
"กบฏ"ทางดนตรีความเชื่อแบบ"สล็อต แมชชีน"
คนจะมองว่าวงดนตรีของเมืองไทย ล้วนแล้วแต่มีพัฒนาการ ที่ไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ ยิ่งถ้าช่วงหนึ่งช่วงใด ที่มีวงไหนครองอำนาจในตลาดเพลง แทบจะทุกคนในตอนนั้น ที่จะมีแนวทางดนตรี ที่ไม่ต่างจากวงต้นแบบนั้น แต่ความคิดนี้ ถูกตีแตกกระเจิง เมื่อวงที่ชื่อ "สล็อต แมชชีน
ได้เปลี่ยนคำนิยามเดิมๆ ไปเสียสนิท จนพวกเขาเรียกแทนตัวเองว่าเป็น "กบฏ" เนื่องจากแนวทางที่เหล่าสมาชิกของวงได้แก่ "เฟิร์ส" เสฐพงษ์ ดุรงค์จิรกานต์ (ร้องนำ) "ออโต้" เศรษฐรัตน์ พังจุนันท์ (กลอง) "วิทย์" เจนวิทย์ จันทร์ปัญญาวงศ์ (กีตาร์) และ "แก๊ก" อธิราช ปิ่นทอง (เบส) สร้างขึ้นมาในแบบที่เป็นของพวกเขาเอง
และกว่า 7 ปีที่ "สล็อต แมชชีน" ยืนอยู่บนเส้นทางสายดนตรีนี้ พวกเขาไม่เคยทำให้แฟนเพลงของพวกเขาผิดหวัง ยิ่งเมื่ออัลบั้มก่อนหน้านี้ อย่างอัลบั้ม "GREY (เกรย์)" พวกเขาสร้างความฟีเวอร์มากในกลุ่มวัยรุ่นไทย จากความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร และท่วงทำนองที่ไม่มีวงร็อกหน้าไหนเหมือน จากอัลบั้ม "เกรย์" จนมาถึงอัลบั้มใหม่ล่าสุด "Cell (เซลล์)" อัลบั้มใหม่ล่าสุดของพวกเขา อัลบั้มนี้ได้แสดงให้เห็นการพัฒนาการที่เพิ่มไปอีกขั้นของพวกเขา โดยที่พวกเขาเองยังไม่รู้ตัว
"การที่พวกเราหายไปนานประมาณ 2 ปี 3 เดือน เพราะจากอัลบั้มเกรย์ เรามีงานโชว์เยอะมาก จนมาเมื่อปีที่แล้ว เราได้เริ่มหันกลับเข้ามาทำงานในห้องอัดอีกครั้ง และเริ่มหยิบเพลง "จันทร์เจ้า" ขึ้นมาทำ จริงๆ เพลงนี้เราได้มีการเขียนเนื้อไว้อยู่แล้ว โดยตอนแรก ที่เราทำยังไม่มีดนตรี จนได้ไปฟังเพลงของเก่า ของ สุรพล สมบัติเจริญ แล้วได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ที่บ้าน แล้วรู้ว่าในสมัยก่อน ถ้าผู้ชายผู้หญิงจะติดต่อกันนอกจากการเขียนจดหมาย แล้วอีกวิธีหนึ่ง คือการนัดที่จะมองพระจันทร์ในช่วงเวลาเดียวกัน มันทำให้ผมปิ๊งไอเดียเลยว่าเพลงจันทร์เจ้า จะต้องมีกลิ่นไอของความเป็นเพลงยุคคลาสสิค เก่าๆ หน่อย แล้วเราก็ทำเพลงจันทร์เจ้า ในแบบนี้ออกมา"แก๊กเล่า ก่อนจะเสริมต่อให้ฟังกันอีกว่า ตอนที่ทำเพลง "จันทร์เจ้า" ออกมาเรียบร้อยแล้ว ในใจไม่ได้รู้สึก ว่าเพลงนี้จะดีหรือจะโดดเด่น รู้สึกเป็นเพลงที่ธรรมดามาก
"ตอนแรกเรารู้สึกธรรมดากับเพลงนี้มาก จนพอเอาเพลงนี้ มาให้พี่ๆ ทีมงานที่โซนี่ทำ ทุกคนกลับบอกว่าเพลงนี้เจ๋งมาก และ "เจ" มณฑล จิรา ในฐานะที่เป็นโปรดิวเซอร์ของพวกเราในอัลบั้มนี้ เลยตัดสินใจ ว่าจะเลือกปล่อยเพลงนี้ เป็นเพลงเปิดตัวอัลบั้มใหม่ของพวกเรา โดยตอนแรกเราก็งง ว่าทำไมทุกคนถึงเลือกเพลงนี้ แต่พอกระแสรับที่กลับมา เราต้องยอมรับเลยว่าทีมงานของโซนี่ทุกคนที่เราทำงานด้วย ต่างหูถึงจริงๆ เพราะฟีดแบ็กกลับมาดีมาก ดีเกินกว่าที่เราคิดไว้" แก๊กกล่าว
โดย "เฟิร์ส" พูดถึงการทำงานในอัลบั้มนี้ ว่าพวกเขาได้มีการพูดคุยกันเยอะ ไม่ใช่ตอนที่ประชุมปรึกษากันในห้องประชุมร่วมกับทีมงานเท่านั้น แต่เพราะความเป็นเพื่อน พวกเขามีการพูดคุยกันนอกรอบด้วย และเมื่อมี "เจ" มณฑล มาเป็นโปรดิวเซอร์ ทำให้การทำงาน มีมุมที่มีสีสีนเพิ่มมากขึ้น เพราะความที่ "เจ" มณฑล เป็นอีกคนหนึ่ง ที่มุมมองทางดนตรีที่แตกต่างไม่เหมือนกัน และด้วยอุปนิสัย ที่ไปในทางเดียวกัน ทำให้การทำงานของพวกเขา ถือว่าผ่านไปได้อย่างดี โดย "เฟิร์ส" ยังเล่าต่อว่าอัลบั้ม "เซลล์" เหมือนเป็นคอนเซ็ปต์ ที่ต่อมาจากอัลบั้มที่แล้ว "เกรย์" เพราะอัลบั้มที่แล้ว พวกเขาให้เป็นอัลบั้มกลางๆ สีเทาๆ ไม่ขาว ไม่ดำ แต่พอมาชุดนี้พวกเขามองชีวิตในปัจจุบันมากขึ้น
"อัลบั้มนี้ เรามองว่า ความคิด ทัศนคติ ของพวกเราเปรียบเหมือนเซลล์ ซึ่งสิ่งที่เล็กที่สุด แต่ก็ยิ่งใหญ่ที่สุด เรามีการจับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ทั้งเรื่องของสังคม เรื่องของจินตนาการ วิญญาณมากกว่าเรื่องอื่นๆ พวกเราติดตามข่าวสาร แล้วเอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นท่วงทำนองเพลงของพวกเรา ในมุมมองแบบต่างๆ ส่วนในเรื่องของดนตรีชุดนี้ จะมีความจัดจ้านในเรื่องของดนตรีมากขึ้น แฟชั่นขึ้น ซึ่งหลายคนถามว่าแนวเพลงแบบของเราเรียกว่าอะไร ผมบอกเลยว่าเราตอบไม่ได้ว่าเราทำเพลงแนวอะไร แล้วแต่ว่าเราผ่าน เราเจออะไรมาในชีวิต พวกเราไม่ได้ติสต์หรืออะไร คือพวกเขาแค่ทำตามความคิดของพวกเราเท่านั้น" เฟิร์สเผย
ก่อนที่ "ออโต้" จะปิดท้ายว่า อัลบั้มก่อนๆ พวกเขาถูกด่าเยอะมาก แต่อัลบั้มนี้พวกเขาถูกด่าน้อยลงกว่าเดิม ซึ่งเสียงวิจารณ์เหล่านั้นไม่เคยมีผลกระทบต่อพวกเขา เพราะพวกเขามีความเชื่อในการทำงานเพลงของพวกเขา ในช่องว่างที่พวกเขาได้ยึดพื้นที่ไว้ตั้งแต่แรก และด้วยพื้นที่นั่น พวกเขาเชื่อว่าจะมีแฟนเพลงที่เชื่อในแนวเพลงของพวกเขารออยู่