
พุ่มพวง"ดวงจันทร์ที่ลับฟ้าแต่ชื่อไม่เคยละจากวงการ
13 มิถุนายน เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งเป็นการครบรอบ 19 ปีที่เธอจากวงการไปด้วยวัยเพียง 32 ปี หากวันนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ พุ่มพวง ดวงจันทร์ จะมีอายุย่าง 50 ปี และน่าจะทำคุณประโยชน์ในแง่การเป็นครูของนักร้องรุ่นต่อมาและสร
ทีมข่าว "คม ชัด ลึก” ได้สอบถามคนใกล้ชิดพุ่มพวงอย่าง ไกรสร ลีละเมฆินทร์ สามีของราชินีลูกทุ่ง และ สลักจิต ดวงจันทร์ น้องสาวของพุ่มพวง ถึงสิ่งที่คิดว่าหากพุ่มพวงยังอยู่ ชีวิตเธอจะเป็นเช่นไร
ไกรสร แสงอนันต์ หรือ ไกรสร ลีละเมฆินทร์ สามีพุ่มพวง ให้สัมภาษณ์ถึงกิจกรรมและสิ่งที่ภรรยาอันเป็นที่รักเปรยไว้ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ว่า
“พุ่มพวงคงจะเป็นนักร้องลูกทุ่งคนแรกๆ ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ร้องเพลงสากลได้ เพราะเธอวางแผนจะเรียนภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ เพื่อใช้เป็นภาษาที่สอง เพราะเธอไม่ได้เรียนสูงแต่ไปโชว์ต่างประเทศบ่อยจึงกระตุ้นการอยากรู้อยากเห็น และเธอคงจะเป็นผู้นำแฟชั่น ชนิดที่อาจจะหลุดโลกแบบเลดี้กาก้า เพราะเธอชอบเรื่องแฟชั่นเสื้อผ้ามาก แต่คงไม่ถึงกับมาทำเสื้อผ้าเป็นอาชีพ
เรื่องของครอบครัว พุ่มพวงเขาวางแผนอยากให้ลูกชายคนเดียวได้เรียนสูงๆ เพื่อทดแทนสิ่งที่เธอขาดหายไป และคิดว่า คงจะพยายามปั้นลูกชายให้เป็นดาวประดับวงการให้จงได้
ถ้าพุ่มพวงยังอยู่เธอคงจะได้ไปชื่นชมหุ่นขี้ผึ้งของเธอที่พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ เพราะเราเคยไปดูกันมาแล้วที่ประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ เขาชอบมาก ตอนนั้นคงไม่คิดว่าตัวเขาต้องมายืนเป็นหุ่นแบบนี้หรอก เพราะตอนนั้นเขายังดังอายุยังน้อย เขาชื่นชมความสามารถของศิลปินเหล่านั้นมากกว่า ถ้านักร้องลูกทุ่งไทยมีความเป็นนักร้องมืออาชีพแบบนั้นวงการลูกทุ่งจะไปไกลถึงต่างประเทศเหมือนเพลงคันทรี”
ด้าน สลักจิต ดวงจันทร์ น้องสาวของพุ่มพวง พูดถึงพี่สาวด้วยความรักและคิดถึงว่า
“ถ้าพี่เขายังอยู่ เขาน่าจะทำอะไรให้แก่วงการลูกทุ่งได้มาก เพราะเขาไม่เคยหยุดนิ่งเลยในการคิดทำงาน ยิ่งถ้ามีอะไรใหม่ๆ เข้ามาเหมือนทุกวันนี้ พี่ผึ้งเขาจะทำให้วงการด้วยใจที่เต็มร้อย ช่วงที่เขาป่วย เขาเคยพูดว่า วันหนึ่งถ้าคนทำเพลงลูกทุ่งทำไม่ดี อีกหน่อยเพลงลูกทุ่งจะเปลี่ยนไปจะเหลือแต่ยกทรงกับกางเกงใน ซึ่งมันจะเกิดด้วยด้วยน้ำมือคนลูกทุ่งเอง เขาห่วง เขาเดินทางเยอะเขาเห็นความเปลี่ยนแปลงในวงการบันเทิง พี่ผึ้งเขาบอกว่าถ้าเขาไม่ป่วยตายเสียก่อนเขาจะทำงานลูกทุ่งให้ออกมายิ่งใหญ่ ให้คำว่าลูกทุ่งแทรกขึ้นมาเหมือนเพลงต่างประเทศ"
ด้าน ทวีชัย จริยะเอี่ยมอุดม ผู้บริหารค่ายท็อปไลน์ไดมอนด์ ที่มีลิขสิทธิ์เสียงร้องเพลงของพุ่มพวงมากที่สุดและได้ร่วมงานกันมาจนถึงเกือบวาระสุดท้าย ในปีนี้ได้นำเพลงของเธอทั้งหมดมารวมออกเป็นอัลบั้มที่ระลึกรับ 19 ปี ชื่อชุด “ที่ระลึกราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์” กับ “ตำนานเพลงลูกทุ่ง” ในราคาพิเศษ กล่าวถึงพุ่มพวงว่า
“ทางค่ายเคยนำเสียงคุณพุ่มพวงที่ร้องเพลงไว้ไปใส่ดนตรีมิกซ์แบบแนวแดนซ์มานานแล้ว ซึ่งก็พบว่า เพลงจังหวะเร็วทำได้ เสียงเขาเข้ากับเพลงในแนวแดนซ์ได้กลมกลืน แต่เสียดายที่เราไม่ได้มีโอกาสทำตอนที่เขามีชีวิตอยู่ ทุกๆ ปีทางค่ายท็อปไลน์ก็ได้ทำบุญสังฆทานให้เขาทุกปี ในวันที่ 13 เราทำกันแบบเงียบๆ ที่วัดสะพาน ริมทางรถไฟสายเก่า พระโขนง กรุงเทพฯ ครับ”
ถ้าพุ่มพวงยังมีชีวิตอยู่ถึงวันนี้ อาจจะมีเรื่องฉงน คือ เรื่องของลิขสิทธิ์เพลง หรือทรัพย์สินทางปัญญาที่ในส่วนเสียงร้องกับทำนองเพลงดังๆ ของพุ่มพวงส่วนใหญ่นั้นมีลิขสิทธิ์อยู่กับค่ายเพลงท็อปไลน์ แต่ขณะเดียวกันลิขสิทธิ์คำร้องที่แต่งโดยครูลพ บุรีรัตน์ นั้นลิขสิทธิ์อยู่กับอีกค่ายคือ แกรมมี่โกลด์ อันเป็นเรื่องที่หลายคนอาจสับสน
และที่สำคัญที่สุด ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ในวันนี้ เสียงบันทึกที่เธอพูดไว้ตอนป่วย คงจะไม่กลายมาเป็นชนวนให้คนเกี่ยวข้องที่ยังมีชีวิตอยู่ต้องมีเรื่องราวบาดหมางใจกันชนิดที่ตัดขาดญาติมิตรและมองหน้ากันไม่ติดเฉกเช่นทุกวันนี้