ข่าว

เที่ยว"ภูเก็ต"ปลอดภัยกับ..."สารวัตรเอกชัย"

เที่ยว"ภูเก็ต"ปลอดภัยกับ..."สารวัตรเอกชัย"

26 ก.ย. 2553

"ภูเก็ต" เมืองสวรรค์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขณะเดียวกันก็อาจเป็นสถานที่ลี้ภัยของบรรดาเหล่าอาชญากรข้ามชาติที่ปะปนมากับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่หลั่งไหลมาชื่นชมความงามของเมืองริมทะเลแห่งนี้ หรือบางทีอาจเป็นแหล่งขุมทรัพย์สำคัญของอาชญากรคนไทย

 พ.ต.ท.เอกชัย พราหมณกุล  สว.ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท. หัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองภูเก็ต ผู้มีประสบการณ์ด้านงานสืบสวนปราบปราม ทั้งในพื้นที่นครบาล และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะสร้างความอุ่นใจให้นักท่องเที่ยวในเมืองภูเก็ตเพียงใด

    - ปัญหาอาชญากรรมในเมืองภูเก็ต
 ส่วนใหญ่จะเป็นคดีสาวประเภทสองและผู้หญิงที่ทำงานสถานบริการ ลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขณะเมาสุราหรือไปร่วมหลับนอนด้วย การแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ทำแฟ้มประวัติของคนกลุ่มนี้ไว้แล้ว เมื่อเวลาเกิดเหตุก็จะให้นำแฟ้มประวัติให้นักท่องเที่ยวดู ก็สามารถช่วยให้ตำรวจทำงานง่ายขึ้น รองมาคือคดีต้มตุ๋นจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน ซึ่งเข้ามาเช่าบ้านหรู มีพนักงานคอยโทรศัพท์ล่อลวงคนในประเทศของเขา เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งจับไปได้ 40 ราย และกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่หนีเข้ามากบดานอยู่ที่นี่

 - มาตรการดูแลปราบปรามอาชญากรเหล่านี้
 ส่วนงานที่รับผิดชอบจะดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และพังงา ปกติจะส่งรถยนต์สายตรวจ ซึ่งเป็นรถสีขาวๆ ออกตรวจรอบพื้นที่ นอกจากนี้ ก็มีตำรวจท่องเที่ยวประจำที่ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยทำงานร่วมกับท่าอากาศยาน และ สภ.ภูเก็ต นอกจากนี้จะมีตู้ยามตู้บริการนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ที่ อ.ป่าตอง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ 1 นาย แล้วก็มีอาสาสมัครทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ คอยดูแลและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดในตอนกลางวัน ส่วนเวลากลางคืนก็จะมีตำรวจสายตรวจในชุดเครื่องแบบเดินเท้าตรวจในซอยบางเวลา ซึ่งเป็นวอล์กกิ้งสตรีทของเมืองภูเก็ต

 - เปรียบเทียบปัญหาอาชญากรรมที่เกิดกับนักท่องเที่ยวในเมืองภูเก็ตกับพังงา
 ลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ไม่มากเท่าภูเก็ต เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะมาเป็นครอบครัว และแถวเขาหลักที่พักนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ค่อยมีสถานบันเทิง ยิ่งเป็นโลว์ซีซั่นนั้นจะเงียบมาก ทั้งนี้ เตรียมขอพื้นที่สร้างที่ทำการชั่วคราว โดยจะส่งตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย หมุนเวียนไปดูแลความปลอดภัยในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น

 - มีการอบรมอาสาสมัครช่วยงานตำรวจท่องเที่ยว
 หลังเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อ 6 ปีก่อน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตจำนวนมาก มีการรวมกลุ่มช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกันอยู่แล้ว จึงชักชวนกลุ่มเหล่านี้มาอบรมเป็นอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความสนใจจากคนไทยและคนต่างชาติมาร่วมอบรมจำนวนมาก และออกตรวจร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งอาสาสมัครเหล่านี้ พวกเขามาช่วยด้วยใจ ไม่มีเงินไม่มีค่าตอบแทน ต้องยอมรับว่าพวกเขาเสียสละกันจริงๆ

 - มีส่วนร่วมในการฝึกซ้อมเตือนภัยสึนามิ
 หน้าที่หลักเป็นของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต (ปภ.ภูเก็ต) ตำรวจท่องเที่ยวก็ช่วยประชาสัมพันธ์ ส่งตำรวจและอาสาสมัครไปร่วมฝึกซ้อมด้วย อย่างไรก็ตาม ได้มีการเตรียมแผนไว้แล้วหากมีการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจริงๆ นั้น เรากำหนดตัวคนไว้ว่า ถ้ามีการแจ้งเตือนโดยการส่งข้อความผ่านมือถือ(เอสเอ็มเอส) จากหัวหน้าหน่วยแล้วจะต้องไปประจำจุดที่ได้รับมอบหมายตามที่กำหนดไว้

 - ปัญหาที่น่าหนักใจเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว
 เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เออร์ลี่รีไทร์แล้วมาท่องเที่ยวในเมืองภูเก็ตแล้วใช้เงินหมด หรือถูกหลอกลวงจนไม่มีเงินกลับประเทศ จึงมีปัญหาตกค้างตามโรงแรม โรงพยาบาล สถานที่ตำรวจต่างๆ ในพื้นที่ สุดท้ายนักท่องเที่ยวเหล่านี้จะถูกส่งมาที่ตำรวจท่องเที่ยว ทางเราต้องติดต่อสถานทูตแล้วประสานญาติที่อยู่ต่างประเทศให้ส่งเงินมาให้กลับประเทศภายใน 1-2 วัน ใจจริงอยากสร้างบ้านน็อกดาวน์ให้พวกเขาอยู่เป็นการชั่วคราว ซึ่งกำลังขอคำปรึกษาจากผู้บังคับบัญชาและภาคเอกชนในพื้นที่อยู่

 - หากมีบ้านน็อกดาวน์ให้อยู่แล้วชาวต่างชาติไม่ยอมกลับประเทศ
 คงจะเป็นไปไม่ได้ หลายคนก็มองว่าจะกลายเป็นภาระ แต่ปล่อยเขาไปตามลำพังอาจถูกถูกรถชนหรือถูกแทงตายก็ไม่ดีอีก ผมมองว่าน่าจะมีช่องทางที่พอช่วยเหลือได้บ้าง หากติดต่อญาติไม่ได้แล้วก็จะใช้ขั้นตอนทางกฎหมาย คือ พาสปอร์ตหมดอายุแล้วส่งให้ ตม. ผลักดันกลับประเทศ แต่วิธีนี้จะเป็นทางเลือกสุดท้าย

 - มีส่วนร่วมสร้างภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว
  ภูเก็ตจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดีได้ ขึ้นอยู่กับคนในพื้นที่เอง ทั้งผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า คนขับรถแท็กซี่ ฯลฯ คือทุกคนต้องสร้างจิตสำนึกท้องถิ่น และต้องเข้าใจบทบาทของตัวเอง ไม่ใช่เพียงแต่จะแสวงหาผลประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว การกระทำใดๆ ที่เป็นการหลอกลวง เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว อาจทำให้ได้กำไรมากๆ เพียงครั้งเดียว นักท่องเที่ยวเหล่านั้นก็จะไม่กลับมาซื้ออีก สู้ทำอะไรน้อยๆ แต่ยั่งยืนดีกว่า แถมยังเป็นการสร้างประโยชน์ให้แก่เมืองภูเก็ตอีกทางหนึ่ง

 ขณะที่ ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวที่เทียบเคียงกับภูเก็ตในต่างประเทศมีค่อนข้างเยอะ หากคนภูเก็ตยังสร้างวัฒนธรรมที่ไม่ถูกต้อง คิดว่าชาวต่างชาติมาแล้วเราจ้องจะกอบโกยอย่างเดียว ผลกระทบที่กลับมามันก็จะสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ได้ ถึงแม้ว่าผมไม่ใช่คนภูเก็ตเอง แต่เมื่อมาทำงานที่นี่ ทำให้ผมรักเมืองภูเก็ต จึงอยากให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่น่าอยู่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเยอะๆ พบเจอผู้คนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ผมมักจะบอกทุกๆ คนว่า ถ้าคุณมีจิตสำนึกที่จะบริการที่ดี ภูเก็ตจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าอยู่ คนทั่วโลกจะมาเที่ยวที่นี่

 - รู้สึกอย่างไรกับคลิปตำรวจท่องเที่ยว
 จริงๆ ก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบนะ บางคนก็ว่า ตำรวจท่องเที่ยวมีเวลาว่างเยอะนักเหรอ มาเต้นอะไรกัน (หัวเราะ) เรื่องนี้เป็นนโยบายท่านผู้การฯ (พล.ต.ต.อดิศร งามจิตสุขศรี) มอบนโยบายให้ไปทำมิวสิกวิดีโอกันมา ซึ่งคลิปที่ฮือฮาเป็นของตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ซึ่งเป็นระดับนายตำรวจหมดเลย ใจจริงตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตก็อยากทำแบบนั้นบ้าง แต่ติดที่กรอบเวลาและสถานที่ เพราะสารวัตรแต่ละสถานีอยู่กันคนละจังหวัด ตอนนั้นพวกเราเต้นเพลง "waka waka" เพลงประจำบอลโลก เคยโพสต์ลงยูทูบแต่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ แต่สู้ "sorry sorry" ไม่ได้หรอก (หัวเราะ) ช่วงนั้นก็มีคนแซวว่า ไม่ทำงานกันเหรอ ว่างนักเหรอ ส่วนนักข่าวก็แซวว่า ต้องเต้นให้ดูก่อน เดี๋ยวไม่ลงข่าวให้นะ ช่วงนั้นใครๆ ก็แซว แค่เต้นทีเดียวก็อายแย่แล้ว (ฮา)