วันวาน-วันนี้-วันหน้าของ"พิงค์กี้"สาวิกา | คมชัดลึก

 นอกจากความสามารถด้านการแสดง เธอคนนี้ยังมีพรสวรรค์ในเรื่องการร้องเพลงและการเต้น แต่น่าเสียดายที่อัลบั้มแรกในชีวิตที่ทำร่วมกับเพื่อนๆ ในนาม "บัก บันจี้" สังกัด "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" ไม่เปรี้ยงเท่าที่ควร ก่อนจะกลับมาแสดงละครอีกครั้งเ มื่อพิงค์กี้โตเป็นสาวสวยสะพรั่งเต็มวัย ชีวิตจริงผ่านม่านมายาได้เริ่มต้นขึ้นบนถนนสายบันเทิงตามที่เธอเลือกเอง

 "ความรักของดารา" เรื่อง (ไม่) ธรรมดาที่ประชาชนให้ความสนใจ ความจริงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวสวยจะมีชายหนุ่มหมายตา ประสบการณ์ความรักของพิงค์กี้เริ่มต้นขึ้นผ่านแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูป จนปรากฏเป็นภาพข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อบันเทิง เมื่อนางเอกตาคมเปิดตัวแฟนคนแรก "เบนซ์" นิพิธ ฮันเก้ เขาคนนี้เป็นนักแสดงหนุ่มลูกครึ่งในสังกัดเดียวกับเธอ คือบริษัทกันตนา เรื่องรักร่วมค่ายมีกระแสเป็นที่จับตามองอยู่บ้าง แต่ไม่นานนักกลับเงียบหายไปพร้อมการเปิดใจของสาวพิงค์กี้ว่า "ใส่คอนเวิร์ส โนรีเทิร์น" กับหนุ่มเบนซ์เป็นที่เรียบร้อย

 หลังจากครองตัวเป็นสาวโสดนานนับปี กระจอกข่าวต้องตื่นเต้นอีกครั้ง เมื่อพิงค์กี้ประกาศคบหาดูใจกับพระเอกหนุ่มหุ่นล่ำ "อั้ม" อธิชาติ ชุมนานนท์ นักแสดงสุดฮอตของวิกพระรามสี่ จนกลายเป็น "มนต์รักต่างช่อง" ที่หนุ่มอั้มดูแลเทคแคร์หวานใจอย่างดี ตามส่งข้าวส่งน้ำถึงกองถ่าย ควงกันออกงานโกยรายได้เข้ากระเป๋า ไม่แคร์กระแสข่าวรักโปรโมท นอกจากนี้พิงค์กี้ยังนั่งยันนอนยันว่า "อั้มแมน 100 เปอร์เซ็นต์" เข้าตำรา "ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน" พอเลิกกันปุ๊บ "น้ำตาลยังว่าขม" เพราะนางเอกสาวตาคมอ้ำอึ้ง เมื่อตอบคำถามเรื่องความแมนของหนุ่ม "อั้ม" อธิชาติ ผิดกับวันวาน  

 ปิดแฟ้มมนต์รักต่างช่องไปไม่นาน หัวใจสีชมพูของพิงค์กี้กระชุ่มกระชวยขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีกระแสข่าวว่าไฮโซหนุ่มเจ้าของโบนันซ่าตามขายขนมจีบ พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์หมดเปลือกว่าหนุ่มคนนี้ทั้งแสนดี และเอาใจใส่เธอทุกอย่าง แต่ไม่อยากพูดอะไรมากเพราะเป็นผู้หญิง บอกใบ้มาว่าชื่อเหมือนเทศกาล จนสื่อฟันธงว่าหนุ่มคนนั้นคือ สงกรานต์ เตชะณรงค์ แต่งานนี้สาวพิงค์กี้ต้องหัวใจสลาย เมื่อฝ่ายชายออกมาเปิดตัวคบหากับนางเอกหน้าหวานวิกพระรามสี่ "แอฟ" ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ พร้อมปฏิเสธข่าวตามจีบพิงค์กี้เต็มปาก ทำเอาสาวตาคมร้าวรานเก็บตัวเงียบสยบข่าวอยู่พักใหญ่ หายหน้าไป "โกอินเดีย" ฝึกร้องเล่นเต้นระบำภารตแทน

 จนประมาณกลางปี 2553 มีกระแสข่าวออกมาหนาหูว่า เธอสนิทสนมกับสามีของนักแสดงสาวรุ่นพี่ "ธัญญ่า" ธัญญาเรศ เองตระกูล ตอนแรกธัญญ่าและพิงค์กี้ถ่ายรูปคู่โต้ข่าวว่าสนิทสนมตามประสาพี่น้อง แถมธัญญ่ายังเชื่อใจรับประกันว่าไม่มีเรื่องราวเสื่อมเสียเกิดขึ้นแน่นอน เมื่อเวลาผ่านไป ข่าวค(ร)าวยังไม่จบ เพราะมีคนเห็นพิงค์กี้ไปไหนมาไหนกับสามีคนอื่นบ่อยครั้ง จากพยานบุคคลกลายเป็นพยานหลักฐาน พร้อมคลิปเสียงระหว่าง 2 หญิง 1 ชาย รวมทั้งมีคุณแม่ของสาวพิงค์กี้เข้ามาเกี่ยว ทำเอาบ้านฝ่ายชายร้อนเป็นไฟ จนธัญญ่าอดทนต่อไปไม่ไหว อุ้มลูกสาววัยน่ารักหลบไปพัก รักษาแผลใจไกลถึงอเมริกา ก่อนเตรียมความพร้อมกลับมาดำเนินการเรื่อง "หย่า" แม้ตอนนี้ธัญญ่ายังไม่หย่า แต่เธอยืนยันว่าในอนาคตต้องแยกทางกับสามีแน่นอน

 เรื่องความสัมพันธ์คลุมเครือของพิงค์กี้กับสามีของนางเอกรุ่นพี่ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ประจวบกับที่เธอหมดสัญญากับวิก 7 สีพอดิบพอดี โดยเธอเลือกที่จะไม่เซ็นสัญญาต่อกับช่อง 7 สี เมื่อผู้ใหญ่ทางช่องเรียกไปต่อ เธอก็ทำท่ายึกยัก จึงกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย จนมีคำสั่งจากระดับบิ๊ก ให้ประชาสัมพันธ์ส่งแฟกซ์ระบุว่า พิงค์กี้ไม่ได้เป็นเด็กในสังกัดวิก 7 สีแล้ว จากนั้นพิงค์กี้เดินหน้าต่อ เตรียมลงละครเรื่องใหม่ "เงาพราย" ประกบคู่ "หนุ่ม" ศรราม เทพพิทักษ์ ของค่าย "ทีวีซีน" ทางช่อง 3 ทว่าทนกระแสแอนตี้ไม่ไหว เธอจึงขอถอนตัว จนต้องมีการเปลี่ยนตัวนางเอกกะทันหัน ส้มหล่นใส่ "มาร์กี้" ราศรี บาเลนซิเอก้า มาเสียบแทน

 มรสุมข่าวโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง เมื่อบ้านหลังแรกอย่าง "กันตนา" พยายามดันเธอลงละครฟอร์มยักษ์ "สุดหัวใจเจ้าชายเทวดา" ทางโมเดิร์นไนน์ เพราะหวังทำให้เธอกลับมามีที่ยืนอีกครั้ง ด้วยฝีมือการแสดง แต่ผู้ใหญ่ทางโมเดิร์นไนน์ ทนกระแสสังคมไม่ไหวเช่นกัน สั่งปลดฟ้าผ่า เปลี่ยนตัวนางเอกเหตุหวั่นเรื่องศีลธรรม ทำให้พิงค์กี้และคุณแม่ช้ำหนักออกมาร่ำไห้ เปิดใจจะบินไปเรียนเต้นและดูลู่ทางเรื่องธุรกิจที่ประเทศฟินแลนด์ ก่อนหน้านี้เธอยังดีที่มีงานแสดงภาพยนตร์ที่อินเดีย ทว่าล่าสุดดันมีกระแสข่าวว่าเธอ "ตั้งท้อง" กลายเป็น "ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์" อีกครั้ง เธอจึงต้องเปิดแถลงข่าวชี้แจง พร้อมตรวจเลือด ซึ่งผลออกมาว่าเธอ "ไม่ได้ท้อง" 

 เส้นทางชีวิตของพิงค์กี้ราบรื่นและเป็นดาวรุ่งมาโดยตลอด ด้วยฝีมือและพรสวรรค์ทางการแสดง ทำให้เธอสามารถโลดแล่นในวงการบันเทิงนานนับ 20 ปี แต่เพราะเรื่องส่วนตัวที่เสี่ยงกับคำว่า "ศีลธรรม" ทำให้นางเอกสาวอนาคตไกลต้องเผชิญหน้ากับมรสุมลูกใหญ่ ชีวิตบนเส้นทางสายบันเทิงจะเป็นอย่างไร หนังที่แสดงไว้ที่อินเดียซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ จะได้รับการต้อนรับที่ดีหรือไม่ ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม และเหนือสิ่งอื่นใดคำตอบสุดท้ายขึ้นอยู่กับ "โอกาส" จากประชาชนชาวไทยด้วยว่า พร้อมจะต้อนรับเธออีกครั้งหรือไม่