแห่นาค ตลอดจนเหล่าเพื่อนพ้องในวงการบันเทิง อาทิ   มดดำ-คชาภา ตันเจริญ ตั๊ก-บริบูรณ์ จันทร์เรือง หนิง-ปณิตา พัฒนาหิรัญ  เก๋-ชลลดา เมฆราตรี  ปู-นริสา พรหมสุภา  น็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์  น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ที่มาร่วมอนุโมทนาบุญด้วย

 อย่างไรก็ตามงานอุปสมบทดังกล่าวไม่ได้มีนักร้องดัง มาช่า วัฒนพานิช อดีตคนรักของดีเจดัง  ซึ่งมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมาร่วมงานบุญด้วย โดยพระกฤษณ์ได้รับฉายา "กนฺตวณฺโณ" เขียนเป็นภาษาไทยว่า "กันตวัณโณ"แปลว่า "ผู้ที่มีเกียรติมีผิวพรรณที่เป็นศิริมงคล"  โดยหลังจากอุปสมบทจะเดินทางไปจำวัดที่วัดพลุตะเคียน จ.ชุมพร เป็นเวลา 15 วัน โดยมีฤกษ์ลาสิกขาบทคือ วันที่ 15 ก.ค. นี้
.

 ด้าน นายคชาภา หรือ มดดำ เพื่อนสนิท กล่าวถึง การบวชของพระกฤษณ์ ครั้งนี้ว่า ทราบมานานว่าพระกฤษณ์จะบวช เพราะพระวางแผนไว้นานพอสมควร ตั้งแต่ก่อนคอนเสิร์ตดีเจ ออนสเตจ เมื่อวันที่ 25-26 มิ.ย. ที่ผ่านมา

 "ทางบริษัทเห็นว่า มีการถ่ายทำโปรเตอร์เพื่อโปรโมทไปแล้ว จึงบอกให้เขาขึ้นคอนเสิร์ตให้จบก่อนที่จะบวช ส่วนเรื่องการจัดรายการ "แฉแต่เช้า" ทางคลื่นวิทยุ 94 อีเอฟเอ็ม ร่วมกัน คงไม่มีปัญหา เพราะก่อนหน้านี้เคยแยกกันทำงานมาสักพัก เพิ่งกลับมาทำงานร่วมกันได้ไม่ถึงเดือน หลังจากพระสึกออกมาคงกลับมาทำงานร่วมกันเหมือนเดิม

 ขณะที่ น.ส. ชลดา หรือเก๋ กล่าวเสริมว่า เข้าร่วมพิธีอุปสมบทครั้งนี้ พร้อมอนุโมทนาบุญเป็นที่เรียบร้อย โดยก่อนหน้านี้มีการส่งแมจเสจ เพื่อขออโหสิกรรมกับพระกฤษณ์ล่วงหน้าก่อนที่จะบวช  การบวชครั้งนี้พระกฤษณ์ตั้งใจและเคร่งครัดในพระวินัยมาก ตอนแรกตั้งใจจะบวชที่วัดป่า จังหวัดชุมพร แต่เพราะสถานที่ไม่อำนวย ศาลาวัดยังสร้างไม่เสร็จ กลัวจะไม่สะดวกกับผู้สื่อข่าว จึงย้ายสถานที่มาเป็นกรุงเทพฯ